"หมอเจด" เตือนคนไทย ล่าสุด อเมริกา ป่วยวันละ 190,000 คน หนักสุดในรอบ 15 ปี

"หมอเจด" นพ.เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมา ได้ออกมาโพสต์ข้อความเตือน ระบุ โผล่อีกที่ เตือนคนไทย ไข้หวัดใหญ่เล่นงานอเมริกา ป่วยวันละ 190,000 คน หนักสุดในรอบ 15 ปี

ตอนนี้ไข้หวัดใหญ่กำลังระบาดหนักเลยนะครับ แค่ในช่วง 5 วันที่ผ่านมา ญี่ปุ่นเผชิญกับการระบาดรุนแรงมาก และล่าสุด สหรัฐอเมริกากำลังเผชิญกับการแพร่ระบาดที่หนักสุดในรอบ 15 ปี ผู้ติดเชื้อพุ่งทะลุ 24 ล้านคน และตัวเลขยังคงเพิ่มขึ้นอย่างน่ากลัว หลายคนอาจคิดว่าเป็นแค่หวัดธรรมดา แต่จริงๆแล้วไข้หวัดใหญ่อาจนำไปสู่ ภาวะแทรกซ้อนรุนแรง เช่น ปอดบวม หัวใจอักเสบ สมองอักเสบ และอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยง วันนี้เรามาดูสถานการณ์ปัจจุบันและวิธีป้องกันตัวเองกันครับ

1. ไข้หวัดใหญ่ระบาดหนักในสหรัฐอเมริกา มันรุนแรงแค่ไหน?
ปีนี้ไข้หวัดใหญ่ระบาดหนักในอเมริกาหนักมากนะครับ
ตามรายงานของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกา (CDC)
ในช่วง 126 วัน (29 กันยายน 2567- 1 กุมภาพันธ์ 2568)
ตอนนี้มีคนป่วยไปแล้ว 24 ล้านคน
และในจำนวนนี้ มีถึง 310,000 คน ต้องเข้าโรงพยาบาล
และที่น่าตกใจคือ มีคนเสียชีวิต 13,000 คน เลยทีเดียว
โดยเฉพาะเด็ก ๆ เสียชีวิตไปแล้ว 57 คน (เพิ่มขึ้น 10 คนจากสัปดาห์ก่อน) ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ต้องระวังมาก ๆ
ถ้าคิดเฉลี่ยแล้ว ไข้หวัดใหญ่นี้ทำให้มีคนป่วย
วันละ 190,000 คน และมีคนเสียชีวิตไปถึง 100 คนต่อวัน ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงนะครับ นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมเราต้องป้องกันตัวเองให้ดีที่สุด

2. ป่วยแล้วต้องเข้าโรงพยาบาลแค่ไหน? เปรียบเทียบกับคนที่เสียชีวิต
ลองมาดูตัวเลขกัน ถ้าคุณติดไข้หวัดใหญ่ โอกาสที่คุณจะต้องเข้าโรงพยาบาลอยู่ที่ประมาณ 1.29%
และโอกาสเสียชีวิตอยู่ที่ 0.054% ซึ่งแม้จะดูเป็นตัวเลขที่ไม่เยอะมาก แต่เมื่อเอามาคูณกับจำนวนผู้ป่วยทั้งหมด ก็เป็นตัวเลขที่น่าตกใจอยู่ดี
ซึ่งสิ่งสำคัญที่อยากจะย้ำคือ
•มีคนป่วย 1,000 คน จะมีประมาณ 13 คนที่ต้องเข้าโรงพยาบาล
•และในจำนวนนี้ อาจมี 1 คนที่เสียชีวิต
ฟังดูแล้วอาจจะรู้สึกว่าโอกาสน้อย แต่ถ้าคิดว่าทั้งประเทศมีคนติดเป็นล้าน ๆ คน ซถึงจะดูเป็นตัวเลขที่น้อย แต่ในระดับประชากรทั้งหมด ถือเป็นจำนวนที่สูงมาก
นอกจากนี้ยังแสดงให้เห็นว่าอัตราการเสียชีวิตในเด็กเพิ่มขึ้น เพราะฉะนั้นต้องปกป้องกลุ่มเสี่ยง เช่น เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคเรื้อรัง หรือคนที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ

