เอาแล้ว ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน พูดตรงๆ ตัดเกรดแข้งทีมชาติไทย หลังพลาดแชมป์อาเซียน

"บอลไทยวันนี้" เชื่อว่าแฟนบอลไทยหลายคนอาจจะเสียดาย แต่ก็ไม่เคยเสียใจกับการที่ได้เชียร์ทีมชาติไทย แม้ว่าจะเพิ่งชวดแชมป์อาเซียน 2024 ในฟุตบอล Asean Mitsubishi Electric Cup 2024 ที่ไปเสียท่าให้กับเวียดนามทั้ง 2 เกมสกอร์รวม 2 นัด 3 - 5 ส่งผลทำให้เวียดนามกลายเป็นแชมป์อาเซียนในปีนี้ไปแทน 

 

ล่าสุด ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน โฆษกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้พูดถึงผลงานของทีมชาติไทย ในฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน 2024 ที่เพิ่งจบไปเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา หลังแพ้เวียดนามในรายการแตงโมลง ปิยะพงษ์ยิง ทางช่องยูทูบว่า ตอนนี้ชิงแชมป์อาเซียนเป็นอะไรที่ยากขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก และจะยิ่งยากขึ้นไปอีกในอนาคต 

โดย เดอะตุ๊ก ให้เหตุผลว่า เพราะหลายทีมมีการเตรียมตัวที่ดี แม้ว่าหลายทีมจะส่งนักเตะชุด 2 หรือชุด 3 มาแข่งก็ตาม ครั้งนี้เวียดนามถือว่าเป็นทีมชุดใหญ่ที่สุด มีการหยุดฟุตบอลลีกอาชีพ การเก็บตัวที่เกาหลีใต้เป็นเดือน ถือเป็นทีมที่มีการเตรียมพร้อมดีที่สุด นอกจากนี้การจัดผู้ตัดสินมีผลพอสมควร เรื่องนี้เอเอฟเอฟ (สหพันธ์ฟุตบอลอาเซียน) ควรจะดูนิดหนึ่ง ไม่ใช่ใช้ผู้ตัดสินในสนามที่เป็นชาติเดียวกับโค้ช

"ส่วนผลงานของทีมชาติไทยขึ้นอยู่กับแล้วแต่มุมมองของแต่ละคน แน่นอนว่าการเล่นฟุตบอลอาเซียนแฟนฟุตบอลไทยทุกคนต้องการให้ทีมเราเป็นแชมป์ซึ่งไม่ใช่เรื่องผิดและคงคิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้ ซึ่งผลที่ออกมาเหมือนเหรียญสองด้าน แฟนบางกลุ่มอาจจะไม่พอใจที่ได้แค่รองแชมป์ บางกลุ่มอาจจะคิดว่าถึงไม่ได้แชมป์แต่ได้เห็นอะไรใหม่ๆ ได้เห็นศักภาพผู้เล่นหน้าใหม่ 

หรือบางกลุ่มอาจจะไม่พอใจเลยเราไม่สามารถพูดให้ทุกคนพอใจในสิ่งเดียวกันได้หมดขณะที่บทสรุปของทีมชาติไทย เริ่มจากตัวโค้ชมาซาทาดะ อิชิอิ ต้องบอกว่าน่าพอใจ เพราะการรวมตัวผู้เล่นมีขีดจำกัด การเรียกตัวผู้เล่นมีขีดจำกัด การซ้อมมีขีดจำกัด 2 วันเดินทาง 3 วันเดินทาง การหมุนเวียนผู้เล่น ภาพรวมในฐานะที่ผมเป็นตัวแทนฝ่ายเทคนิคผมว่าผมพอใจกับการทำงานของอิชิอิ จากนี้ตัวชี้วัดผลงานที่แท้จริงคือการเล่นในระดับทัวร์นาเมนต์ใหญ่"
 

ทั้งนี้ ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน ยังบอกอีกว่า ด้านตัวผู้เล่น เริ่มตั้งแต่ผู้รักษาประตูต้องรับว่าต้องปรับปรุงกันทุกคน ขณะที่กองหลังทางฝั่งซ้ายทุกคนมีปัญหาที่ต้องแก้ของแต่ละคนแตกต่างกันไป ส่วนแบ๊กขวา ศุภนันท์ บุรีรัตน์ ถือว่าสอบผ่านสามารถอยู่กับทีมในเอเชียน คัพ รอบคัดเลือกได้ ด้านกองหลังตัวกลางต้องขอบคุณพรรษา เหมวิบูลย์ ที่มาช่วยเป็นพี่ใหญ่ให้น้องๆ หลังจากจบเอเอฟเอฟจะเป็นจ็อบสุดท้ายของพรรษาในทีมชาติไทยแล้ว 

"คนอื่นๆ มีเรื่องต้องปรับปรุงเหมือนกัน แผงมิดฟิลด์ต้องปรับในเรื่องของเกมรับเพื่อให้กองหลังเล่นง่ายทุกคนต้องแก้ไขทั้งหมด สุภโชค มีปัญหา ด้านร่างกายที่ไม่เต็มร้อย เช่นเดียวกับ เอกนิษฐ์ ปัญญา ที่วิเคราะห์ไม่ได้เลยเนื่องจากเจ็บมาตลอด แต่ที่โดดเด่นคือ เบนจามิน เดวิส ด้วยสไตล์การเล่นวิธีคิด ดังนั้นในเอเชียน คัพ ครั้งนี้เดวิสามารถติดทีมได้เลย

ในแนวกองหน้า พาตริก กุสตาฟส์สัน ถือว่ายกระดับขึ้นอีกนิดหน่อย แม้ว่าจะยังฝากผีฝากไข้ไม่ได้ ยังต้องแก้ไขอีกเยอะพอสมควร เช่นเดียวกับ ธีรศักดิ์ เผยพิมาย ที่มีจุดเด่นในการวิ่งแนวลึก แต่ต้องปรับปรุงการหาพื้นที่ว่าง ส่วนที่โดดเด่นที่สุดในแดนหน้าคือศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ที่ทำได้ดีในทุกมิติ ขึ้นอยู่กับโค้ชว่าจะต้องการอะไรจากเขามากกว่า"