ชันสูตร น้องดอมหมูป่า เรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่รู้สาเหตุการเสียชีวิต

   เจ้าหน้าที่ประเทศอังกฤษ ชันสูตร น้องดอมหมูป่า เรียบร้อยแล้ว   จากกรณีข่าวสุดช็อกในวงการกีฬา เมื่อมีรายงานว่า น้องดอม กัปตันทีม 13 หมูป่าเสียชีวิต โดย น้องดอมเป็นนักฟุตบอลที่มีฝีเท้าดี ได้รับทุนจากซิโก้ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง อดีตหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย และยังได้ไปเรียนฝึกฝนทางด้านฟุตบอลต่อที่ประเทศอังกฤษ

 

ก่อนหน้านี้  ซิโก้ ได้ไลฟ์ผ่านเพจ มูลนิธิซิโก้ (Zico Foundation) เปิดสาเหตุน้องดอมเสียชีวิต หลังได้รับทุนจาก Sport Education และ มูลนิธิซิโก้ ไปเรียนฝึกฝนทักษะเกี่ยวกับฟุตบอลที่ประเทศอังกฤษ เมื่อกลางปี65 ที่ผ่านมา ว่า ครูแจ้งพบน้องดอมหมดสติอยู่ในห้องพักคนเดียว แล้วส่งรักษาที่โรงพยาบาล ชีพจรน้องดอมเต้นอ่อนลงและไม่ตอบสนองต่อการรักษา โดยในช่วงเกิดเหตุเป็นวันหยุดไม่มีคนเห็นเหตุการณ์ ต้องรอผลชันสูตรยืนยันอีกครั้ง

ด้าน "Brooke House College และ Brooke House College Football Academy โรงเรียนมัธยมฟุตบอลที่น้องดอมเรียนอยู่ ได้ออกหนังสือแจ้งผู้ปกครองของนักเรียนในโรงเรียน เนื่องจากเหตุการณ์จากไปของน้องดอมครับ" ซึ่งข้อมูลเบื้องต้นทางโรงเรียนพบน้องดอม ในสภาพวิกฤต ก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อรักษาฉุกเฉิน ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตขอเวลาในการตรวจสอบ

(อ่านข่าว - โรงเรียนมัธยมฟุตบอลอังกฤษ ออกหนังสือชี้แจง หลัง ดอมหมูป่า เสียชีวิต)

เกี่ยวกับเรื่องนี้ ล่าสุดมีรายงานจาก บีบีซี สื่ออังกฤษว่า ได้มีการ ชันสูตรน้องดอม และทราบสาเหตุของการเสียชีวิตขอ น้องดอมหมูป่า แล้ว

 

  ซึ่ง แคทเธอรีน เมสัน เจ้าหน้าที่ชันสูตรศพอาวุโสของเซาธ์ เลสเตอร์เชียร์ เป็นผู้ให้ข้อมูลเบื้องต้นว่า การชันสูตรเสร็จเรียบร้อยและทราบถึงสาเหตุการเสียชีวิตแล้ว แต่ยังต้องรอกระบวนการสอบสวนให้เสร็จเรียบร้อย คาดว่าจะเสร็จสิ้นในเดือนกรกฎาคม

   ทั้งนี้ตามรายงานระบุว่า แม้จะทราบสาเหตุที่น้องดอมหมูป่าเสียชีวิต แต่ก็ยังไม่สามารถเปิดเผยในส่วนของรายละเอียดได้ เนื่องจากต้องมีการพิจารณาคดี ซึ่งจะลากยาวไปถึง 6 กรกฎาคม 2566 แต่สามารถให้สาเหตุคร่าวๆ ได้ว่า น้องดอมเสียชีวิตเฉพาะการณ์ หรือ เสียชีวิตกะทันหัน และมีข้อมูลอีกว่าไม่ได้เกี่ยวกับการฆาตกรรม หรือ อาชญากรรม แต่อย่างใด 

 อย่างไรก็ตาม ทางอังกฤษพร้อมที่จะแถลงข้อมูลเกี่ยวกับการเสียชีวิตของน้องดอมอย่างแน่นอน คาดว่าต้องรอถึงในช่วงวันที่ 6 กรกฎาคม 2566 นี้

ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ Thainewsonline