3. วัคซีนไข้หวัดใหญ่ ซีกโลกเหนือ vs. ซีกโลกใต้ ควรเลือกฉีดแบบไหน?
อย่างที่ทุกคนรู้ดีนะครับว่า อีกวิธีป้องกันไข้หวัดใหญ่ รวมถึงภาวะแทรกซ้อนที่จะตามมา คือการฉีดวัคซีน
และก็มีบางคนอาจสงสัยว่า วัคซีนไข้หวัดใหญ่มีหลายแบบ แล้วเราควรเลือกฉีดแบบไหน ก็ต้องตอบว่าขึ้นอยู่กับว่าคุณอยู่ที่ไหน
อย่างที่บอกไปนะว่าแบ่งเป็น 2 แบบ
- วัคซีนซีกโลกเหนือ  จะใช้ในประเทศแถบซีกโลกเหนือ เช่น สหรัฐฯ แคนาดา ยุโรป ญี่ปุ่น และจีน
- วัคซีนซีกโลกใต้  จะใช้ในประเทศซีกโลกใต้ เช่น ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อเมริกาใต้ และรวมถึงไทยด้วยนะครับ
คำถามต่อมาคือ ทำไมต้องมีสองสูตร เพราะไวรัสไข้หวัดใหญ่มันเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา และการระบาดของแต่ละซีกโลกก็ไม่พร้อมกัน
WHO เลยประกาศสายพันธุ์ที่ใช้ในวัคซีนปีละ 2 ครั้ง คือ
•กุมภาพันธ์ → อัปเดตสายพันธุ์สำหรับ NH
•กันยายน → อัปเดตสายพันธุ์สำหรับ SH
คำถามต่อมาแล้วควรเลือกฉีดยังไง ฉีดตามนี้ได้เลยครับ
- อยู่ประเทศไหน ก็ฉีดวัคซีนสูตรของประเทศนั้นดีที่สุด
- ถ้าเดินทางข้ามซีกโลก ควรดูว่าวัคซีนที่ฉีดไปป้องกันสายพันธุ์ที่กำลังระบาดหรือเปล่า
ที่สำคัญคือหลังฉีดวัคซีน ต้องใช้เวลา 7-14 วันกว่าภูมิคุ้มกันจะขึ้น เพราะฉะนั้นอย่ารอให้ป่วยแล้วค่อยฉีดนะ ฉีดไว้ก่อนดีที่สุดนะครับ

4. ต่อมาใครควรจะฉีดบ้าง?
จริงๆ ก็ควรฉีดตั้งแต่อายุ 6 เดือนขึ้นไปนะครับ แต่ก็จะมีกลุ่มคนที่ภูมิคุ้มกันอาจจะไม่ดี ซึ่งเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนของโรคนี้ และทำห้เสียชีวิตได้ ซึ่งมี 7 กลุ่มตามนี้เลยครับ
1. หญิงตั้งครรภ์ (อายุครรภ์ 4 เดือนขึ้นไป)
2. เด็กเล็ก (6 เดือน - 2 ปี)
3. ผู้สูงอายุ (65 ปีขึ้นไป)
4. ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง เช่น หอบหืด ปอดอุดกั้นเรื้อรัง เบาหวาน โรคหัวใจ โรคไต โรคหลอดเลือดสมอง หรือมะเร็งที่อยู่ระหว่างการรักษา
5. ผู้พิการทางสมองที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้
6. ผู้ที่เป็นโรคธาลัสซีเมีย หรือมีภูมิคุ้มกันบกพร่อง (รวมถึงผู้ติดเชื้อ HIV ที่มีอาการ)
7. ผู้ที่มีภาวะโรคอ้วน (น้ำหนัก 100 กิโลกรัมขึ้นไป หรือ BMI ≥ 35)

