- 28 มี.ค. 2568
รอง ผอ. โรงเรียนดังกลางกรุงเทพฯ แจงเอง สาเหตุหอบผ้าหอบผ่อนมานอน รร. ที่แท้มีเบื้องหลัง กับปัญหาสุขภาพ อาการป่วย
จากกรณีเฟซบุ๊ก ปฏิบัติการหมาเฝ้าบ้าน เผยแพร่เรื่องราวเกี่ยวกับ รอง ผอ. โรงเรียนแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ได้หอบผ้าหอบผ่อนมาอาศัยอยู่บริเวณห้องเก็บของใต้บันไดของโรงเรียนตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา โดยได้กินอยู่ที่นี่มานาน 4 เดือนแล้ว วันดีคืนดีก็ใส่เสื้อบอลเดินไปอาบน้ำให้ครูและนักเรียนได้เห็นกันด้วย
นายปริญญา รอง ผอ. โรงเรียนดังกล่าว ซึ่งทางเพจปฏิบัติการหมาเฝ้าบ้านให้ข้อมูลว่าเป็นบุคคลที่หอบผ้ามานอนที่โรงเรียน ได้เดินเข้ามาชี้แจงถึงเรื่องนี้พร้อมกับพาไปดูบริเวณห้องเก็บของใต้บันไดอาคาร 2 ซึ่งตนเองนอนอาศัยอยู่ด้วย
โดย นายปริญญา เผยถึงเหตุผลที่ต้องมานอนที่โรงเรียนว่า ปกติตนอาศัยบ้านเช่าอยู่คนเดียวที่ย่านบึงกุ่ม เนื่องจากได้แยกทางกับภรรยาและลูก แต่เมื่อช่วงปลายปีที่แล้วตนมีอาการตัวสั่นและวูบหมดสติระหว่างการประชุม
ครูในโรงเรียนจึงพากันนำตัวส่งโรงพยาบาล ต้องนอนรักษาตัวนาน 5 วัน ผลการตรวจสุขภาพพบว่าตนมีภาวะโรคหัวใจ เนื่องจากเส้นเลือดหัวใจตีบหรืออุดตันไป 1 เส้น
หลังออกจากโรงพยาบาล ร่างกายก็ไม่แข็งแรง เดินขึ้นอาคารเรียนก็มีอาการหอบเหนื่อย ต้องกินยาช่วงเช้า 8 เม็ด กินยาช่วงเย็น 3 เม็ด ทุกวัน ทาง ผอ. เห็นว่าสุขภาพไม่ดีและพักอาศัยอยู่คนเดียว ถ้าอาการกำเริบหรือวูบอีกอาจจะถึงขั้นเสียชีวิตได้ จึงสอบถามว่ามานอนเฝ้าโรงเรียนหรือไม่ มาคอยดูแลโรงเรียนด้วย เพราะที่โรงเรียนมี รปภ. หากมีเหตุฉุกเฉินยังมีคนช่วยเรียกรถพยาบาลให้ได้
จากนั้นตนจึงขอมานอนที่โรงเรียนชั่วคราวเพื่อรักษาตัวให้แข็งแรง ถ้าแข็งแรงแล้วก็จะกลับไปพักที่เดิมหรือออกไปเช่าที่พักใกล้โรงเรียน โดยช่วงที่มานอนโรงเรียนก็ได้ไปรับลูกสาววัย 8 ขวบ ที่อาศัยอยู่กับยายให้มานอนเป็นเพื่อน มาเฝ้าพ่อ และสั่งว่าถ้ามีอาการกำเริบหรือหมดสติไปให้รีบวิ่งไปเรียก รปภ. เพื่อตามรถพาไปโรงพยาบาลด้วย เนื่องจากตอนอยู่ที่เดิมตนต้องขี่รถจักรยานยนต์ระยะทาง 15 กม. ถือว่ามีความเสี่ยง จึงมานอนที่โรงเรียนชั่วคราว
สำหรับห้องที่ตนอาศัยนอน เป็นห้องเก็บของและควบคุมหม้อแปลงไฟฟ้า อยู่ใต้บันไดอาคาร 2 ไม่มีแอร์ ยาวประมาณ 4 เมตร กว้าง 2-3 เมตร ใช้อาศัยนอนชั่วคราวเท่านั้นระหว่างรอให้อาการป่วยดีขึ้น และยังได้นำใบรับรองแพทย์และยาที่ต้องกินทุกวันมาให้ทีมข่าวดูด้วย
โดยทางรอง ผอ. คาดว่าสาเหตุที่มีภาพและข้อมูลไปปรากฏในสื่อ อาจเพราะปัญหาการทำงานภายในโรงเรียนที่มีทั้งคนชอบและไม่ชอบ เพราะตนเป็นผู้บริหาร อาจสั่งงานหรือทำอะไรไม่ถูกใจบุคลากรบางคน จึงทำให้เกิดการร้องเรียนดังกล่าว