สรุปทุกดราม่า "ลิเวอร์พูลพบสเปอร์ส" เกิดอะไรขึ้นกับ 2 ใบแดง - ลูกล้ำหน้า

สรุปทุกดราม่า "ลิเวอร์พูลพบสเปอร์ส" เกิดอะไรขึ้นกับ 2 ใบแดง - ลูกล้ำหน้า : กลายเป็นอีกหนึ่งค่ำคืนที่เหล่าเดอะค็อป ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า "ยิ่งรักลิเวอร์พูล" มากขึ้นเพิ่มไปอีกมหาศาลแม้ว่า ทีมรักจะพ่ายแพ้ให้กับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ส ไปอย่างดราม่า 1 - 2 และผลของเกมนี้เองทำให้เกิดคำถามมากมายถึง ไซมอน ฮูเปอร์ (Simon Hooper) ผู้ตัดสินที่ 1 และ ดาร์เรน อิงแลนด์ (Darren England) กรรมการในห้อง VAR

 

 

เกมนี้ หงส์แดงต้องบุกไปเยือน ไก่เดือยทอง ที่ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ส สเตเดียม เกมดำเนินไปตามปกติ ช่วง 25 นาทีแรกทุกคนยังทำหน้าที่ของตนเองได้ดี ก่อนที่ เคอร์ติส โจนส์ (Curtis Jones) เจ้าหนูวัย 22 ของลิเวอร์พูล ที่เล่นไปกับบอลทว่า เท้าลื่นไถลไปเตรียมข้อเท้า อีฟส์ บิสซูม่า (Yves Bissouma)

ตอนแรกกรรมการตัดสินใจให้ใบเหลืองทันที แต่เมื่อได้รับสัญญาณจากห้อง VAR ที่ได้เช็คภาพช้าแล้ว ฮูเปอร์ จึงขอไปดูภาพด้วยตนเอง ก่อนจะตัดสินใจเปลี่ยนคำตัดสิน เปลี่ยนใบเหลืองให้เป็นใบแดงโดนตรง ไล่ โจนส์ ออกจากสนาม ทำให้ลิเวอร์พูลเหลือ 10 คนตั้งแต่นาทีที่ 26

แต่ทัพหงส์แดงใช่ว่าจะหยอง ทำเกมของตนเองได้อย่างดีที่สุด และแล้วจังหวะเจ้าปัญหาก็เกิดขึ้นอีกครั้ง เมื่อนาทีที่ 33 หลุยส์ อิดาซ (Luis Diaz) ปีกความเร็วจัดชาวโคลอมเบียของลิเวอร์พูลรับบอลทะลุช่องสุดสวยจาก โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (Mohammed Salah) ก่อนจะเลี้ยงไปยิงหักข้ออย่างเฉียบคม แต่ผู้ช่วยผู้ตัดสินยกธงขึ้นบอกล้ำหน้า 

 

 

จังหวะนี้เองได้กลายที่พูดถึงอีกหนึ่งจังหวะของเกมนี้ เพราะนอกจาก ฮูเปอร์ จะไม่ได้ไปดู VAR ด้วยตนเองแล้ว อิงแลนด์ กรรมการในห้อง VAR ก็ไม่ได้ตีเส้นให้ดูอย่างชัดเจน และที่ทำให้แฟนบอลลิเวอร์พูลหัวร้อนสุดๆ ก็ตอนที่ ทางกรรมการชุดนี้ให้ดูแต่ภาพเพียงแค่ไม่กี่วินาทีเท่านั้น ไม่มีการตีเส้นใดๆ 

 

 

เกมนี้ อลิสซอน เบคเกอร์ (Alisson Becker) มือกาวลิเวอร์พูลต้องเซฟลูกยิงของสเปอร์สมือเป็นระวิง กระทั่งความหละหลวมมาหลุดในช่วงนาทีที่ 36 ซอน เฮือง มิน (Son Heung-Min) รับหน้าที่เบิกลูกแรกให้กับไก่เดือยทองได้สำเร็จ จนใครๆ ก็คือว่า มีลูกหนึ่งแล้วต้องมีลูกสอง แต่ทุกคนคิดผิด 

 