5. วิธีป้องกันไข้หวัดใหญ่แบบง่าย ๆ
นอกจากการฉีดวัคซีนแล้ว อย่าลืมดูแลตัวเองควบคู่ไปด้วย
1. ฉีดวัคซีนทุกปี
การฉีดวัคซีนเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันไข้หวัดใหญ่ เพราะช่วยลดความรุนแรงของโรคได้ แม้ว่าจะติดเชื้อก็ตาม โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงที่ผมพูดไปในข้อที่แล้วนะครับ
2. ล้างมือบ่อย ๆ
ล้างมือเป็นเรื่องที่ดูเหมือนไม่สำคัญ แต่ช่วยลดการแพร่เชื้อได้เยอะ ควรล้างด้วยสบู่และน้ำ หรือถ้าไม่มีให้ใช้เจลแอลกอฮอล์แทน
3. หลีกเลี่ยงที่แออัด และสวมหน้ากาก
ถ้าต้องไปในที่ที่มีคนเยอะ เช่น รถไฟฟ้า ห้างสรรพสินค้า หรือโรงเรียน ควรสวมหน้ากาก เพื่อป้องกันเชื้อไวรัส
4. กินดี นอนดี ออกกำลังกาย
การดูแลร่างกายให้แข็งแรง จะช่วยให้ภูมิคุ้มกันต่อสู้กับเชื้อโรคได้ดีขึ้น! พยายามนอนให้เพียงพอ กินอาหารที่มีประโยชน์ และออกกำลังกายสม่ำเสมอ
5. ถ้าป่วย ให้พักผ่อน และอยู่ห่างจากคนอื่น
ถ้ารู้สึกไม่สบาย อย่าไปทำงานหรือไปเรียน ควรพักผ่อนให้หายดีก่อน และถ้ามีอาการหนัก ให้รีบไปพบแพทย์ทันทีนะครับ
ไข้หวัดใหญ่ปีนี้ระบาดหนักมาก มีคนป่วยวันละแสนกว่าคน และเสียชีวิตวันละ 100 คน
การป้องกันที่ดีที่สุดคือ ฉีดวัคซีน ล้างมือ สวมหน้ากาก และดูแลสุขภาพ ถ้าเราทำตามวิธีที่ผมบอกไป ก็จะช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ และปกป้องตัวเองกับคนรอบข้างได้ อย่าลืมนะครับ ไขหวัดใหญ่บางทีอาจจะแค่นอนพักไม่พอ ต้องระวังภาวะแทรกซ้อนของมันด้วย ฝากดูและตัวเองด้วยนะ ใครคำถามคอมเมนต์ได้เลยครับ

 

ด้าน สำนักข่าวซินหัว มีรายงานเมื่อวันศุกร์ที่  7 ก.พ.68  ตัวเลขคาดการณ์จากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐอเมริกา รายงานว่าปัจจุบันสหรัฐฯ มีผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่ในฤดูกาลนี้อย่างน้อย 24 ล้านราย ซึ่งเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล 3.1 แสนราย และเสียชีวิต 13,000 ราย

 

รายงานระบุว่าสถานการณ์การระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลในสหรัฐฯ ยังคงเพิ่มขึ้นทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง

ศูนย์ฯ เสริมว่ามีผู้ป่วยวัยเด็กเสียชีวิตด้วยสาเหตุเกี่ยวกับโรคไข้หวัดใหญ่ในช่วงสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 1 ก.พ. จำนวน 10 ราย ทำให้ยอดเด็กเสียชีวิตในฤดูกาลระบาดนี้รวมอยู่ที่ 57 รายแล้ว

นอกจากนี้ มีรายงานพบผู้ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เอ (A) ชนิดเอชวันเอ็นทู (H1N2) จำนวน 1 รายในสัปดาห์นี้

 

อนึ่ง ไวรัสไข้หวัดใหญ่เป็นหนึ่งในไวรัสหลายชนิดที่ก่อให้เกิดโรคทางเดินหายใจ ศูนย์ฯ จึงแนะนำผู้มีอายุ 6 เดือนขึ้นไป เข้ารับวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ประจำปี

cr.xinhuathai