- 15 ม.ค. 2562
อัญเชิญพระบรมฉายาลักษณ์เหนือศีรษะ ประกาศให้ทั้งโลกรู้ว่า เราคือนักกีฬาของพระราชา
เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2562 เวลา 23.00 น. ตามเวลาประเทศไทย การแข่งขันฟุตบอลเอเชียน 2019 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มเอ นัดที่สาม ณ สนาม ฮัซซ่า บิน ซายิด, อัล ไอน์ ระหว่างเจ้าภาพ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ พบกับ ทีมชาติไทย ถือเป็นนัดชี้ชะตาการเข้ารอบของทีมชาติไทย
โดย สองเกมที่ผ่านมา ยูเออี มีสี่คะแนน จากการเสมอ บาห์เรน 1-1 และชนะ อินเดีย 2-0 นำเป็นจ่าฝูงของกลุ่ม เกมนี้ อัลแบร์โต้ ซัคเคโรนี ส่ง อาลี มับคุต เป็นกองหน้าตัวเป้า ส่วนแดนหลางมี คอลฟาน มูบารัค และ มายิด อาหมัด
ด้าน ช้างศึก สองเกมแรก แพ้อินเดีย 1-4 และ ชนะ บาห์เรน 1-0 ทำให้มีสามคะแนน รั้งอันดับ 3 ของกลุ่ม โดยเกมนี้ ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย หมดสิทธิ์ใช้งาน พรรษา เหมวิบูลย์ ที่ติดโทษแบน ทำให้เป็นโอกาสของ มิก้า ชูนวลศรี ที่ลงมาคุมแนวรับแทน ส่วนที่เหลือยังเป็นนักเตะชุดเดิม นำโดย ธีรศิลป์ แดงดา กัปตันทีม และ ชนาธิป สรงกระสินธ์ ผู้ทำประตูชัยจากเกมที่แล้ว ซึ่งช้างศึกต้องการ อย่างน้อย 1เเต้ม เพื่อการลิ่วรอบ 16ทีมสุดท้ายต่อไป
เริ่มเกมมาแค่เจ็ดนาทีกลายเป็น ยูเออี ที่มาได้ประตูขึ้นนำ จากจังหวะที่ อิสมาอิล อัล ฮัมมาดี้ ได้หลุดเดี่ยวก่อนยิงไปชนคานกระเด้งมาเข้าทาง อาลี มับคุต ซ้ำเข้าไปให้ เจ้าภาพนำก่อน 1-0
เเต่ช้างศึก ก็ฮึดสู้ ไม่ยอมง่ายๆ ถึงนาที 41 ไทยมาได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะที่ ชนาธิป สรงกระสินธ์ ยกบอลให้ ธีรศิลป์ แดงดา ดีดบอลต่อให้ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ ยิงเข้าไปให้ สกอร์กลับมาเท่ากันที่ 1-1 กองเชียร์ไทยเฮกันลั่น
ครึ่งหลัง ทั้งสองทีมเปิดเกมเเลกกันอย่างสนุก เเต่ไม่มีฝ่ายใดทำสกอร์ได้ ครบ 90นาที ไทย เสมอ ยูเออี ไป 1-1 ส่วนผลอีกคู่ในสายเดียวกัน อินเดีย แพ้ บาห์เรน 0-1 ทำให้ ยูเออี ได้แชมป์กลุ่ม มี 5 แต้ม และ ไทย มี 4 แต้มเท่า บาห์เรน ได้รองแชมป์กลุ่ม เพราะเฮดทูเฮดดีกว่า ผ่านเข้ารอบน็อคเอาท์แบบอัตโนมัติทันที
ซึ่งถือเป็นการผ่านเข้ารอบน็อคเอาท์ได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1972 หรือ 47 ปี ที่ไทยเป็นเจ้าภาพและคว้าอันดับ 3สำหรับทีมชาติไทย ผ่านเข้ารอบน็อคเอาท์ไปพบกับ รองแชมป์กลุ่ม ซี ซึ่งจะวัดกันระหว่าง เกาหลีใต้ กับ จีน โดยจะแข่งขันกันที่ สนาม ฮัซซ่า บิน ซายิด ในวันที่ 20 มกราคม 2562 เวลา 21.00 น. ถ่ายทอดสด ทางช่อง 7 สีและ Fox Sport
.
หลังเกมก็ได้มีบรรยากาศเเห่งความสุข การเฉลิมฉลองเเมตช์เเห่งประวัติศาสตร์ ของทีมชาติไทย ที่รอคอยมากว่า 47 ปี กับการทะลุรอบ 16 ทีมสุดท้ายฟุตบอลเอเชียนคัพ ถ้วยชิงเเชมป์เเห่งทวีปเอเชีย โดยเเข้งช้างศึก ทีมงานสตาฟฟ์โค้ช รวมทั้ง พลตำรวจเอก สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ก็ได้มาร่วมดีใจ เป็นปลื้มกับผลงานอันสุดยอดในนัดดังกล่าว พร้อมกับมีโมเม้นต์ประทับใจ ที่บรรดาเเข้งช้างศึก ชูพระบรมฉายาลักษณ์ของในหลวงรัชกาลที่10 เหนือศีรษะ เเสดงความจงรักภักดี ซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ ภายในห้องเเต่งตัว ช่วงหลังจบเกม
.
.
.