เพราะหลังจากนั้นในนาทีที่ 45 + 4 โคดี้ กักโป (Cody Gakpo) พลีชีพล็อคข้อตวัดยิงสุดสวยให้ลิเวอร์พูลตามตีเสมอได้ 1 - 1 อย่างน่าเหลือเชื่อ ก่อนที่เจ้าตัวจะแสดงออกว่ามีอาการบาดเจ็บ และ ในช่วงครึ่งหลัง เจอร์เก้น คล็อปป์ (Jurgen Klopp) ต้องเปลี่ยนตัวเขาออก ลงแทนด้วย ดิเอโก้ โจต้า (Diogo Jota) ทันที 

แต่แล้วแฟนหงส์แดงก็ต้องร้อง What?? ลั่นบ้านเพราะ โจต้า ที่ลงมาหวังเป็นซูเปอร์ซับ กลับโดนใบเหลือง 2 ใบในเวลาแทบไม่ถึง 1 นาที ทำให้ ลิเวอร์พูล เหลือผู้เล่น 9 คนในสนาม ทว่ารูปเกมที่ผู้เล่นเป็นรองนั้น หงส์แดงยังสู้ขาดใจ ทั้งเบคเกอร์ที่เซฟจนถุงมือแทบขาด และผู้เล่นที่เหลือที่พยายามสกัดบอลให้ห่างประตูมากที่สุด 

และแล้วความผิดพลาดก็เกิดขึ้นเมื่อ โจเอล มาติป (Joel Matip) สกัดบอลผิดเหลี่ยม ทำเข้าประตูตัวเองในนาทีที่ 90 + 6 จนกลายเป็น 3 แต้มอันล้ำค่าของ สเปอร์ส แต่เกมนี้เพื่อนๆ ต่างเข้าไปกอดปลอบมาติป พร้อมกับแฟนหงส์แดงที่เข้าไปให้กำลังใจอย่างล้นหลาม 

 

ขณะเดียวกัน แกรี เนวิลล์ ตำนานของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชี้ว่าเกมคู่ สเปอร์-ลิเวอร์พูล หมดความสนุกตั้งแต่ เคอร์ติส โจนส์ โดนใบแดงไล่ออกจากสนาม อีกทั้ง เนวิลล์ ยังบอกว่าเขาไม่เห็น VAR ตีเส้นจังหวะเช็คล้ำหน้าของ หลุยส์ ดิอาซ ที่ทำให้ ลิเวอร์พูล พลาดประตูขึ้นนำช่วงท้ายครึ่งแรก อีกทั้งยังมองว่า ใบแดงที่ 2 ของลิเวอร์พูลไม่น่าเป็นใบแดง เพราะจังหวะไม่ได้ร้ายแรงจนต้องเดินดุ่มๆ มาให้เหลืองแดงในทันที

 

เกมนี้ดังถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก กระทั่งจบเกมไม่นาน องค์กรผู้ตัดสินฟุตบอลอาชีพของอังกฤษ (PGMOL) ออกมายอมรับแล้วว่า ทีมงานผู้ตัดสินก่อความผิดพลาดในเกมสเปอร์สเปิดบ้านเอาชนะ ลิเวอร์พูล 2-1 ซึ่งพวกเขายืนยันว่าประตูของ หลุยส์ ดิอาซ ไม่ล้ำหน้า แต่นั่นก็แก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว เพราะเกมนี้ ลิเวอร์พูลเสียหาย ส่วนกรรมการที่ตัดสินผิดพลาดก็อาจจะไม่โดนลงโทษอะไร นอกจากถูกบังคับให้ออกมาขอโทษสโมสร 

อย่างไรก็ตามจากผลบอลดังกล่าวทำให้ ลิเวอร์พูล หยุดสถิติยังไม่แพ้ใครไว้เพียงเท่านี้และเหลือเพียง 2 ทีมอย่าง อาร์เซนอลและสเปอร์สเท่านั้นที่ยังไม่ปราชัย ซึ่งนัดต่อไป ลิเวอร์พูล จะออกไปเยือน ไบร์ทตัน ในวันที่ 8 ตุลาคม ส่วน สเปร์ส จะออกไปเยือน ลูตัน ทาวน์ ในวันที่ 7 ตุลาคม