มาดามอ้อ ขอปกป้องศักดิ์ศรี ฟ้องสื่อดิสเครดิต งานนี้ไม่รับกระเช้า - คำขอโทษ

"มาดามอ้อ" ไม่ทนแล้ว ลุยฟ้องสื่อดังทำเสื่อมเสีย ดิสเครดิต ให้สัมภาษณ์พิเศษกับ "ไทยนิวส์" ถึงคำพูดที่ยากเกินจะรับได้

อย่างที่หลายคนติดตามข่าวมาอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับปัญหาภายในสโมสร โปลิศ เทโร เอฟซี ซึ่งก่อนหน้านี้ "มาดามอ้อ" นฬาพร ไชยนิน รองประธานสโมสรฝ่ายหารายได้และสิทธิประโยชน์สโมสรโปลิศ เทโร เอฟซี ได้ให้สัมภาษณ์พิเศษกับ ทีมข่าวไทยนิวส์ถึงเรื่องราวดังกล่าวไปแล้วก่อนหน้านี้ ซึ่งยืนยันว่าต้องรอเจรจากับทางกลุ่มทุนเจ้าชายกัมพูชาก่อน แต่ยืนยันว่าน้องๆ ทุกคนจะได้รับเงินเดือนแน่นอน 

 

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง 
- เปิดใจหญิงแกร่ง "มาดามอ้อ" ฟันเฟืองสุดสำคัญ ไม่โต้ตอบแม้โดนโจมตีสารพัด
- เบื้องหลังหลายคนไม่รู้ "มาดามอ้อ" เผยคำพูดเจ้าชายกัมพูชาวันอดีตโค้ชลาออก

 

มาดามอ้อ ขอปกป้องศักดิ์ศรี ฟ้องสื่อดิสเครดิต งานนี้ไม่รับกระเช้า - คำขอโทษ

 

แต่ล่าสุดมีเหตุให้ "มาดามอ้อ นฬาพร" ต้องทนไม่ไหวและขอลุกขึ้นมาปกป้องศักดิ์ศรีตนเอง หลังจากที่มีเพจสื่อบางเพจได้ติดต่อไปยังนักเตะของสโมสร ก่อนจะเล่นข่าวที่ไม่เหมาะสม ซึ่งเรื่องนี้ "มาดามอ้อ" มองว่ามันเป็นการไม่ให้เกียรติเธอ อีกทั้งชาวเน็ตที่มาคอมเมนต์ก็เข้ามาโจมตีในด้านลบและบางถ้อยคำรุนแรงเกินไป 

 


โดย "มาดามอ้อ" ได้ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับทีมข่าวไทยนิวส์ ว่า "วันนี้ (22 ธ.ค.66) ไปแจ้งความเป็นครั้งแรก ซึ่งเราก็เงียบๆ มาตลอดพออันนี้มันชัดเจนเกินไปว่า ตั้งใจทำให้เรา ดิสเครดิตเราเสียชื่อเสียง แล้วก็โจมตี คือมันทำลายล้างเกินไป เราไม่พูดไม่เคยโต้ตอบ ก็ยิ่งเงียบยิ่งถาโถม ยิ่งเงียบยิ่งประโคม ยิ่งเงียบยิ่งแบบเห้ยอันนี้มันชัดเจนว่ามีเอ่ยชื่อ 

มาดามอ้อ ขอปกป้องศักดิ์ศรี ฟ้องสื่อดิสเครดิต งานนี้ไม่รับกระเช้า - คำขอโทษ


แล้วก็เพจนี้เราก็ไม่เคยรู้จักกัน ก็มีคำพูดคำสัมภาษณ์จากน้องในทีมด้วย ซึ่งเราก็งงมาก กับทางในทีมเขาก็พูดกับ โค้ชโย่ง (วรวุธ ศรีมะฆะ) ตลอด ถ้าจะว่าอ้อไม่ได้เข้าไปก็คงไม่ใช่ อ้อได้เข้าไปหาน้องๆ และเรามีประชุมกับทีมบอร์ดบริหาร วันที่ 15 ธ.ค. 66 ที่ผ่านมา เวลา 10โมง กับบอร์ดบริหาร แล้วตอน 5 โมงเย็น อ้อก็ได้เข้าไปที่สนามบุณยะจินดา 

 

 

เราซ้อมที่สนามบุณยะจินดา ก็ได้เข้าไปแจ้งว่าวันที่ 16 ทางผู้บริหารจะจ่ายเงินที่ค้างจ่ายของเดือนพฤศจิกามาอีก 70% แล้วก็วันที่ 23 ก็จะจ่ายของเดือนธันวาอีก 100% ก่อนวันแข่ง 1 วัน วันที่ 24 ซึ่งอันนี้อ้อก็เข้าไปแจ้งกับทางพี่ตึ่ง ก็ได้รับมอบหมายจากพี่บุ๊ง แล้วก็น้องแทน แล้วก็ทีมบอร์ดบริหารที่ประชุมท่านไม่สะดวกที่จะเข้ามา ไปแจ้งกับทางโค้ชและพี่บุ๊งก็ได้โทรหานักเตะบางคนแล้ว คืออันนี้ที่อ้อเข้าไป 
 

