"วัคซีนไข้หวัดใหญ่" ไม่ได้มีแค่แบบเดียว ใครควรฉีดแบบไหนบ้าง มาดูกันเลย

"ไข้หวัดใหญ่" ที่กำลังระบาดอยู่ในประเทศไทยในตอนนี้ โดย "หมอยง" นายแพทย์ยง ภู่วรวรรณ ได้เคยออกมาโพสต์ข้อความเกี่ยวกับ วัคซีนไข้หวัดใหญ่ ระบุผ่านเฟซบุ๊ก ยง ภู่วรวรรณ เผยว่า

"วัคซีนไข้หวัดใหญ่" ไม่ได้มีแค่แบบเดียว ใครควรฉีดแบบไหนบ้าง มาดูกันเลย

ไข้หวัดใหญ่และการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่

ยง ภู่วรวรรณ

ราชบัณฑิต สำนักวิทยาศาสตร์

ศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์จุฬา

8 กุมภาพันธ์ 2568

ขอให้ข้อมูลต่อจากเมื่อวานนี้ เนื่องจากยังมีข้อสงสัยที่ถามกันมามาก

ปกติวัคซีนไข้หวัดใหญ่จะมีประสิทธิภาพในการป้องกันได้ประมาณ 40 ถึง 60 เปอร์เซ็นต์ขึ้นอยู่กับแต่ละปีและสายพันธุ์ที่ระบาด ว่าจะตรงกับวัคซีนมากน้อยแค่ไหน

สายพันธุ์ที่ระบาดในปัจจุบันจะเป็นไข้หวัดใหญ่ A อยู่ 2 สายพันธุ์ คือ H1N1 และ H3N2 และไข้หวัดใหญ่ B สายพันธุ์เดียวคือ Victoria ดังนั้นวัคซีนที่ใช้ ควรจะเป็นเพียงแค่ 3 สายพันธุ์ก็พอ ไม่มีความจำเป็นเลยที่จะต้องฉีดวัคซีนชนิด 4 สายพันธุ์ เพราะสายพันธุ์ที่ 4 ไม่มีการระบาดและไม่พบมาเกือบ 5 ปีแล้ว

ในปีนี้วัคซีนของสายพันธุ์ขั้วโลกใต้ ที่เหมาะสมจะมาใช้ในประเทศไทยตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคมเป็นต้น จะมีการเปลี่ยนแปลงจากวัคซีนขั้วโลกเหนือนี้อยู่ 1 สายพันธุ์ คือ H3N2

ถ้าจำเป็นที่ต้องเดินทางไปต่างประเทศโดยเฉพาะในซีกโลกเหนือ ก็อาจจะฉีดสายพันธุ์ขั้วโลกเหนือ ไปก่อน อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนเดินทาง

เมื่อฉีดวัคซีนสายพันธุ์ซีกโลกเหนือไปแล้ว วัคซีนซีกโลกใต้มีการเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์ H3N2 ที่คาดการณ์ว่าจะระบาดในฤดูกาลใหม่ ก็ควรจะฉีดวัคซีนซีกโลกใต้ ซึ่งให้เว้นระยะห่าง 1-2 เดือนหรือรอไปปลายเมษายนหรือพฤษภาคมก็ได้

ถ้าวัคซีนซีกโลกใต้มาเร็ว ผู้ที่จะเดินทางไปต่างประเทศถึงแม้จะไปซีกโลกเหนือ ก็ควรฉีดวัคซีนสายพันธุ์ซีกโลกใต้ที่มาใหม่ไปเลย

ดังได้กล่าวมาแล้ววัคซีนที่จะมาใหม่ฉีดเพียง 3 สายพันธุ์ก็พอ ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องฉีด 4 สายพันธุ์ วัคซีน 3 สายพันธุ์ราคาถูกกว่า และผลที่ได้ก็ไม่แตกต่างกับ 4 สายพันธุ์เลย เพราะสายพันธุ์ที่ 4 ได้สูญพันธุ์ไปแล้ว