- 30 ม.ค. 2568
ทนายเกิดผล ได้ออกมาโพสต์ข้อความให้ความรู้ทางกฎหมาย กฎณีด่ากันในแชทนั้น มีความผิดฐานดูหมิ่นซึ่งหน้า หรือไม่
ทนายเกิดผล ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ทนายเกิดผล แก้วเกิด ระบุว่า
ด่ากันทางแชทไม่ผิดฐานดูหมิ่นซึ่งหน้า
โทรศัพท์ไปด่ากันไม่มีความผิดฐานดูหมิ่นซึ่งหน้า
แต่เดิมที ถ้ามีการด่าทอกันต่อหน้า (โดยไม่มีบุคคลที่สาม) ก็เป็นความผิดฐานดูหมิ่นซึ่งหน้า ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 393
( มาตรา 393 ผู้ใดดูหมิ่นผู้อื่นซึ่งหน้าหรือด้วยการโฆษณา ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ)
เฉลยแล้ว "ด่ากันในแชท" มีความผิดฐาน ดูหมิ่นซึ่งหน้า หรือไม่
แต่การส่งข้อความไปด่าทางช่องแชท ไม่ว่าจะทางไลน์ เฟสบุ๊ค หรือ Email ที่เป็นส่วนตัว จะมีความผิดฐานดูหมิ่นซึ่งหรือไม่
เดิมที สำนักงานอัยการสูงสุดเคยมี คำชี้ขาดความเห็นแย้งที่ 27/2549 ว่า
การส่งข้อความมาด่าทางเฟสบุ้ค
การส่งsmsทางโทรศัพท์มาด่า
ซึ่งผู้เสียหายเห็นทันทีมีการโต้ตอบกัน
และผู้เสียหายไม่ได้ด่ากลับ
“ก็ถือว่าเป็นการถูกดูหมิ่นซึ่งหน้า…เอาผิดได้ ตามกฎหมายอาญา มาตรา 393
แต่ต่อมาศาลฎีกา วินิจฉัย ในกรณี ต่อคนต่างอยู่ต่างสถานที่ และจำเลย โทรศัพท์มาด่าผู้เสียหาย ซึ่งอยู่ห่างโดยระยะทาง
ศาลฎีกาพิพากษาว่า ไม่เป็นความผิดฐานดูหมิ่นซึ่งหน้า ตาม
คำพิพากษาฎีกาที่ ๓๗๑๑/๒๕๕๗
(คำพิพากษาศาลฎีกาที่ ๓๗๑๑/๒๕๕๗ จำเลย โทรศัพท์ไปหาผู้เสียหายด่าว่าและทวงเอกสาร ขณะเกิดเหตุผู้เสียหายอยู่ห่างไกลกันคนละอำเภอกับจำเลย แต่องค์ประกอบความผิดฐานดูหมิ่นผู้อื่นซึ่งหน้าตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 393 ถ้าเป็นการกล่าวด้วยวาจา ผู้กระทำต้องกล่าวซึ่งหน้าผู้เสียหาย การกระทำของจำเลยจึง ไม่เข้าองค์ประกอบความผิดฐานดูหมิ่นผู้อื่นซึ่งหน้า
