ปภ. เตือนด่วนรายชื่อ 68 จังหวัด-กทม. ระวังพายุฤดูร้อน 16-20 มี.ค.

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เตือน 68 จังหวัด-กทม. เฝ้าระวังพายุฤดูร้อน และอุณหภูมิลดลง ในช่วงวันที่ 16-20 มี.ค. นี้

วันที่ 16 มี.ค. 2568 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แจ้ง 68 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร แยกเป็นทุกจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมถึงกรุงเทพมหานคร เฝ้าระวังสถานการณ์พายุฤดูร้อนเกิดขึ้นบางพื้นที่ และอุณหภูมิลดลง ส่วน 5 จังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย ได้แก่ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา ปัตตานี และนราธิวาส เฝ้าระวังสถานการณ์คลื่นลมแรง ในช่วงวันที่ 16 - 20 มีนาคม 2568

 

ปภ. เตือนด่วนรายชื่อ 68 จังหวัด-กทม. ระวังพายุฤดูร้อน 16-20 มี.ค. ปภ. เตือนด่วนรายชื่อ 68 จังหวัด-กทม. ระวังพายุฤดูร้อน 16-20 มี.ค.

โดยจัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศและสถานการณ์ภัยอย่างใกล้ชิด พร้อมจัดชุดเคลื่อนที่เร็ว เครื่องมืออุปกรณ์ประจำพื้นที่เสี่ยงให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัย รวมถึงแจ้งเตือนประชาชนให้ติดตามพยากรณ์อากาศ และปฏิบัติตามประกาศเตือนภัยอย่างเคร่งครัดในระยะนี้


นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) ได้ติดตามสภาวะอากาศและพิจารณาปัจจัยเสี่ยง ประกอบกับกรมอุตุนิยมวิทยาได้มีประกาศฉบับที่ 1 (54/2568) ลงวันที่ 14 มีนาคม 2568 เวลา 11.00 น. แจ้งว่า บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากสาธารณรัฐประชาชนจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้


ในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด ทำให้บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมถึงกรุงเทพมหานคร จะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นบางพื้นที่ โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตก รวมถึงอาจมีฟ้าผ่าบางพื้นที่ จากนั้นภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อุณหภูมิจะลดลง 5 - 8 องศาเซลเซียส ภาคเหนือและภาคกลาง อุณหภูมิจะลดลง 2 - 4 องศาเซลเซียส


สำหรับลมตะวันออกที่พัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามันจะมีกำลังแรงขึ้นในช่วงวันที่ 17 - 20 มีนาคม 2568 ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางพื้นที่ ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยอ่าวไทยตอนล่างจะมีคลื่นสูง 2 - 3 เมตร และบริเวณฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร โดยมีพื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์ระหว่างวันที่ 16 - 20 มีนาคม 2568 ดังนี้

  • พื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์พายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง ระหว่างวันที่ 16 - 17 มีนาคม 2568 ได้แก่ บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง

 

  • พื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์อุณหภูมิลดลง ระหว่างวันที่ 18 - 20 มีนาคม 2568 ได้แก่ บริเวณภาคเหนือ   ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง

 

  • พื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์คลื่นลมแรง ระหว่างวันที่ 17 - 20 มีนาคม 2568 ได้แก่ ภาคใต้ 5 จังหวัด ประกอบด้วย จังหวัดสุราษฎร์ธานี 9 อำเภอ (อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี อำเภอไชยา อำเภอท่าชนะ อำเภอท่าฉาง อำเภอพุนพิน อำเภอดอนสัก อำเภอกาญจนดิษฐ์ อำเภอเกาะสมุย และอำเภอเกาะพะงัน) จังหวัดนครศรีธรรมราช 6 อำเภอ (อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช อำเภอขนอม อำเภอสิชล อำเภอท่าศาลา อำเภอปากพนัง และอำเภอหัวไทร) จังหวัดสงขลา 7 อำเภอ (อำเภอเมืองสงขลา อำเภอระโนด อำเภอกระแสสินธุ์ อำเภอสทิงพระ อำเภอสิงหนคร อำเภอจะนะ และอำเภอเทพา) จังหวัดปัตตานี 6 อำเภอ (อำเภอเมืองปัตตานี อำเภอหนองจิก อำเภอยะหริ่ง อำเภอปะนาเระ อำเภอสายบุรี และอำเภอไม้แก่น) และจังหวัดนราธิวาส 2 อำเภอ (อำเภอเมืองนราธิวาส และอำเภอตากใบ)


กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก) โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จึงได้ประสานแจ้ง 68 จังหวัดในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง กรุงเทพมหานคร และภาคใต้ 5 จังหวัดฝั่งอ่าวไทย ได้แก่ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา ปัตตานี และนราธิวาส รวมถึงศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัยให้เฝ้าระวังและเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยในช่วงดังกล่าว โดยติดตามสถานการณ์ สภาพอากาศ และแนวโน้มสถานการณ์ภัยอย่างใกล้ชิด และประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบล่วงหน้า รวมถึงจัดเตรียมเครื่องมือเครื่องจักรกลสาธารณภัยและทีมปฏิบัติการเข้าประจำพื้นที่เสี่ยงให้พร้อมเผชิญเหตุและช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ทันที


ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนติดตามพยากรณ์อากาศและข้อมูลข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยให้ปฏิบัติตามคำเตือนอย่างเคร่งครัด ตลอดจนตรวจสอบบ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้างให้อยู่ในสภาพมั่นคงแข็งแรง หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้งใต้ต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณา หรือสิ่งปลูกสร้างที่ไม่มั่นคงแข็งแรง เพื่อป้องกันอันตรายจากการถูกล้มทับ รวมถึงระวังอันตรายจากฟ้าผ่า


ส่วนเกษตรกรให้จัดทำที่ค้ำยันต้นไม้หรือที่กำบัง เพื่อป้องกันพืชผลทางการเกษตรได้รับความเสียหาย สำหรับพื้นที่ที่เฝ้าระวังสถานการณ์อุณหภูมิลดลง ให้ประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้และให้คำแนะนำประชาชนในการดูแลรักษาสุขภาพในช่วงที่อุณหภูมิลดลง เพื่อป้องกันการเกิดอาการเจ็บป่วยที่อาจเกิดขึ้น


ส่วนพื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์คลื่นลมแรง ได้กำชับให้ 5 จังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย ได้แก่ จังหวัดราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา ปัตตานี และนราธิวาส รวมถึงศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 11 สุราษฎร์ธานี และเขต12 สงขลา ให้แจ้งเตือนประชาชนบริเวณชายฝั่งทะเลและนักท่องเที่ยวห้ามลงเล่นน้ำโดยเด็ดขาด พร้อมให้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมเจ้าท่า กองทัพเรือ ตำรวจน้ำ แจ้งเตือนการเดินเรือ ให้ชาวเรือ ผู้บังคับเรือ ผู้ประกอบการเดินเรือโดยสาร เดินเรือด้วยความระมัดระวัง หากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรงขึ้น ให้พิจารณาห้ามเดินเรือออกจากฝั่งโดยเด็ดขาด

 

ปภ. เตือนด่วนรายชื่อ 68 จังหวัด-กทม. ระวังพายุฤดูร้อน 16-20 มี.ค. ปภ. เตือนด่วนรายชื่อ 68 จังหวัด-กทม. ระวังพายุฤดูร้อน 16-20 มี.ค.

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Thailand Web Stat