- 16 ก.พ. 2568
แม่น้องไอ มั่นใจลูกสาวไม่ยุ่งยาเสพติด เผย มีตำรวจยื่นข้อเสนอให้ 2แนวทาง พร้อมบอกไม่ให้ข่าวกับสื่อมวลชน ลั่นขอสู้อย่างถึงที่สุด ไม่ได้รับเงินจากใครทั้งสิ้น
คืบหน้ากรณี ชายชาวจีน บังคับเด็กเอนฯอัพยาจนดับคาโรงแรม ล่าสุด 16ก.พ.68 ที่สน.โชคชัย น.ส.เสาวนีย์ แม่ของ น.ส.ไอรดา หรือ น้องไอ อายุ 21 ปี ชาวจังหวัดร้อยเอ็ด จากที่ไปรับงานจากโมเดลลิ่งรายหนึ่ง เพื่อเอนเตอร์เทนลูกค้าชาวจีน พร้อมพี่สาวเดินทางมายัง สน.โชคชัย เพื่อแจ้งความดําเนินและเรียกร้องขอความเป็นธรรมให้กับลูกสาวหลังพบเสียชีวิตภายในในโรงแรมแห่งหนึ่งซอยโยธินพัฒนา 3 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่านมา
แม่ของ น.ส.ไอรดา ซึ่งได้เข้ามานั่งพักภายในห้องรับแจ้งความเนื่องจากมีอาการคล้ายจะเป็นลม ได้เปิดใจกับสื่อมวลชนหลังจากที่อาการดีขึ้นแล้ว โดยระบุว่า ในวันที่น้องเสียชีวิต สามีได้รับโทรศัพท์จากตำรวจ ระบุว่า น้องเสียชีวิตแล้วที่โรงแรมโดยยังไม่ทราบสาเหตุและทางตำรวจอยู่ในระหว่างการเก็บพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ
ทั้งนี้ปรากฏว่ามีพยาน 4 คน ที่เป็นเพื่อนกับลูกสาว บอกว่าลูก Overdose หรือเสพยาเกินขนาดเสียชีวิต และน้องเสพยาเป็นปกติ ซึ่งตนเองไม่ปักใจเชื่อ
จึงได้โทรหาเพื่อนของลูกสาวอีกคน ซึ่งเขาก็ยืนยันว่า ลูกสาวไม่ได้เสพยาเสพติด อย่างแน่นอน นั่นจึงทำให้ตนมั่นใจอย่างแน่นอนว่าลูกสาวตนเองไม่เคยเสพยาเสพติดหรือรับงานเพื่อยาเสพติด
ต่อมาหลังจากทราบว่าศพของน้องถูกส่งไปที่นิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ จึงได้พาเดินทางเข้ามาที่กรุงเทพฯเพื่อมารับศพน้องไปบำเพ็ญกุศล โดยได้มารับใบแจ้งตายที่สน.โชคชัยก่อน ซึ่งในตอนนั้นก็ยังไม่ทราบว่าลูกสาวเสียชีวิตจากสาเหตุอะไร
ทั้งนี้ในระหว่างที่อยู่ที่สน. ก็ปรากฏว่ามีนายตำรวจนายหนึ่งเข้ามาพูดคุย วินาทีนั้นตนมีความรู้สึกว่าอุ่นใจเพราะลูกสาวจะได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากมีตำรวจในสน.บอกว่านายตำรวจคนที่มาพูดคุยคนนี้เก่ง จะสามารถช่วยเหลือคุณแม่ได้ แต่พอเชิญเข้าไปพูดคุยข้างในห้อง
นายตำรวจคนนี้กลับบอกแม่ว่า มีพยานหลักฐานว่าตัวน้องเสพยาเสพติดหนักมาก โดยมีพยานแวดล้อมที่เป็นเพื่อนอีก 4 คนที่ยืนยันเรื่องนี้ ซึ่งตอนนั้นตนก็ยังไม่รู้ว่าเพื่อน 4 คนนั้นเป็นใครบ้าง แต่ตำรวจอ้างว่าเพื่อนทั้ง 4 คนบอกว่าลูกสาวเล่นยามานานแล้ว
