อาฟเตอร์ช็อก เหตุการณ์แผ่นดินไหว วันเดียวปาไปแล้วกว่า 26 ครั้ง

"แผ่นดินไหวล่าสุด" เกิดความหวาดหวั่นไปทั่วทั้งประเทศไทย ซึ่งรายงานเบื้องต้นพบว่า จุดศูนย์กลางของแผ่นดินไหวมาจากประเทศเมียนมาซึ่งเกิดอาฟเตอร์ช็อกไม่ต่ำกว่า 9 ครั้ง ตอนนี้ทราบแล้วว่าต้นเหตุเกิดจากกลุ่มรอยเลื่อนสกาย 

 

 

 

ขณะเดียวกันทางเพจ กรมอุตุนิยมวิทยา ได้โพสต์รายงานอาฟเตอร์​ช็อก หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหว ขนาด 8.2 ความลึก 10 กิโลเมตร ที่เกิดขึ้นเมื่อเวลา 13:20 น. ศูนย์กลางบริเวณเมืองมัณฑะเลย์ ประเทศเมียนมา ซึ่งจนถึงเมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมาเกิดอาฟเตอร์​ช็อกไปแล้ว 26 ครั้ง ดังนี้

ครั้งที่ 1 เวลา 13:32 น. ขนาด 7.1 
ครั้งที่ 2 เวลา 13:45 น. ขนาด 5.5
ครั้งที่ 3 เวลา 14:24 น. ขนาด 4.0
ครั้งที่ 4 เวลา 14:37 น. ขนาด 5.2
ครั้งที่ 5 เวลา 14:42 น. ขนาด 3.9
ครั้งที่ 6 เวลา 14:50 น. ขนาด 3.5
ครั้งที่ 7 เวลา 14:57 น. ขนาด 4.7
ครั้งที่ 8 เวลา 15.:21 น. ขนาด 4.0
ครั้งที่ 9 เวลา 15:45 น. ขนาด 3.7
ครั้งที่ 10 เวลา 15:52 น. ขนาด 3.8
ครั้งที่ 11 เวลา 16:06 น. ขนาด 4.2
ครั้งที่ 12 เวลา 16:11 น. ขนาด 3.8
ครั้งที่ 13 เวลา 16:26 น. ขนาด 4.3
ครั้งที่ 14 เวลา 16:30 น. ขนาด 4.5
ครั้งที่ 15 เวลา 16:55 น. ขนาด 4.9
ครั้งที่ 16 เวลา 17:28 น. ขนาด 3.1
ครั้งที่ 17 เวลา 17:30 น. ขนาด 4.1
ครั้งที่ 18 เวลา 17:50 น. ขนาด 3.0
ครั้งที่ 19 เวลา 17:59 น. ขนาด 4.0
ครั้งที่ 20 เวลา 18:10 น. ขนาด 3.3
ครั้งที่ 21 เวลา 18:16 น. ขนาด 3.7
ครั้งที่ 22 เวลา 18:30 น. ขนาด 4.2
ครั้งที่ 24 เวลา 18:36 น. ขนาด 4.0
ครั้งที่ 25 เวลา 18:54 น. ขนาด 1.9
ครั้งที่ 25 เวลา 18:57 น. ขนาด 2.9
ครั้งที่ 26 เวลา 19:02 น. ขนาด 4.1

สำหรับ ข้อมูลจากกองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว สามารถติดตามได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา earthquake.tmd.go.th

ขณะเดียวกัน กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (ปภ.) ออกหนังสือด่วนที่สุดถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หลังเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงในเมียนมา ขนาด 8.2 แมกนิจูด เมื่อเวลา 13.20 น. วันที่ 28 มีนาคม 2568 โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่ ละติจูด 21.682 องศาเหนือ ลองจิจูด 96.121 องศาตะวันออก และลึก 10 กิโลเมตร

 

คำสั่งเร่งด่วนจาก ปภ.

นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้มีคำสั่งให้ กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด ทุกจังหวัดดำเนินการดังนี้

 

1. ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด – ให้ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัดเฝ้าระวังและประเมินผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากแผ่นดินไหว 
 

2. แจ้งเตือนประชาชน – ชี้แจงทำความเข้าใจเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเพื่อลดความตื่นตระหนก พร้อมให้ข้อมูลเกี่ยวกับแนวทางการปฏิบัติตัวอย่างปลอดภัย

3. สำรวจความเสียหายและให้ความช่วยเหลือ – ให้เร่งตรวจสอบอาคาร สถานที่ และโครงสร้างพื้นฐาน หากพบความเสียหายให้ดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบของทางราชการ

 

ทั้งนี้ ปภ. ย้ำให้ทุกจังหวัดรายงานสถานการณ์และผลการดำเนินงานต่อกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลางอย่างต่อเนื่อง เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากแผ่นดินไหวครั้งนี้