- 28 ก.พ. 2568
ไข้อีดำอีแดง ที่กำลังระบาดช่วงนี้ มีวิธีสังเกตอย่างไร มาดูวิธีสังเกตกันค่ะ บทความนี้จึงนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับวิธีสังเกตอาการของไข้อีดำอีแดง เพื่อให้สามารถสังเกตอาการเบื้องต้นได้อย่างทันท่วงที
“ไข้อีดำอีแดง” ที่กำลังระบาดช่วงนี้ มีวิธีสังเกตอย่างไร ในระยะนี้ มีการรายงานการระบาดของ "ไข้อีดำอีแดง" ซึ่งเป็นโรคติดต่อที่สามารถเกิดขึ้นได้ในทุกช่วงวัย แต่พบได้บ่อยในเด็กเล็ก โดยมีสาเหตุมาจากการติดเชื้อแบคทีเรียกลุ่มสเตรปโตค็อกคัส (Streptococcus) กลุ่ม A อาการของโรคนี้อาจทำให้ผู้ป่วยและผู้ปกครองเกิดความกังวลใจได้ บทความนี้จึงนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับวิธีสังเกตอาการของไข้อีดำอีแดง เพื่อให้สามารถสังเกตอาการเบื้องต้นได้อย่างทันท่วงที
ไข้อีดำอีแดง ที่กำลังระบาดช่วงนี้ มีวิธีสังเกตอย่างไร
โพสต์ของ Skin Insight by Tee ให้รายละเอียดไว้ว่า
ไข้อีดำอีแดง (Scarlet Fever) ที่กำลังระบาดช่วงนี้ โรคที่มาพร้อม ‘ลิ้นสตรอว์เบอร์รี่’ และ ‘ผื่นกระดาษทราย‘
- พบบ่อยในเด็กอายุ 5-15 ปี
- เกิดจากการติดเชื้อ Streptococcus Group A (GAS)
อาการที่จะเจอ
- ไข้สูงเฉียบพลัน (มักเกิน 38.5°C) และเจ็บคอรุนแรง
- ผื่นแดงลักษณะพิเศษ มีผิวสากคล้ายกระดาษทราย
- ลิ้นสตรอว์เบอร์รี่ (Strawberry tongue): ลิ้นมีตุ่มนูนสีแดงสด คล้ายผลสตรอว์เบอร์รี่
- แก้มแดงแต่รอบปากซีด (Circumoral pallor)
การรักษา
- ยาปฏิชีวนะกลุ่ม Penicillin, Amoxicillin หรือ Erythromycin เป็นเวลา 10 วัน
- ต้องกินยาให้ครบ! แม้อาการจะดีขึ้นใน 2-3 วัน เพราะหากหยุดยาเร็ว อาจเสี่ยงภาวะแทรกซ้อน
- ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น
- ไข้รูมาติก (Rheumatic fever): อาจส่งผลต่อหัวใจและข้อต่อ
- ไตอักเสบ (Post-streptococcal glomerulonephritis): เกิดหลังติดเชื้อ 2-3 สัปดาห์
- ภาวะติดเชื้อรุนแรง
ไข้อีดำอีแดง ที่กำลังระบาดช่วงนี้ มีวิธีสังเกตอย่างไร
ป้องกันตนเองอย่างไร?
- ล้างมือบ่อย ๆ โดยเฉพาะก่อนรับประทานอาหาร
- ไม่ใช้ของใช้ส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น เช่น แก้วน้ำ ผ้าเช็ดหน้า
- หากมีอาการต้องรีบพบแพทย์ และหลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ชิดกับผู้อื่นเพื่อลดการแพร่เชื้อ
ขอขอบคุณ : Skin Insight by Tee