อดีตพนักงานร้านหม้อไฟ พูดจากประสบการณ์ที่เคยเจอ เจ้าของร้านรีบโต้ทันที

เอาหล่ะสิ อดีตพนักงานร้านหม้อไฟดัง พูดจากประสบการณ์ที่เคยเจอ งานนี้ชาวเน็ตยิ่งคอมเมนต์สนั่น เจ้าของร้านรีบโต้ทันที

กลายเป็นประเด็นที่ชาวเน็ตกำลังให้ความสนใจอย่างหนักตอนนี้กับประเด็นที่เพจ เฝอหม้อไฟ สุกี้สไตล์เวียดนาม (ไม่มีสาขา) ประกาศว่าเร็วๆ นี้ เฝอหม้อไฟ จะปิดให้บริการอย่างไม่มีกำหนด เนื่องจากหนึ่งในหุ้นส่วนหักหลัง นำความลับทางธุรกิจไปเผยแพร่ แถมยังเปิดร้านใหม่ห่างออกไปเพียง 6 กิโลเมตร 

 

อดีตพนักงานร้านหม้อไฟ พูดจากประสบการณ์ที่เคยเจอ เจ้าของร้านรีบโต้ทันที

โดยทางเพจยังบอกอีกว่า ร้านที่เป็นคู่กรณีใช้สูตรน้ำจิ้มและวัตถุดิบส่วนใหญ่จากซัพพลายเออร์เจ้าเดียวกันนั้น รวมถึงกล่าวหาว่าหุ้นส่วนได้แทรกแซงบัญชีรายรับของทางร้าน โดยใช้บัญชีพ่อของตัวเองเป็นบัญชีม้า รับโอนเงินจากลูกค้าด้วย

 

กระทั่งต่อมากลายเป็นประเด็นร้อนเพราะชาวเน็ตตามสืบต่อ จนพบว่าฝ่ายที่เปิดร้านใหม่นั้น แท้จริงเป็นภรรยาเก่าเจ้าของร้านเฝอหม้อไฟ ที่เลิกกันด้วยสาเหตุบางอย่าง และไปเปิดร้านใหม่ตั้งแต่ช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา ส่วนเรื่องเกี่ยวกับการละเมิดลิขสิทธิ์และการแทรกแซงบัญชีนั้น ยังเป็นเพียงข้อมูลจากฝ่ายเดียว 

อดีตพนักงานร้านหม้อไฟ พูดจากประสบการณ์ที่เคยเจอ เจ้าของร้านรีบโต้ทันที


ทำให้ชาวเน็ตหลายคนไม่เข้าใจ พากันเข้าไปตั้งคำถามว่าแค่เลิกกันแล้วแยกไปเปิดร้าน แต่กลับนำมาโพสต์ไปอีกประเด็น เหตุใดต้องสาดโคลนใส่อีกฝ่ายด้วย นอกจากนี้ ยังมีบุคคลหนึ่งซึ่งเป็นพนักงานที่ทำงานในร้านเฝอหม้อไฟมา 7 ปี ออกมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ตนก็คิดเช่นเดียวกัน แยกร้านเพราะเลิกกันแล้ว แบ่งกันเรียบร้อย 

 

แต่พอพี่ผู้หญิงจะเข้าไปที่เก่า เคยโดนทำร้ายร่างกายหลายครั้งจึงเข้าไปที่ร้านเก่าไม่ค่อยสะดวก ฝั่งนี้เป็นผู้หญิงตัวคนเดียว แค่หัวธุรกิจอยากขยายธุรกิจที่ตัวเองถนัด แถมร้านเก่าก็สร้างมาคู่กัน 

อดีตพนักงานร้านหม้อไฟ พูดจากประสบการณ์ที่เคยเจอ เจ้าของร้านรีบโต้ทันที

 

