นายก อบต. พยอม ไม่ทน บุกร้องทุกข์ ถูกรองนายก อบต. ข่มขู่ จนต้องย้ายครอบครัวหนี

เจอกดขี่ข่มเหงมา2ปีเต็มๆ นายก อบต. "พยอม" จังหวัดพระนครศรีอยุธยาควง สมาชิกพรรคก้าวไกล ร้อง "ธนกฤต"ถูกรองนายก อบต. ข่มขู่ อ้างรู้จักคนใหญ่โต


3 ม.ค.67 เวลา 11.20 น. ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล นายชณทัต ปัทะมะภูวดล สมาชิกพรรคก้าวไกล พร้อมด้วย นายธนะโรจน์ ธนาชัยกุลไพศาล นายกองค์การบริหารส่วนตำบลพยอม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เดินทางเข้ามายื่นหนังสือกับ ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต จิตรอารีรัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรี ประจำรองนายกรัฐมนตรี ให้ช่วยเหลือ กรณีถูกรองนายกฯพยอม ข่มขู่ จน. ต้องย้ายครอบครัวหนี เพราะเกรงว่าหากอยู่ในพื้นที่จะเป็นอันตราย 

นายก อบต. พยอม ไม่ทน บุกร้องทุกข์ ถูกรองนายก อบต. ข่มขู่ จนต้องย้ายครอบครัวหนี
นายธนะโรจน์ กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตกช่วงค่ำของวันดังกล่าว ก็มีกลุ่มชายฉกรรจ์สวมหมวกกันน็อคเต็มใบ แต่งกายชุดสีดำมาเดินอยู่รอบบริเวณตัวบ้าน ตนกลัวว่าจะมีอันตรายเกิดขึ้นนกับตัวเองและครอบครัวจึงได้ไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันเอาไว้ก่อนและหนีเข้ามาพักอาศัยอยู่ใน กทม. เป็นการชั่วคราว เบื้องต้นตนสันนิษฐานว่ากลุ่มบุคคลดังกล่าว น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับ รองนายก อบต. เนื่องจากตนก็ไม่เคยมีปัญหากับบุคคลอื่นๆ 

นายก อบต. พยอม ไม่ทน บุกร้องทุกข์ ถูกรองนายก อบต. ข่มขู่ จนต้องย้ายครอบครัวหนี

นายก อบต. พยอม ไม่ทน บุกร้องทุกข์ ถูกรองนายก อบต. ข่มขู่ จนต้องย้ายครอบครัวหนี
ด้าน นายชณทัต กล่าวว่า ความตั้งใจจริงของ นายก อบต. ขณะนี้คืออยากกลับบ้านไปทำงาน ไปลงพื้นที่ทำหน้าที่ของตนเอง แต่ก็ไม่สามารถกลับไปได้ เนื่องจากตัวเขาต้องโดนข่มขู่จากหลายช่องทาง เช่นการโทรศัพท์เข้ามาข่มขู่ การส่งคนเข้ามาในบริเวณบ้าน เป็นต้น อีกทั้งต้องเจอกับการกดขี่ข่มเหง มาเป็นเวลากว่า 2 ปีกว่าที่ได้เข้ามาทำงาน ในวันนี้จึงเข้ามาเพื่อยื่นหนังสือขอความช่วยเหลือ จาก ร.ต.ธนกฤต ให้ตัวของ นายก อบต. สามารถกลับไปทำงานได้เช่นเดิม โดยที่ไม่ต้องมีความกังวลใจใดๆ

นายก อบต. พยอม ไม่ทน บุกร้องทุกข์ ถูกรองนายก อบต. ข่มขู่ จนต้องย้ายครอบครัวหนี
ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต กล่าวว่า ขณะนี้ได้มีการส่งเรื่องดังกล่าวให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการช่วยเหลือ เพื่อให้ นายก อบต. สามารถกลับเข้าไปทำงานในพื้นที่ได้อย่างไม่ต้องกังวลใจ ในส่วนของเรื่องผู้มีอิทธิพลและเรื่องของการข่มขู่ เบื้องต้นจะต้องมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐานให้เพียงพอก่อน จึงจะสามารถดำเนินการตามกฏหมายต่อบุคคลเหล่านั้นได้ ซึ่งตนก็จะเร่งรวบรวมพยานหลักฐานให้เร็วที่สุดเพื่อให้ความยุติธรรมกับผู้ที่เข้ามาร้องทุกข์ได้กลับไปทำงานด้วยความสบายใจ