- 25 มี.ค. 2568
โรคไข้หวัดใหญ่ คือการติดเชื้อไวรัสที่ระบบทางเดินหายใจ ซึ่งรวมถึงจมูก ลำคอ และปอด โดยทั่วไป ไข้หวัดใหญ่สามารถหายได้เอง
“โรคไข้หวัดใหญ่” เป็นโรคติดเชื้อไวรัสในระบบทางเดินหายใจ รวมถึงจมูก ลําคอ และปอด โดยเป็นคนละสายพันธุ์กับไวรัสซึ่งทำให้เกิดโรคไวรัสลงกระเพาะอาหาร อันเป็นสาเหตุของอาการท้องเสียและอาเจียน โดยปกติแล้วผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สามารถหายได้เอง แต่ในบางครั้งอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนทำให้ถึงแก่ชีวิต
เรื่องต้องรู้ ไข้หวัดใหญ่ เรื่องสำคัญที่ต้องรู้เพื่อดูแลตัวเอง
อาการของไข้หวัดใหญ่
อาการของโรคไข้หวัดใหญ่ ดูเผิน ๆ จะเหมือนไข้หวัดธรรมดา แต่อาการมักเกิดขึ้นอย่างฉับพลันและรุนแรงกว่าไข้หวัดธรรมดาซึ่งจะค่อย ๆ แสดงอาการ
อาการของโรคไข้หวัดใหญ่
- มีไข้ หนาวสั่น และเหงื่อออก
- ปวดศีรษะและปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ
- เจ็บคอและไอแห้ง
- ปวดตา
- มีน้ำมูก จาม
- หายใจถี่
- ท้องเสียและอาเจียนซึ่งพบได้บ่อยในเด็ก
ควรไปพบแพทย์เมื่อใด
ส่วนใหญ่ผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สามารถพักรักษาตัวที่บ้านได้ ผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อน ควรไปพบแพทย์โดยทันที การใช้ยาต้านไวรัสช่วยให้หายป่วยได้เร็วขึ้นและป้องกันอาการไม่ให้ทรุดหนัก หากผู้ป่วยมีอาการดังต่อไปนี้ ควรไปพบแพทย์ทันที
อาการไข้หวัดใหญ่ในผู้ใหญ่ ที่ควรรีบพบแพทย์
- เจ็บหน้าอก หายใจถี่
- เวียนศีรษะ
- ชัก
- กล้ามเนื้ออ่อนแรงหรือปวดกล้ามเนื้ออย่างรุนแรง
- โรคประจำตัวกำเริบหรือทรุดตัว
- อาการไข้หวัดใหญ่ในเด็ก ที่ควรรีบพบแพทย์
- เจ็บหน้าอก หายใจลําบาก
- ภาวะขาดน้ำ
- ปากเขียว
- ชัก
- ปวดกล้ามเนื้ออย่างรุนแรง
- โรคประจำตัวกำเริบหรือทรุดตัว
เรื่องต้องรู้ ไข้หวัดใหญ่ เรื่องสำคัญที่ต้องรู้เพื่อดูแลตัวเอง
สาเหตุของโรคไข้หวัดใหญ่
คนทั่วไปอาจสัมผัสเชื้อไวรัสจากละอองฝอยในอากาศ เมื่อผู้ป่วยไอ จาม หรือพูดคุย คนทั่วไปอาจสูดรับเชื้อโรคทางลมหายใจหรือสัมผัสเชื้อที่ติดอยู่บนพื้นผิวของวัตถุ เช่น โทรศัพท์มือถือ หรือคีย์บอร์ด
ผู้ป่วยจะสามารถแพร่เชื้อได้ตั้งแต่ 1 วันก่อนแสดงอาการ และยังสามารถแพร่เชื้อได้ต่อไปอีก 5 วันหลังแสดงอาการ ผู้ป่วยที่ภูมิคุ้มกันบกพร่องจะสามารถแพร่เชื้อได้นานกว่า
มีเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา หากได้รับวัคซีนหรือป่วยเป็นโรคไข้หวัดใหญ่มาก่อน ร่างกายมักมีภูมิต้านทานโรค หากเชื้อไวรัสตัวใหม่นั้นมีความใกล้เคียงกับเชื้อตัวเก่าที่เคยเป็น ร่างกายจะมีแอนติบอดีป้องกันหรือลดความรุนแรงของโรคได้ แต่เมื่อเวลาผ่านไประดับแอนติบอดีในร่างกายจะลดลง
หากสัมผัสกับเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ที่ร่างกายไม่เคยรู้จักมาก่อน แอนติบอดีที่มีอยู่เดิมจะไม่สามารถสู้กับและป้องกันการติดเชื้อได้
ปัจจัยเสี่ยงที่อาจเกิดโรคไข้หวัดใหญ่
- เด็กอายุ 6 เดือนถึง 5 ปี และผู้ใหญ่ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป
- อาศัยหรือทำงานในที่แออัด มีคนอยู่เป็นจำนวนมาก
- ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เนื่องจากการรักษาโรคมะเร็ง โรคมะเร็งเม็ดเลือด โรคเอชไอวี / เอดส์ การปลูกถ่ายอวัยวะ การใช้สเตียรอยด์หรือยากดภูมิคุ้มกันเป็นเวลานาน
- มีโรคเรื้อรัง เช่น โรคเบาหวาน โรคหอบหืด โรคหัวใจ โรคตับ โรคเลือด โรคระบบประสาท กระบวนการทำงานทางชีวเคมีผิดปกติ ปัญหาระบบทางเดินหายใจ
- การใช้แอสไพรินในระยะยาวในผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 19 ปี อาจทำให้เป็นโรคเรย์ (Reye’s disease) เป็นโรคที่มี ความผิดปกติของตับร่วมกับสมอง ซึ่งเกิดขึ้นได้จากการติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่
- หญิงตั้งครรภ์ โดยเฉพาะระหว่างไตรมาสที่ 2 หรือ 3
- โรคอ้วน
การป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่
- การฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ สามารถลดความรุนแรงของอาการและการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล อาการของโรคไข้หวัดใหญ่และ COVID-19 มีความคล้ายคลึงกัน การฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่สามารถลดและป้องกันความสับสนระหว่างโรคทั้งสองนี้ การรับวัคซีนทั้ง COVID-19 และไข้หวัดใหญ่ในเวลาเดียวกันนั้นทำได้ สําหรับผู้ที่มีอาการแพ้ไข่ขาวสามารถรับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ได้
ขอขอบคุณ : พญ. ประภาพร พิมพ์พิไล
อายุรแพทย์ทั่วไป