โค้ชเวียดนามสั่งปลด นักเตะเสื้อเบอร์ 3 ออกจากตำแหน่งกัปตันทีม หลังแพ้ไทย

แม้การแข่งขันชิงแชมป์อาเซียนจะจบลงไปแล้ว แต่เชื่อเลยว่า ความสุขที่คนไทยได้รับนั้นยังคงคุกรุ่นมาจนถึงวันนี้แน่นอน ซึ่งประเด็นจากเกมการแข่งขันนั้นก็ยังเป็นที่พูดถึงอย่างต่อเนื่องสำหรับทีมชาติไทย และทีมชาติเวียดนาม คู่รักคู่แค้นที่ทัพช้างศึกได้เขี่ยให้ตกรอบรองชนะเลิศ ก่อนที่บอลไทยจะเชือดอินโดนีเซียและได้แชมป์ เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020 มาครอง

โดยการตกรอบรองฯ ของทีมชาติเวียดนามหลังจากที่เวียดนามแพ้ทีมชาติไทยนั้น มีผลอย่างมากกับ ฟุตบอลทีมชาติเวียดนาม และหนึ่งในนั้นคือตำแหน่ง กัปตันทีม ที่จะไม่ใช่ เกว๋ หง็อก ไห่ ผู้เล่นที่สวมเสื้อหมายเลข 3 อีกต่อไปที่จะรับหน้าที่ต่อในศึกฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก กับ ออสเตรเลีย และ จีน ในวันที่ 27 มกราคม และ 1 กุมภาพันธ์

เรื่องนี้สื่อเวียดนามหลายๆ สำนักต่างนำเสนอตรงกัน พร้อมทั้งเหตุผลที่ออกจากปากของ ปาร์ค ฮัง-ซอ โค้ชเวียดนามชาวเกาหลีใต้ ที่มีใจความสำคัญว่า "ผมต้องการเปลี่ยนแปลง สิ่งแรกคือตำแหน่งกัปตัน เกว๋ หง็อก ไห่ จะไม่ได้เป็นกัปตันทีมต่อไปแล้ว ผมอยากให้เขาโฟกัสกับฟุตบอลมากขึ้น"

 

ทั้งนี้สำหรับ เกว๋ หง็อก ไห วัย 28 ปี ได้รับเลือกให้เป็นกัปตันทีมครั้งแรกในศึกฟุตบอลเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2018 ต่อจาก เหงียน วาน เกี๊ยต ที่ไม่มีชื่อในยุคของกุนซือชาวเกาหลีใต้ ขณะเดียวกัน รายงานยังไม่ได้ระบุว่า ปาร์ค ฮัง-ซอ จะเลือกใครขึ้นมาเป็นกัปตันทีมแทน

 

ทว่าในโลกออนไลน์ สื่อกีฬาชื่อดังของเวียดนามอย่าง เถอเถา 247 ได้เปิดโพลแสดงความเห็นให้แฟนบอลเข้ามาตอบว่า หากเลือกได้จะให้ใครเป็นกัปตันทีมแทน โดยในโพลมีนักเตะ 4 คน ได้แก่ โด ฮุง ดุง, เหงียน กวง ไฮ, เลือง ซวน เชือง และ บุย เทียน ดุง

โดยส่วนใหญ่แฟนเวียดนามเลือก โด ฮุง ดุง โดยต่างให้ความเห็นว่า เป็นนักเตะที่มีความสามารถและมีความเป็นผู้นำสูง ขณะที่ เหงียน กวง ไฮ แฟนเวียดนามมองว่าฝีเท้าดี แต่ภาวะความเป็นผู้นำยังมีไม่พอ

 

ด้าน โด ฮุง ดุง คือแข้งตัวหลักของทีมชาติเวียดนาม ตั้งแต่ชุดคว้าแชมป์ ซูซูกิ คัพ 2018, ชุดคว้าเหรียญทองซีเกมส์ 2019, ชุดรองแชมป์คิงส์ คัพ 2019 และเคยได้รางวัลโกลเด้นบอล ของเวียดนาม เมื่อปี 2019 อีกด้วย

 

อย่างไรก็ตาม โปรแกรมการแข่งขันต่อไปของทีมชาติเวียดนาม จะลงแข่งขันในศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 12 ทีมสุดท้าย กลุ่มบี นัดที่ 7 กับทีมชาติออสเตรเลีย วันที่ 27 มกราคมนี้

ภาพจาก ช้างศึก