มาดามอ้อ ขอปกป้องศักดิ์ศรี ฟ้องสื่อดิสเครดิต งานนี้ไม่รับกระเช้า - คำขอโทษ

แล้วก็วันที่ 17 เราก็มีการแข่งอีกในบ้าน ก็เวลาตอนแข่งเสร็จหรือซ้อมเสร็จ เราก็จะมีการยืนประชุมกันอยู่แล้ว ซึ่งโค้ชก็ถามเราก็แจ้ง โค้ชก็ถามอยู่แล้วว่าใครมีอะไรจะพูด ใครมีอะไรก็ให้เคลียร์กันในวง ซึ่ง อ้อว่าจริงๆ นักเตะส่วนมากถ้าต่างชาติไม่ค่อยมีปัญหา นักเตะในไทยก็ไม่ค่อยมีปัญหา อาจจะมีเกเรแค่คนสองคน แต่ก็ควรจะคุยกันข้างในมากกว่า 

 

 

 

แต่อันนี้ถ้าในเนื้อความที่เขาโจมตีมามันรุนแรงมาก มันไม่น่าจะปล่อยผ่านได้ อ้อก็ต้องขอปกป้องศักดิ์ศรีตัวเอง ในการที่แจ้งความครั้งนี้ก็จะฝากไว้เป็นบทเรียนว่า คุณอย่าใช้เกรียนคีย์บอร์ดมาทำร้ายผู้อื่น เพราะว่าถ้าเกิดเหตุการณ์พวกนี้เกิดกับครอบครัวคุณ คุณมีลูกสาวหรือว่าเกิดเหตุการณ์กับคุณมีแฟน มีครอบครัว มีพี่สาว มีญาติ มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดกับครอบครัวของคุณ คุณก็คงจะต้องออกมาปกป้องศักดิ์ศรีตัวเองเหมือนสิ่งที่อ้อทำ 

 

 

คืออ้อไม่โต้ตอบไม่ใช่ว่าอ้อไม่รู้สึก อ้อรู้หมดแหละว่าเพจไหนทำอะไร คนคอมเมนต์ใครเป็นใคร อ้อเก็บข้อมูลอย่างเดียวนะคะ อ้อก็อย่างที่บอกว่ายังไม่อยากไปโฟกัสเรื่องพวกนี้ ก็ปล่อยผ่านมาตลอด แต่อันนี้มันปล่อยผ่านไม่ได้จริงๆ อ้อไม่ได้ทำงานแค่ตรงนี้ตรงเดียว อ้อก็เป็นที่ปรึกษาการตลาดทั้งภาครัฐและเอกชน แล้วอ้อก็ยังดำรงตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาประธานกรรมาธิการตำรวจอีก แล้วก็เป็นคนมีชื่อเสียงคนหนึ่ง 

มาดามอ้อ ขอปกป้องศักดิ์ศรี ฟ้องสื่อดิสเครดิต งานนี้ไม่รับกระเช้า - คำขอโทษ


ทั้งนี้เราไม่อยากจะให้ใครมาทำร้ายใครด้วยใช้สื่ออยู่ด้านเดียว ซึ่งอ้อก็ขออนุญาตใช้พื้นที่ตรงนี้ปกป้องศักดิ์ศรีตัวเอง แล้วก็ชี้แจงให้ทุกคนได้ทราบ ส่วนสื่อติดต่อน้องๆ ได้ยังไงนั้น อันนี้ไม่ทราบจริงๆ เลย พอเกิดเรื่องอ้อก็ย้อนไปถามที่โค้ช โค้ชเขาก็เช็กดูอยู่ว่าเป็นใคร แต่ก็ถ้ารู้ว่าเป็นใครอ้อก็จะดำเนินคดีกับเพจที่ฟ้องด้วย แล้วก็ถ้ารู้ว่าเป็นใคร มันไม่ได้อยู่แล้วในเรื่องถ้อยคำที่เสียหาย แล้วก็ไม่คุยกัน 

 

 

คือต่อหน้าไม่คุยแล้วไปทำแบบนี้อ้อรู้สึกว่า ไม่มีความเป็นลูกผู้ชาย เป็นการด่ากันลับหลังแล้วก็เป็นคนในสโมสร ซึ่งอ้อมองว่าสโมสรเราถูกโจมตีทุกวัน และมีข่าวลบทุกวัน ถ้าคุณเป็นคนรักสโมสรและอยากปกป้องสโมสร มันจะต้องไม่มีเรื่องพวกนี้ มีความเป็นมืออาชีพ มีวุฒิภาวะ มันจะต้องไม่มีเรื่องพวกนี้เกิดขึ้น หรือไปถึงการร่วมมือกับเพจ 

 


