ยึดทรัพย์ 23 ล้าน "รวบระดับสั่งการ" เครือข่ายส่งไอซ์ข้ามชาติ

ป.ป.ส. สนธิกำลังทหาร ขยายผลต่อเนื่อง จับผู้ต้องหาระดับสั่งการ ขบวนการส่งไอซ์ข้ามชาติ ยึดทรัพย์กว่า 23 ล้านบาท

วันนี้ (28 ก.พ.68)  เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด หรือ ป.ป.ส. (ดินแดง) พลตำรวจเอก ภานุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. พร้อมด้วยนาย ปฤณ เมฆานันท์ ผอ.สำนักปราบปรามยาเสพติด และ น.อ. ชยกร โชติพิทยานนท์ ผบก.กรมสารวัตรทหารอากาศ ร่วมแถลงการขยายผลจับกุมนาย ปัญกิตต์ (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาระดับสั่งการในเครือข่ายส่งไอซ์ข้ามชาติ ใช้ไทยเป็นที่พัก เตรียมส่งต่อปลายทางประเทศที่ 3 พร้อมยึดทรัพย์กว่า 23 ล้านบาทไว้ตรวจสอบ

 

ยึดทรัพย์ 23 ล้าน รวบระดับสั่งการ เครือข่ายส่งไอซ์ข้ามชาติ ยึดทรัพย์ 23 ล้าน รวบระดับสั่งการ เครือข่ายส่งไอซ์ข้ามชาติ 

 

 

 

ยึดทรัพย์ 23 ล้าน รวบระดับสั่งการ เครือข่ายส่งไอซ์ข้ามชาติ ยึดทรัพย์ 23 ล้าน รวบระดับสั่งการ เครือข่ายส่งไอซ์ข้ามชาติ

 

ประกอบด้วย รถยนต์ 2 คัน นาฬิกาหรู สินค้าแบรนด์เนม อาร์ตทอย คอนโดมิเนียม และกิจการร้านกัญชา มูลค่ากว่า 23 ล้านบาท เป็นของกลางที่เจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด หรือ ป.ป.ส. เข้าตรวจยึดได้ที่บ้านพักอาศัยและกิจการร้านค้าแห่งหนึ่ง ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร หลังเจ้าหน้าที่ขยายผลจากขบวนการลักลอบส่งไอซ์ จำนวนกว่า 1.6 ตัน ซุกซ่อนในม้วนผ้าฝ้าย 33 ม้วน ส่งออกไปยังประเทศที่สาม 

ที่เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.สามารถจับได้เมื่อวันที่ 17 มกราคม ที่ผ่านมา พร้อมผู้ร่วมกระทำความผิดได้ 5 คน เป็นระดับลูกจ้างเครื่อข่าย จึงเป็นสาเหตุที่ให้ เจ้าหน้าที่ขยายผล รวบรวมพยานหลักฐาน ขอศาลหมายจับผู้เกี่ยวข้องเพิ่มเติมได้ 4 คน สัญชาติไทยทั้งหมด เป็นถึงระดับผู้สั่งการ และตัวการใหญ่ ซึ่งจากการเข้าตรวจค้นในเป้าหมาย เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สามารถจับผู้ต้องหาได้ 1 คน นายปัญจกิตต์ หน้าที่บ้านพักอาศัยย่านพระราม 3 

นายปฤณ เมฆานันท์ ผู้อำนวยการสำนักปราบปรามยาเสพติด เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพยานหลักฐานต่าง ๆ ภายในห้องพักอาศัย พบเอกสารการส่งออกพัสดุกัญชาไปยังประเทศอังกฤษ ถึง 3 ครั้ง มีหลักฐานเชื่อว่านายปัญจกิตต์ ผู้ต้องหา เป็นถึงบุคคลสำคัญระดับผู้สั่งการ
 

ยึดทรัพย์ 23 ล้าน รวบระดับสั่งการ เครือข่ายส่งไอซ์ข้ามชาติ ยึดทรัพย์ 23 ล้าน รวบระดับสั่งการ เครือข่ายส่งไอซ์ข้ามชาติ

 

พลตำรวจโทภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด เปิดเผยว่านอกจากทรัพย์สินที่ยึดได้ในวันนี้ อยากตรวจพบเส้นทางการเงิน เครือข่ายดังกล่าวได้นำทรัพย์สินไปลงทุนในสกุลเงินดิจิทัล ประเภทบิตคอยน์ และคริปโทเคอร์เรนซี ซึ่งยอมรับว่ายังเป็นปัญหาที่เจ้าหน้าที่ยังไม่มีองค์ความรู้ และอุปกรณ์ในการตรวจยึดสกุลเงินดิจิตอลเหล่านี้ แต่ปัจจุบันได้เริ่มที่จะมีการพัฒนาเจ้าหน้าที่ให้มีความรู้รวมถึงจะหาอุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อใช้ในการยึดทรัพย์สินเหล่านี้ จากเครือข่ายค้ายาเสพติด 

นอกจากนี้ ข้อมูลการสืบสวนยังพบอีกว่ากระบวนการนี้มีการนำไอซ์เข้ามาจากประเทศทางฝั่งทวีปแอฟริกา ตรวจพบว่ามีปลายทางในประเทศอินเดีย แต่เนื่องจากมีปัญหาในการลักลอบขนส่งเข้าประเทศ จึงใช้ประเทศไทยเป็นจุดพักไอซ์ โดยมีกลุ่มผู้ต้องหาเป็นผู้ให้การช่วยเหลือ และอยู่ในขบวนการดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1(ไอซ์) โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นการกระทำเพื่อการค้า และความผิดสมคบการฟอกเงิน  โดยจะเร่งติดตามผู้ต้องหาอีก 3 คน มาดำเนินคดี และจะร่วมบูรณาการกับหน่วยงานภาคีเครือข่ายขยายผลเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติอย่างเป็นรูปธรรม

 

ยึดทรัพย์ 23 ล้าน รวบระดับสั่งการ เครือข่ายส่งไอซ์ข้ามชาติ ยึดทรัพย์ 23 ล้าน รวบระดับสั่งการ เครือข่ายส่งไอซ์ข้ามชาติ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง