- 21 ก.พ. 2568
คืบหน้ากรณีไรเดอร์หัวร้อนแทงรปภ. เสียชีวิต หลังไม่พอใจลูกค้ายกเลิกออเดอร์ ล่าสุดค้นประวัติพบว่าเคยก่อคดี
จากกรณีเมื่อเวลา 11.20 น. วันที่ 21 ก.พ. 2568 พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผบช.น. พล.ต.ต.วิทวัฒน์ ชินคํา ผบก.น.5 พ.ต.อ.วชิรากรณ์ วงศ์บุญ ผกก.สนคลองตัน, พ.ต.ท.พชรชัย ปาณะดิษ รอง ผกก.สส.สน.คลองตัน นำโดย พ.ต.ต.กาจก้อง ศรีสุวะ, พ.ต.ต.สุริยา จั้นวันดี สว.สส.สน.คลองตัน พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.คลองตัน ร่วมกันจับกุมนายอัครวิทย์ รัตนโชคชัย อายุ 36 ปี ไรเดอร์หัวร้อนแทง รปภ. ดับ
แฉ ไรเดอร์หัวร้อน แทงรปภ. ดับ ค้นประวัติเจอคดีร้ายแรงติดตัว
แฉ ไรเดอร์หัวร้อน แทงรปภ. ดับ ค้นประวัติเจอคดีร้ายแรงติดตัว
โดยบุกจับกุมตัวพร้อมของกลาง รถ จยย. ฮอนด้าคลิก สีน้ำเงิน-ขาว หมายเลขทะเบียน 8 กญ 2166 กทม. หมวกกันน็อคสีแดง 1 ใบ อาวุธมีด 1 เล่ม เสื้อยืดแขนยาวสีดำจำนวน 1 ตัว กางเกงขายาวสีดำ 1 ตัว บริเวณบ้านไม่มีเลขที่กลางซอยหัวหมาก 29 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร
ล่าสุดพันตำรวจเอกวชิรากรณ์ วงศ์บุญ ผู้กำกับการ สน.คลองตัน เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำพยานและภรรยาของผู้ก่อเหตุ ทราบว่า ผู้ก่อเหตุเพิ่งจะมาเป็นไรเดอร์ได้ 2-3 วัน และก่อนเกิดเหตุ ได้นำก๋วยเตี๋ยวเข้ามาส่งภายในมหาวิทยาลัยฯ แต่หาคนสั่งอาหารไม่เจอ จึงไปถามนายเพียงใจ ที่เป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอยู่บริเวณดังกล่าว ว่าได้สั่งอาหารไว้หรือไม่ แต่นายเพียงใจบอกว่าไม่ได้สั่ง และเนื่องจากบริเวณดังกล่าวอยู่ภายในมหาวิทยาลัย เป็นสถานที่ส่วนบุคคล จึงมีการไล่ผู้ก่อเหตุออกนอกบริเวณ และน่าจะเกิดการโต้เถียง ใช้ถ้อยคำรุนแรงกัน ก่อนจะชกต่อยกัน
แฉ ไรเดอร์หัวร้อน แทงรปภ. ดับ ค้นประวัติเจอคดีร้ายแรงติดตัว
จากนั้นผู้ก่อเหตุก็ได้ไปหยิบอาวุธมีดที่พกติดตัวไว้ใต้เบาะรถจักรยานยนต์ออกมา แทงนายเพียงใจ นายเพียงใจพยายามไปขอความช่วยเหลือคนแถวนั้น แต่เนื่องจากเลือดออกมาก ทำให้เจ้าหน้าที่ไปช่วยเหลือไว้ไม่ทัน และเสียชีวิต
ส่วนผู้ก่อเหตุ ได้ขี่รถจักรยานยนต์ออกจากที่เกิดเหตุอย่างรวดเร็ว ระหว่างทางกลับบ้านได้แวะไปหาเพื่อน และได้เล่าให้เพื่อนฟังว่าเพิ่งจะไปก่อเหตุอะไรมา และเมื่อกลับถึงบ้าน ก็ได้เล่าให้ภรรยาฟังเช่นกัน ภรรยาเห็นว่าผู้ก่อเหตุมีอาการเพ้อ จึงรีบนำยานอนหลับมาให้กินไป 3 เม็ด เพื่อให้สงบลงและนอนพัก
แฉ ไรเดอร์หัวร้อน แทงรปภ. ดับ ค้นประวัติเจอคดีร้ายแรงติดตัว
อย่างไรก็ตามชุดสืบสวนได้ไล่กล้องวงจรปิดจนพบว่าผู้ก่อเหตุพักอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าว จึงเข้าจับกุม จากการตรวจสอบห้องพัก ก็พบของกลางเสื้อผ้า รถจักรยานยนต์ และมีดที่ใช้ก่อเหตุ แต่ไม่พบยาเสพติดอื่นๆ ซึ่งเบื้องต้นยังสอบปากคำผู้ก่อเหตุไม่ได้ อาจด้วยเพราะฤทธิ์ยานอนหลับที่กินเข้าไป แต่ก็เตรียมแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่น และพกพาอาวุธมีดฯ
ขณะที่จากการตรวจสอบประวัติพบว่าผู้ก่อเหตุเคยถูกจับกุมคดีพกพาอาวุธปืน เมื่อปี 2562 และถูกจำคุกไป 4 และต่อมาปี 2564 ก็ถูกจับเพราะขับรถขณะเสพยาเสพติด