ซึ่งบางเพจเขาก็เข้าใจ ช่วยเหลือ สื่อต่างๆ ที่มีจรรยาบรรณเขาก็ลงข่าวเป็นกลางและช่วยเหลือ เข้าในใจบริบทการทำงานว่าต่างคนต่างแยกย้ายกันไปทำงาน ก็เป็นนักเตะก็ทำหน้าที่ของคุณไป เราเป็นผู้บริหารเราก็ทำหน้าที่ของตัวเองไป อ้อก็มีสิทธิ์ที่จะพูดเพราะตอนนี้อ้อคุยกับสปอนเซอร์ 3 - 4 ราย แล้วถ้ามีข่าวอย่างนี้ 

มาดามอ้อ ขอปกป้องศักดิ์ศรี ฟ้องสื่อดิสเครดิต งานนี้ไม่รับกระเช้า - คำขอโทษ


ในฐานะที่อ้อยังหาสปอนเซอร์ให้พวกคุณอยู่และมีข่าวแย่ๆ แบบนี้ สปอนเซอร์เขาอาจจะตัดสินใจสนับสนุนหรือไม่สนับสนุนเราก็ได้ เพราะมันมีข่าวไม่ดี มันเป็นการดิสเครดิต มันเป็นการทำลายล้างมากกว่าการที่จะทำแค่โพสต์ด่ากัน อ้อก็ถือว่าอ้อนิ่งเงียบมาเกือบ 2 เดือนละ แต่อ้อก็ไม่ได้พูดอะไร แต่ส่วนมากนักเตะต่างชาติ น้องๆ ประมาณ 70-80% เขาก็เข้าใจแล้วก็มีการพูดคุยกันตลอด"

 

 


เมื่อถามว่า จะมีมาตรการอะไรไหมในการสื่อจะติดต่อหานักเตะ? มาดามอ้อ ระบุว่า "อ้อว่าโค้ชโย่งก็ได้พูดกับน้องๆ ไปเมื่อวาน (21 ธ.ค.66) ซึ่งก่อนซ้อม แจ้งไปแล้วว่าเรื่องการให้ข่าว เรื่องโซเชียลมีเดีย ต้องมีสติ ต้องใช้วิจารณญาณ ในการที่จะสื่อออกไปข้างนอก เพราะว่าต่างคนต่างแยกย้ายกันทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดดีกว่า 

 


แล้วก็อย่างที่บอกว่าอ้อก็เป็นคนที่มีชื่อเสียง มีองค์ความรู้ แล้วก็ทำงานด้านอื่นด้วย ซึ่งอันนี้มันทำให้อ้อเสียชื่อเสียง ดิสเครดิต แล้วก็มันทำให้เราถูกใส่ร้าย มันไม่ใช่ถูกใส่ร้ายหรอก พูดในสิ่งที่อ้อคิดว่าถ้าเขาเป็นลูกผู้ชาย เรามานั่งคุยกัน อย่าว่ากันลับหลังดีกว่า ซึ่งเรื่องนี้อ้อก็ฝากไปถึงเพจต่างๆ ที่เขายังโจมตีอยู่ เราปล่อยให้เป็นหน้าที่ของสโมสร ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผู้บริหาร แล้วก็นักเตะ ซึ่งตอนนี้อ้อว่ามันก็แทบจะไม่มีปัญหาอะไรแล้ว ก็รอแค่ดีลเรื่องฝั่งลงทุนใหม่มาแค่นั้นเอง

มาดามอ้อ ขอปกป้องศักดิ์ศรี ฟ้องสื่อดิสเครดิต งานนี้ไม่รับกระเช้า - คำขอโทษ


อย่างไรก็ตาม "มาดามอ้อ" ยังได้ทิ้งท้ายอีกว่า ในส่วนของเพจ อันนี้เธอไม่รับคำขอโทษเป็นดอกไม้หรือกระเช้าอะไรแน่นอน และเธอบอกให้เขาเตรียมเงินไว้แล้วกัน เพราะเธอว่ามันจะต้องเป็นบทเรียนสำคัญ เขาจะต้องใช้บทเรียนครั้งนี้ ก่อนที่จะทำอะไรคนเราควรมีจรรยาบรรณ สมัยนี้มันไม่ใช่ยุคที่มานั่งโจมตีกัน เป็นยุคที่คุยกันแล้วก็วิเคราะห์ 

 


"อ้อว่ามันไม่ใช่สมัยมานั่งโจมตีข่าวกัน มันน่าจะหมดยุคไปแล้ว อันนี้ก็ฝากถึงเพจบางเพจที่ยังไม่หยุด อันนี้แค่เริ่มต้น ก็ฝากด้วยละกัน คนเรามีศักดิ์ศรีมีคุณค่า แล้วก็เรารู้ว่าเราทำเพื่อใคร ทำอะไร อยู่ที่ไหน เราก็ยังไม่เคยโจมตีใคร ก็ขอความเป็นธรรมและความยุติธรรมกับอ้อในครั้งนี้ด้วยละกัน"

 

มาดามอ้อ ขอปกป้องศักดิ์ศรี ฟ้องสื่อดิสเครดิต งานนี้ไม่รับกระเช้า - คำขอโทษ