- 17 ม.ค. 2562
ความพร้อมของทีมชาติไทย ก่อนลงสนามรอบ16ทีมสุดท้าย เอเชียน คัพ 2019 ปะทะจีน
หลังจากที่ทราบผลการเเข่งขัน ฟุตบอล เอเชียน คัพ 2019 เมื่อคืนวันที่ 16 มกราคม ผ่านมา ระหว่าง เกาหลีใต้ กับ จีน ซึ่ง เเข้งโสมขาว เอาชนะไป 2-0 ทำให้ในศึกเอเชียนคัพ 2019 รอบ 16 ทีมสุดท้าย ที่สนาม ฮัสซา บิน ซายิด สเตเดียม, อัล ไอน์ ในวันที่ 20 มกราคม 2562 เวลา 21.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ทีมชาติไทย ที่จารึกประวัติศาสตร์ทะลุเข้ารอบน็อคเอาท์หนเเรกในรอบ 47 ปี จะลงสนามพบกับ ทีมชาติจีน
โดยในเรื่องของขวัญเเละกำลังใจ ความเคลื่อนไหวในทีมนั้น ทาง นายกิติศักดิ์ จำปาทิพย์พงศ์ ผู้อำนวยการทีมชาติไทย ชุดเอเชียนคัพ 2019 เผยว่า การที่ทีมชาติไทยผ่านเข้ามาถึงรอบนี้ได้ถือว่าเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมแล้ว นักเตะทุกคนมุ่งมั่นทำงานอย่างหนัก ตรงนี้ต้องให้เครดิตเขา อย่างไรก็ตาม งานของเรายังไม่จบ เรายังมีงานในรอบ 16 ทีมรออยู่ ซึ่งที่ผ่านมาเรามีทีมงานวิเคราะห์เกม ทุกเกม รวมถึงเกมที่ทีมชาติ จีน พ่าย เกาหลีใต้ด้วย
ต้องยอมรับว่าการพบกับทีมชาติจีน น่าจะเป็นงานง่ายกว่าการพบเกาหลีใต้ เพราะเกาหลีใต้เป็นทีมที่แข็งแกร่ง อีกทั้งยังไปแข่งขันฟุตบอลโลกมาแล้วหลายครั้ง การพบกับจีนถือว่าเป็นทีมระดับไม่ห่างกันมากนัก น่าจะเป็นเกมที่สนุกอีกเกมของทีมชาติไทย เชื่อว่าหากไทยเล่นได้เหมือน 2 นัดที่ผ่านมานน่าจะสามารถผ่านทีมชาติจีนไปได้
ส่วนเรื่องเงินอัดฉีด นัดเจอบาห์เรน บอกไว้ว่าอัดฉีดลูกละ 5 ล้าน ซึ่งไทยชนะ 1-0 รับไป 5ล้านบาท ส่วนเกมเสมอ ยูเออี อัดฉีด 10 ล้านบาท ทำให้ยอดเงินตอนนี้ 15 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม มีกระแสว่าหากทีมชาติไทยเข้าถึงรอบรองชนะเลิศ มีกลุ่มทุนพร้อมทุ่มเงินอัดฉีด เฉียด 50 ล้านบาทนั้น ส่วนตัวยังไม่ทราบเรื่องว่าเป็นใคร ทว่ายืนยันว่ายอดเงินอัดฉีดในรอบต่อๆไปจะไม่น้อยกว่ารอบที่ผ่านมาอย่างแน่นอน ซึ่งจะถึง 50 ล้านหรือไม่นั้น คงต้องขอดูอีกครั้งว่าจะมีผู้สนใจร่วมสมทบมากน้อยขนาดไหน
ส่วนเรื่องเงินอัดฉีด นัดเจอบาห์เรน บอกไว้ว่าอัดฉีดลูกละ 5 ล้าน ซึ่งไทยชนะ 1-0 รับไป 5ล้านบาท ส่วนเกมเสมอ ยูเออี อัดฉีด 10 ล้านบาท ทำให้ยอดเงินตอนนี้ 15 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม มีกระแสว่าหากทีมชาติไทยเข้าถึงรอบรองชนะเลิศ มีกลุ่มทุนพร้อมทุ่มเงินอัดฉีด เฉียด 50 ล้านบาทนั้น ส่วนตัวยังไม่ทราบเรื่องว่าเป็นใคร ทว่ายืนยันว่ายอดเงินอัดฉีดในรอบต่อๆไปจะไม่น้อยกว่ารอบที่ผ่านมาอย่างแน่นอน ซึ่งจะถึง 50 ล้านหรือไม่นั้น คงต้องขอดูอีกครั้งว่าจะมีผู้สนใจร่วมสมทบมากน้อยขนาดไหน