ตำรวจนายนั้นจึงยื่นข้อเสนอให้แม่ 2 ทาง
- แนวทางแรก ครอบครัวไม่ติดใจในการตายของลูกสาว จึงไม่ติดใจจะเอาความ ทางตำรวจจะคืนทรัพย์สินของลูกสาวให้ทั้งหมด แล้วจะทำเรื่อง ให้ได้รับเงินชดเชยเยียวยาจากการเสียชีวิต
- ส่วนแนวทางที่ 2 คือจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ตอนนั้นตนเข้าใจว่าสาเหตุการตายของลูกเกิดจากการเล่นยาหนัก เกินขนาด แล้วช็อค เพราะว่าตนเองก็ยังไม่ตัดสินใจว่าจะเลือกแนวทางไหน
จนกระทั่งมาปรึกษากับครอบครัว ได้ข้อสรุปว่าหากต่อสู้คดีต่อไปมีสิทธิ์แพ้ เพราะเนื่องจากต้องใช้ค่าใช้จ่ายในการขึ้นศาลอีกเยอะ มองว่าในเมื่อ ลูกสาวเสียชีวิตไปแล้วได้เงินค่าเยียวยาก็ยังดี อย่างไรก็ตามจนถึงตอนนี้ยังไม่ได้รับเงินจากใครทั้งสิ้น เพราะยังไม่ตอบตกลงในแนวทางใดแนวทางหนึ่ง
แม่ของผู้เสียชีวิตยอมรับว่าตอนนั้น ที่ตำรวจยื่นข้อเสนอให้ ตอนนั้นตนรู้สึกสงสารลูก แล้วก็กังวลกลัวเขาจะไม่เข้าใจหาว่าเราต้องการเงิน แต่ต้องยอมรับว่าจากการที่ฟังตำรวจพูด ทำให้เข้าใจได้ว่า ลูกสาวเล่นยาจนเสียชีวิตจริง และหากขึ้นศาล ตนเข้าใจว่าตำรวจจะเขียนในสำนวนคดีว่ายาเสพติดเป็นของลูกสาว รวมทั้งสิ่งที่ตำรวจพูดทำให้ตนไม่อยากสู้คดีต่อ คิดว่าสู้ไปก็แพ้อย่างเดียว
อย่างไรก็ตามตอนนี้จะลุกขึ้นสู้อย่างเต็มที่เพราะเนื่องจากตอนนี้มีเพื่อนของลูกสาวส่งข้อมูลและหลักฐานมาเป็นจำนวนมาก ส่วนเรื่องเงินไม่ใช่ปัจจัยสำคัญ และไม่เคยตกลงข้อเสนอจากใครที่มีการหยิบยื่นเงินให้ และตอนนั้นยังเชื่อมั่นในตำรวจในนี้ว่าจะสามารถทำคดีให้กระจ่างได้
ส่วนหลังจากนี้จะมีการแจ้งความดำเนินคดีกับคนที่กล่าวหาว่าน้องเสพยาเสพติดหรือไม่นั้น พี่สาวของผู้เสียชีวิต ระบุว่าขอพิจารณา ในภายหลัง ตอนนี้ขอดำเนินการเรื่องการเสียชีวิตของน้องสาวก่อน
แม่ของผู้เสียชีวิตยอมรับว่า ก่อนหน้านี้มีนายตำรวจ มาบอกกับทางครอบครัว ว่าไม่ให้ข่าวกับสื่อมวลชน แต่เป็นการพูดลักษณะปกติ ไม่ใช่การข่มขู่แต่อย่างใด แต่พอตนเองเห็นพยานหลักฐานและได้รับข้อมูลจากเพื่อนลูกสาว คิดว่ายังไงก็พร้อมที่จะเป็นข่าว เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับลูกสาว ซึ่งพี่สาวก็ได้ย้ำกับผู้สื่อข่าวว่า เชื่อมั่นว่าสื่อมวลชนจะเป็นที่พึ่งได้