- 28 มี.ค. 2568
"น้องไอซ์" ยอมพูดหมดแล้ว ปมจัดงานศพทิพย์ให้แม่ จนล่าสุดปู่แท้ๆ เสียชีวิตจริงๆ สารภาพในโลงทิพย์ใส่อะไรไปบ้าง
จากกรณีที่เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโลกออนไลน์ หลังจากที่ "น้องไอซ์" นักเรียนชั้น ม.6 อายุ 18 ปีจัดงานศพแม่ตายทิพย์ที่บ้านหลังหนึ่ง บ้านศรีวัฒนา หมู่ 8 ต.บ้านม่วง อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี ทั้งครูและเพื่อนนักเรียนรู้ข่าวต่างเดินทางไปร่วมงานศพใส่ซองร่วมทำบุญ แต่เอะใจไม่มีชาวบ้านมาร่วมงาน สุดท้ายผู้ใหญ่บ้านบุกเปิดฝาโลงกลับกลายเป็นต้นกล้วย
เกี่ยวกับเรื่องนี้มีรายงานว่าได้เกิดเรื่องเศร้าขึ้นจริงๆ เพราะจู่ๆ ปู่แท้ๆ ของ "น้องไอซ์" ก็ได้เสียชีวิตลง เมื่อช่วงเวลา 11:00 น.ของวันพุธที่ 26 มี.ค. 2568 ที่ผ่านมา ซึ่งชาวบ้านพากันลือสนั่นหมู่บ้านว่านักเรียนชายคนดังกล่าวทำผิดประเพณีหมู่บ้านไปล้อเล่นกับความเชื่อแม่ไม่ตายแต่จัดงานศพให้แม่ สุดท้ายทำให้มีคนในครอบครัวเสียชีวิตจริงๆ แบบนี้ ซึ่งเบื้องต้นระบุว่า สาเหตุการเสียชีวิตเกิดจากโรคชรา
ขณะเดียวกัน นักเรียนชายคนดังกล่าวได้ออกมาชี้แจงหลายประเด็นที่เกิดขึ้นในโลกออนไลน์ โดยเขาเล่าเรื่องราวส่วนตัวว่า เขามักจะไปเข้าวัดทำบุญกับตาและยาย และครอบครัวมีความเชื่อเรื่องดวงชะตาตั้งแต่รุ่นบรรพบุรุษ จนเมื่อไม่นานมานี้ เขาได้ไปเข้าร่วมพิธีพุทธาภิเษกและทำกิจกรรมทางศาสนา โดยได้เจอคนที่นั่งข้างๆ ซึ่งทักเขาว่า "ดวงของแม่ตกถึงเท่าธุลีมีโอกาสเสียชีวิต" และแนะนำให้เขาจัดงานศพเสมือนจริงโดยใช้ต้นกล้วยแทนคน และเขียนชื่อแม่ใส่ไว้ในนั้น เขาจึงทำตามคำแนะนำเพราะไม่อยากให้แม่เป็นอะไร
นักเรียนชายคนนี้ยังเล่าต่อว่าเมื่อปี 2563 มีพี่ชายต่างแม่ที่หมอดูเคยทักเรื่องดวงของแม่ และไม่ทำตามก็เสียชีวิต เขาจึงทำตามคำทำนายเพราะกลัวว่าจะเกิดเหตุการณ์เหมือนในอดีต ทุกสิ่งที่ทำตนปรึกษากับครอบครัวเท่านั้น ไม่ได้ปรึกษากับคนในชุมชนหรือผู้นำชุมชน แม่ของเขาก็ไม่ได้บอกเรื่องนี้จนมารู้พร้อมกับผู้นำชุมชน
สำหรับการโพสต์ลงในโซเชียล เขาบอกว่าทำไปเพราะคึกคะนองอยากให้ทุกคนสนใจ โดยที่โรงเรียนไม่ได้รับการแจ้งเตือนจากเขา แต่มีเพื่อนหวังดีไปแจ้ง และชาวบ้านในหมู่บ้านก็ไม่ได้รับรู้เรื่องนี้เพราะเขาถือเคล็ดตามความเชื่อ
นักเรียนชายยังยอมรับว่าเคยติดการพนันออนไลน์ในช่วงที่อยากรู้อยากลอง แต่ยืนยันว่าเป็นอดีตและเงินที่ติดการพนันนั้นไม่ถึง 10,000 บาท ตอนนี้เขาตระหนักผิดและพร้อมที่จะกลับตัวกลับใจ ไม่กลับไปเล่นการพนันออนไลน์อีก เขายังกล่าวว่าเงินที่ยืมจากเพื่อนและครูนั้นได้ส่งคืนหมดแล้ว และไม่เคยหลอกเงินชาวบ้านเพื่อสะเดาะเคราะห์ตามที่ถูกกล่าวหา
เขากล่าวว่า การไปบวชนั้นเป็นความตั้งใจของเขาเอง ไม่ได้หลบหนีจากปัญหาและคิดว่าทุกอย่างจะจบลงแล้ว หลังจากนั้นเขาขอโทษทุกคนทั้งผู้นำชุมชน ครู และสังคมที่เขาทำแบบนี้ และขอโอกาสให้ตัวเองมีที่ยืนในสังคม พร้อมที่จะไม่ทำผิดซ้ำและเคลียร์ทุกปัญหาที่เกิดขึ้นให้ชัดเจน
อย่างไรก็ตาม สำหรับเรื่องการเสียชีวิตของปู่ เขาบอกว่าเพิ่งทราบข่าวจากนักข่าว และมั่นใจว่าการเสียชีวิตของปู่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการทำพิธีแม่ตายทิพย์ เขายืนยันว่าไม่เคยเขียนชื่อปู่ในงานศพดังกล่าว เพราะพิธีนี้จัดขึ้นเพื่อต่อชะตาชีวิตให้กับแม่เท่านั้น