ด้าน "โค้ชโต่ย" ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย รักษาการหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีม "ช้างศึก" พอใจที่ทีมจะพบกับทีมชาติจีน ในฟุตบอลเอเชียน คัพ 2019 รอบ 16 ทีมสุดท้าย และมั่นใจว่าทีมไทยสู้กับขุนพลจากแดน "มังกร" ได้อย่างแน่นอน
ทีมชาติไทย จะโคจรมาพบกับทีมชาติจีน ในฟุตบอลเอเชียน คัพ 2019 รอบ 16 ทีมสุดท้าย โดยวันที่ 16 มกราคม ที่ผ่านมา "โค้ชโต่ย" ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย นำทีมงานสตาฟฟ์โค้ชทั้ง ฮูลิโอ ยาเนซ นักวิเคราะห์เกม, เนบอยซา สตาเมนโควิช โค้ชฟิตเนส และ ซาช่า โทดิช โค้ชผู้รักษาประตู เดินทางไปชมการแข่งขันที่ ทีมชาติจีน พ่าย ทีมชาติเกาหลีใต้ 0-2 ภายหลังจบเกมกุนซือวัย 49 ปี กล่าวว่า "ผมคิดว่าเราสู้ได้" "โค้ชโต่ย" กล่าวเริ่ม
"เกมเจอกับจีน เราต้องรักษามาตรฐานให้ได้เหมือนสองเกมที่ผ่านมา และทำงานให้หนักขึ้นกว่าเดิม เพราะเกมนี้สำคัญมาก เราต้องเล่นให้ละเอียด จีน มีนักเตะที่ร่างกายแข็งแกร่ง เล่นบอลโยน ซึ่งตรงนี้ เราต้องนำมาปรับ เพื่อรับมือให้ได้เชื่อว่า เราน่าจะสู้ได้สนุกครับ แต่ผลการแข่งขัน ก็คงต้องไปวัดกันในสนาม เราเคยเจอเขามาแล้วในเกมอุ่นเครื่องเมื่อปีที่ผ่านมา แม้เราจะแพ้ แต่เกมนั้นเราสู้ได้อย่างไม่เป็นรองเลย"
"ส่วน สรรวัชญ์ เดชมิตร ที่บาดเจ็บจนต้องกลับไปตรวจเช็คอาการบาดเจ็บที่ประเทศไทยนั้น ถือว่าน่าเสียดาย เพราะเขาเป็นนักเตะที่ดี แต่นักเตะคนอื่นๆ ก็พร้อมทดแทนได้ ซึ่งผมจะวางแผนเรื่องนี้ร่วมกับทีมงานสตาฟฟ์โค้ชอีกครั้งครับ เรายังมีเวลาเตรียมทีมอีกหลายวัน ซึ่งจากนี้ผมจะเน้นทุกอย่างละเอียด เพื่อให้ทีมพร้อมมากที่สุดในการพบกับ จีน"
"บรรยากาศในทีมตอนนี้คึกคักมาก นักเตะทุกคนมีความกระหาย และมีความมั่นใจมาก แต่ว่าผมยังย้ำทุกคนว่าต้องมีสมาธิให้มาก มากกว่าเดิมจากการแข่งขันรอบแรก ผมเชื่อว่าหากเราทำได้ตามแผนที่วางไว้ โอกาสผ่านเข้ารอบต่อไปก็มีเหมือนกันครับ" รักษาการหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีม "ช้างศึก"กล่าวปิดท้าย
สำหรับการแข่งขันฟุตบอลเอเชียน คัพ 2019 รอบ 16 ทีมสุดท้าย ทีมชาติไทย จะพบกับทีมชาติจีน ที่สนาม ฮัสซา บิน ซายิด สเตเดียม, อัล ไอน์ ในวันที่ 20 มกราคม 2562 เวลา 21.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ถ่ายทอดสดทางช่อง 7 HD และ FOX Sports HD
ขอบคุณ
ช้างศึก