- 20 ส.ค. 2565
ใครพลาดน่าเสียดาย ไฮไลท์ บัวขาว บัญชาเมฆ จัดยำชุดใหญ่ใส่ โคตะ ชนะน็อก นักมวยชาวญี่ปุ่นเปิดใจขอโทษกองเชียร์!
ไฮไลท์ บัวขาว จัดยำชุดใหญ่ใส่ โคตะ นักมวยชาวญี่ปุ่นเปิดใจขอโทษกองเชียร์ จบลงไปแล้วกับมวยไฟต์พิเศษ พิเศษระดับโลกรายการ KAT PRESENTS LEGEND OF RAJADAMNERN ณ เวทีมวยราชดำเนิน ซึ่งคู่เอกที่หลายคนจับได้เห็นทีจะเป็นการชกของ ยอดนักชกขวัญใจชาวไทย บัวขาว บัญชาเมฆ พบ โคตะ มิอุระ นักมวยหนุ่มดาวรุ่งจากประเทศญี่ปุ่น (ชมไฮไลท์ท้ายข่าว)
สำหรับความพิเศษของมวยคู่ บัวขาว - โคตะ มิอุระ เป็นการกลับมาขึ้นเวทีสนามมวยราชดำเนินอีกครั้งของยอดมวยไทยในรอบกว่า 18 ปี ซึ่งการชกจะเป็นรูปแบบของ Kickboxing Exhibition หรือ "ชกโชว์" โดยไม่มีการตัดสินผลการแข่งขัน เน้นการสาธิตและอธิบายความแตกต่างระหว่างมวยไทยกับคิกบ๊อกซิ่ง
แมตช์นี้ บัวขาว บัญชาเมฆ ยอดนักชกขวัญใจชาวไทย ในวัย 40 ปียังคงใช้เพลง บางระจัน ที่ขับร้องโดยวงคาราบาว ซึ่งเป็นเพลงที่ บัวขาว ชอบใช้ตอนที่จะลงแข่งไม่ว่าจะแข่งแมตช์ไหนๆ ขณะที่ โคตะ มิอุระ นักมวยชาวญี่ปุ่นวัย 20 ปี ได้เปิดตัวอย่างน่ารักด้วยเพลง Man is Tired ของศิลปิน LEAP ซึ่งทั้งสองเรียกเสียงกรี๊ดจากแฟนๆ ในสตูได้อย่างดี เพลงเปิดตัวโคตะ
การชกผ่านไป 3 ยก ดูเหมือนว่า 2 ยกแรกโคตะจะเจออาวุธหนักๆ จากบัวขาวไปหลายช็อต ทำให้เจ้าตัวถึงกับเมาหมัด ก่อนที่ บัวขาว จะบรรเลงเพลงหมัด ประเคนขุนเข่าไร้น้ำใจ สวนมวยให้กับรุ่นน้อง กระทั่งเวลาเหลืออีก 31 วินาทีแต่กรรมการต้องยุติการชก
- บัวขาว ไม่มีปราณี สอนมวย โคตะ ประเคนทั้งหมัด - เข่า ใส่นักมวยรุ่นน้องไม่ยั้ง
ไฮไลท์บัวขาว-โคตะ โดยหลังจากการชกสิ้นสุดลงดูเหมือนว่า โคตะ จะไม่พอใจกับผลงานของตนเองเท่าใดนัก ซึ่งจากสีหน้าบ่งบอกได้ว่า การชกครั้งนี้ไม่เป็นตามที่เขาต้องการ นอกจากนี้นักมวยชาวญี่ปุ่นวัย 20 ปียังได้บอกอีกว่า
"ทั้งๆที่ทุกคนอุตส่าห์ให้ความสนใจและตั้งตารอเชียร์ขนาดนี้ แต่กลับไม่สามารถเป็นคู่ต่อสู้ของพี่บัวขาวได้เลย รู้สึกขอโทษทุกคนจริงๆ"
อย่างไรก็ตามในเพจ RWS - Rajadamnern World Series ได้เผยคลิปไฮไลท์บัวขาวปะทะโคตะ พร้อมทั้งระบุข้อความว่า "ไฟต์เต็มมาแล้ว! มาแล้วจ้า กับคลิปเต็มของศึกซูเปอร์ไฟต์ที่หลายคนตั้งตารอคอยระหว่าง "บัวขาว บัญชาเมฆ" กับ "โคตะ มิอุระ" ไปดูกันเลยดีกว่าว่าไฟต์นี้จบลงยังไง?!" บอกเลยว่าใครพลาดชมสดยังมีไฮไลท์นะจ๊ะ
ภาพ - คลิปจาก RWS - Rajadamnern World Series
ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Thainewsonline