หมายเหตุท้ายฎีกา ความผิดฐานดูหมิ่นผู้อื่นซึ่งหน้า ตาม ป.อ.มาตรา 393 นั้น กฎหมายมิได้บัญญัติว่าการดูหมิ่นซึ่งหน้าจะต้องกระทำด้วยการใช้คำพูด จึงอาจเป็นการกระทำด้วยวิธีการอย่างอื่น เช่นส่งกระดาษที่มีข้อความด่าว่าให้ผู้อื่น ชี้ไปที่สุนัขในลักษณะเปรียบเปรยว่าเขาผู้นั้นเป็นสุนัข เพียงแต่การกระทำดูหมิ่นนั้นจะต้องเป็นการกระทำซึ่งหน้าผู้อื่นที่ผู้กระทำนั้นเจตนาต้องการดูหมิ่นเขา…….ถ้ามิได้กระทำซึ่งหน้าผู้เสียหาย จึงขาดองค์ประกอบภายนอกของความผิดฐานดูหมิ่นซึ่งหน้าตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 393 ซึ่งเป็นไปตามหลักการตีความกฎหมายอาญาที่ว่า “กฎหมายอาญาต้องตีความโดยเคร่งครัด”)
ซึ่งต่อมาภายหลัง สำนักงานอัยการสูงสุดได้มี คล้อยตามคำพิพากษาศาลฎีกา โดยมี
คำชี้ขาดความเห็นแย้งที่ ๔๐๙/๒๕๕๙ สรุปว่า การส่งข้อความมาด่าผ่านช่องแชทในแอปพิเคชั่นไลน์ ไม่เป็นความผิดฐานดูหมิ่นซึ่งหน้า จึงมีความเห็นว่า...เมื่อผู้ต้องหาส่งข้อความ อันเป็นการดูหมิ่นผ่านทางโทรศัพท์เคลื่อนที่โดยผู้ต้องหาไม่ได้ปรากฏตัวให้ผู้เสียหายที่ ๑ เห็นซึ่งหน้าที่สามารถเข้าถึงตัวกันได้ทันทีที่ผู้ต้องหาส่งข้อความ การกระทําของผู้ต้องหา จึงไม่เข้าองค์ประกอบความผิดฐานดูหมิ่นซึ่งหน้า คดีมีพยานหลักฐานไม่พอฟ้อง
(คําชี้ขาดความเห็นแย้งที่ ๔๐๙/๒๕๕๙ ป.อ. ดูหมิ่นซึ่งหน้า (มาตรา ๓๙๓)
ผู้ต้องหาได้ส่งข้อความผ่านโปรแกรมแชทไลน์เข้าไปยังโทรศัพท์เคลื่อนที่ของ ผู้เสียหายที่ ๑ มีข้อความว่าผู้เสียหายที่ ๑ เป็นชู้กับผู้เสียหายที่ ๒ – ที่ ๕ ต่อมาหลังเกิดเหตุ ผู้ต้องหารับว่าเป็นผู้ส่งข้อความดังกล่าวไปยังผู้เสียหายที่ ๑ จริง แต่เนื่องจากขณะที่ ผู้เสียหายที่ ๑ รับข้อความดังกล่าว ผู้ต้องหาไม่ได้อยู่ต่อหน้าหรือกล่าวข้อความดังกล่าวซึ่งหน้า ผู้เสียหายที่ ๑ ซึ่งองค์ประกอบความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๙๓ บัญญัติให้ ผู้กระทําต้องกล่าวข้อความดูหมิ่นต่อหน้าผู้ถูกกระทํา เพราะบทบัญญัติมาตรานี้ มีเจตนารมณ์ ป้องกันเหตุร้ายที่อาจเข้าถึงตัวกันได้ทันทีที่มีการกล่าวข้อความดูหมิ่น เมื่อผู้ต้องหาส่งข้อความ อันเป็นการดูหมิ่นผ่านทางโทรศัพท์เคลื่อนที่โดยผู้ต้องหาไม่ได้ปรากฏตัวให้ผู้เสียหายที่ ๑ เห็นซึ่งหน้าที่สามารถเข้าถึงตัวกันได้ทันทีที่ผู้ต้องหาส่งข้อความ การกระทําของผู้ต้องหา จึงไม่เข้าองค์ประกอบความผิดฐานดูหมิ่นซึ่งหน้า คดีมีพยานหลักฐานไม่พอฟ้อง)
เฉลยแล้ว "ด่ากันในแชท" มีความผิดฐาน ดูหมิ่นซึ่งหน้า หรือไม่