- 10 มี.ค. 2568
แจกเงินหมื่น เฟส3 อายุ 16-20 ปี ยกเลิกกลุ่มสินค้าห้ามซื้อ 19รายการ นายกฯ คาดจ่ายเงินได้ในไตรมาส 2 มั่นใจเศรษฐกิจโตเกิน 3%
แจกเงินดิจิทัล 10000 เฟส3 ล่าสุด รัฐบาลไฟเขียว แจกเงินหมื่นเฟส3 กลุ่มอายุ 16-20 ปี จำนวน 2.7 ล้านคน โดย 10 มี.ค.68 นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ครั้งที่ 1/2568 ซึ่ง นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีกล่าวก่อนการประชุมว่า ระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมา การเติบโตของเศรษฐกิจมีแนวโน้มดีขึ้น โดยนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจส่วนใหญ่มาจากการส่งออกและการท่องเที่ยวถือเป็นเครื่องมือที่สำคัญ
กระทรวงการคลังได้ประมาณการเติบโตตัวเลขเศรษฐกิจไทยในปี 2568 คาดว่าจะเติบโตร้อยละ 3 แต่รัฐบาลเชื่อว่าด้วยศักยภาพของเศรษฐกิจไทย และความตั้งใจในการทำงานของทุกกระทรวงและภาคเอกชนจะขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เติบโตได้มากกว่าร้อยละ 3 เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อน และการฟื้นฟูอย่างต่อเนื่อง รวมถึงทำให้เศรษฐกิจแข็งแรงมากยิ่งขึ้น และเพื่อวางรากฐานการแก้ปัญหาเศรษฐกิจเชิงโครงสร้างในระยะยาวไปพร้อมกัน ขอให้ทุกหน่วยงานร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด เพื่อขับเคลื่อนโครงการต่าง ๆ
นายจิรายุ กล่าวว่า ที่ประชุมยังเห็นชอบหลักการ เงื่อนไข หลักเกณฑ์ โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ 10,000 บาท ในระยะที่ 3 และเห็นชอบแนวทางการลงทะเบียนเพื่อสำรวจประชาชนที่ไม่มีสมาร์ตโฟน โดยมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดำเนินโครงการฯ และมอบหมายให้ฝ่ายเลขานุการจัดทำข้อเสนอโครงการฯ เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป
ด้าน นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งที่1 / 2568 ว่า เป็นเรื่องของคณะกรรมการ ซึ่งได้มีการวางแผนไว้ ให้ทราบในเบื้องต้นก่อนว่าจะพยายามกระตุ้นเศรษฐกิจให้ได้ 3 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งวันนี้ก็จะมีรายละเอียดออกมาให้ทราบ โดยจะเป็นแผนในระยะสั้น ส่วนในอนาคตก็จะมีแผนการแก้ไขโครงสร้างเข้ามาอีก เพราะในขณะที่เรากำลังทำงานไป ก็จะเจอปัญหาในเชิงโครงสร้าง
ส่วนประเด็นเงินดิจิทัล 10,000 บาท นั้น นายพิชัย กล่าวว่า จะได้ข้อสรุปแล้ว โดยจะอยู่ในกรอบอายุ 16-20 ปี และพยายามจ่ายให้ได้ภายในไตรมาส 2 ส่วนจะมีเฟส 4 หรือไม่ก็จะพิจารณาตามความเหมาะสม
- เงื่อนไข แจกเงินหมื่น เฟส 3
-บุคคลทั่วไป อายุ 16-20 ปี
-จำนวน 2.7ล้านคน
-เริ่มใช้จ่ายได้ภายในปลายไตรมาส 2 หรือ ต้นไตรมาส 3 ปีนี้
-ยกเลิกกลุ่มสินค้าห้ามซื้อ 19 รายการ
- ห้ามร้านค้าบางประเภทเข้าร่วม
-ผับ บาร์ ร้านขายสุรา ร้านขายบุหรี่ ร้านขายทอง ร้านขายเพชร สถานีบริการน้ำมัน ร้านขายลอตเตอรี่
- ร้านค้าถอนเงินสด
-ร้านค้าอยู่ในระบบภาษี และร้านค้ารายย่อยที่ไม่อยู่ในระบบภาษี