กระทั่งต่อมา เพจ เฝอหม้อไฟ สุกี้สไตล์เวียดนาม (ไม่มีสาขา) จึงเข้ามาชี้แจงเพิ่มเติมในประเด็นที่เกิดขึ้น โดยยอมรับว่า คู่กรณีคือภรรยาเก่า ที่เริ่มต้นและทำร้านมาร่วมกัน มีบันทึกข้อตกลงสลักหลังการหย่าอยู่ ว่ากรรมสิทธิ์ของร้านจะเป็นของตนและอีกฝ่ายเท่าๆ กัน เท่ากับภรรยาเก่า เป็นทั้งหุ้นส่วนและคู่สัญญาตามกฎหมาย แต่ภรรยาเก่าได้นำสูตรไปเปิดร้านกับแฟนใหม่ เหตุที่มีปัญหากันจึงไม่ใช่เรื่องส่วนตัว เป็นเรื่องธุรกิจเท่านั้น คือ

 

1. เรื่องการละเมิดสิทธิระหว่างคู่สัญญา
2. ความโปร่งใสของบัญชีธุรกิจ (เพราะมีผลประโยชน์ทับซ้อน ระหว่างสามีเก่ากับแฟนใหม่)
3. การแทรกแทรงบัญชีรายรับ เฝอหม้อไฟ สุกี้สไตล์เวียดนาม

 

อดีตพนักงานร้านหม้อไฟ พูดจากประสบการณ์ที่เคยเจอ เจ้าของร้านรีบโต้ทันที


อีกทั้งทางเพจยังระบุเพิ่มเติมว่า "เรื่องการเงินทางร้านไม่มีปัญหาอะไรเลย รวมถึงเรื่องซัพพลายเออร์ด้วย ปัญหาที่ทำให้ต้องตัดสินใจ ปิดกิจการ อย่างไม่มีกำหนด คือการที่ระหว่างเปิดร้าน ทางหุ้นส่วนได้แอบมาเปลี่ยนบัญชีรับโอนเงินจากลูกค้าเป็นชื่อของตนเอง ผมได้แจ้งหุ้นส่วนว่าทำแบบนี้ไม่ได้บัญชีมันจะไม่ตรง และตรวจสอบยาก โดยได้ตักเตือนไปหลายรอบว่าถ้าหากกระทำการแทรกแซงบัญชีแบบนี้อีกครั้ง 'จะทำการปิดร้านทันที'

 


และทางหุ้นส่วนก็ได้กลับมากระทำแบบเดิมอีก โดยมาสั่งให้พนักงาน ทำการเปลี่ยนเดี๋ยวนั้น ซึ่งผมทำงานอยู่ พนักงานจึงไม่กล้าเปลี่ยน (ณ ตอนนั้นสงสารพนักงาน ถ้าไม่ทำตามคำสั่งน้องอาจจะโดนต่อว่า หรือหากทำตาม อาจจะโดนผมดุ) เพราะไม่รู้จะต้องฟังคำสั่งจากใคร"

 


ส่วนเรื่องที่อดีตพนักงานออกมาแฉนั้น ตนแคปไว้หมดแล้ว เพราะไม่เป็นความจริง และเตรียมตัวจะฟ้องบุคคลดังกล่าว พร้อมกันนั้นยังท้าให้เอาหลักฐานมาแสดง อย่าพูดลอยๆ ในเมื่อตอนนี้ไปทำงานกับฝั่งตรงข้ามแล้ว 

         

 

พร้อมกันนี้ ต่อมาเมื่อมีคนนำข้อมูลเกี่ยวกับโพสต์ที่ร้านเฝอหม้อไฟลงไว้ เข้าไปสอบถามที่เพจร้านของฝั่งภรรยาเก่า ก็ได้รับคำตอบว่า "ไม่จริงค่ะ แต่คิดว่าควรเป็นเรื่องทางกฎหมายค่ะ ไม่ใช่เรื่องที่จะมาสาดโคลนกันในโซเชียล อย่างน้อยก็ต้องนึกถึงลูก ๆ ค่ะ พ่อกับแม่ไม่ควรมาทะเลาะกันแบบนี้ค่ะ"

อดีตพนักงานร้านหม้อไฟ พูดจากประสบการณ์ที่เคยเจอ เจ้าของร้านรีบโต้ทันที

ข่าวที่เกี่ยวข้อง