เปิดประวัติ "เพียว อัจฉราพร" ฉายาตบสนั่นลั่นทุ่ง รับใช้ทีมชาติมาเกินทศวรรษ

พาไปรู้จักเธอคนนี้ "เพียว อัจฉราพร คงยศ" นักวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย ฉายา "ตบสนั่นลั่นทุ่ง" สร้างชื่อเสียงเพื่อประเทศมานานกว่า 11 ปีแล้ว

นาทีนี้คงไม่มีใครไม่รู้จักเธอคนนี้ "เพียว อัจฉราพร คงยศ" เจ้าของฉายา ตบสนั่นลั่นทุ่ง เจ้าของสถิติตบหนักที่สุด 95 km/h โชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมมานักต่อนัก เป็นหนึ่งใน 7 เซียนยุคใหม่ ของทีมวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย 

โดยประวัติ เพียว อัจฉราพร ชื่อจริงว่า อัจฉราพร คงยศ เกิดวันที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2538 ปัจจุบันอายุ 28 ปี น้ำหนัก 66 กิโลกรัม ส่วนสูง 178 เซนติเมตร  ระยะกระโดดตบ : 310 ซม. ระยะบล็อค : 302 ซม.

เกิดที่ จังหวัดนครศรีธรรมราช สำเร็จการศึกษาระดับประถมศึกษาจากโรงเรียนชุมชนวัดวัดปัณณาราม ศึกษาในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายที่ โรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) และจบการศึกษาระดับปริญญาตรีที่ มหาวิทยาลัยรัตนบัณฑิต หรือ RBAC 

 

เปิดประวัติ เพียว อัจฉราพร ฉายาตบสนั่นลั่นทุ่ง รับใช้ทีมชาติมาเกินทศวรรษ

 

เพียวเริ่มเล่นวอลเลย์บอลตอนอยู่ชั้นประถม เริ่มหัดเล่นวอลเลย์บอล ที่ "โรงเรียนบ้านขอนหาด" จังหวัดนครศรีธรรมราชก่อนที่จะฉายแววเข้าตาคุณครู จึงเรียกให้เธอมาฝึกวอลเลย์บอลอย่างจริงจัง และได้รับโอกาสให้เข้าเรียนที่ โรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) ซึ่งโด่งดังทางด้านวอลเลย์บอล

 

เปิดประวัติ เพียว อัจฉราพร ฉายาตบสนั่นลั่นทุ่ง รับใช้ทีมชาติมาเกินทศวรรษ


ต่อมา เพียว ได้ลงแข่งวอลเลย์บอลในฐานะนักกีฬาวอลเลย์บอลของโรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) และนักกีฬาวอลเลย์บอลของสุพรีม-นครศรี และได้เริ่มโด่งดังเป็นที่รู้จักจากการแข่งขันดังกล่าวด้วยผลงานขึ้นตบได้สูงถึง 308 ซม. บล็อคได้สูงถึง 295 ซม. และได้รับรางวัลในการแข่งขันพีอีเอ จูเนียร์แชมป์เปียนชิพ 2010-2012 ทั้ง "ผู้เล่นทรงคุณค่า" "ตัวตบยอดเยี่ยม" และ "ผู้เล่นทรงคุณค่า" และติดทีมชาติตอนอายุ 17 ปี นับจนถึงปัจจุบันปี 2566 เพียว อัจฉราพร อยู่ในทีมชาติแข่งขันในนามตัวแทนประเทศไทยสร้างผลงานรับใช้ชาติมานานกว่า 11 ปี เกินทศวรรษแล้ว

เปิดประวัติ เพียว อัจฉราพร ฉายาตบสนั่นลั่นทุ่ง รับใช้ทีมชาติมาเกินทศวรรษ

 

ประสบการณ์การเล่นในระดับอาชีพ เริ่มต้นจากสโมสร สุพรีม-นครศรี ในช่วงปี 2009 (ภายหลังสโมสรเปลี่ยนชื่อเป็น สุพรีม ชลบุรี-อี.เทค) , ในปี 2013 เธอเคยไปเล่นให้ลีก อินโดนีเซีย สโมสร แบงค์ดีเคไอ  Bank DKI ด้วยสัญญายืมตัว  , และ ในปี 2018-19 กลับมาเล่นในลีก อินโดนีเซีย อีกครั้ง กับสโมสร จาร์กาตา บีเอ็นไอ 46 หรือ  Jakarta BNI 46 

 

เปิดประวัติ เพียว อัจฉราพร ฉายาตบสนั่นลั่นทุ่ง รับใช้ทีมชาติมาเกินทศวรรษ
 

ก่อนที่ ฤดูกาล 2021-22 "เพียว" อัจฉราพร คงยศ  ได้ย้ายไปเล่นในลีกยุโรปเป็นครั้งแรกใน กับสโมสร ซาริเยร์ เบเลดิเยสปอร์ ในลีกตุรกี  และกลายเป็นตัวหลักของทีม  โดยมีรายงานว่า ซาริเยร์ เบเลดิเยสปอร์ ทีมวอลเลย์บอลในลีกตุรกี ได้ทำการต่อสัญญากับ อัจฉราพร คงยศ ตัวตบหัวเสาทรงพลังทีมชาติไทย ออกไปอีก 1 ฤดูกาล 

 

เปิดประวัติ เพียว อัจฉราพร ฉายาตบสนั่นลั่นทุ่ง รับใช้ทีมชาติมาเกินทศวรรษ
 

ผลงาน ของ "เพียว" อัจฉราพร คงยศ  มีดังนี้ 

ปี 2010 รายการ พีอีเอ จูเนียร์แชมป์เปียนชิพ  "ผู้เล่นทรงคุณค่า” และ "ตัวตบยอดเยี่ยม"
ปี 2012 รายการ พีอีเอ จูเนียร์แชมป์เปียนชิพ  "ผู้เล่นทรงคุณค่า"
ปี 2013 รายการ กีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 29  "ผู้เล่นทรงคุณค่า”
ปี 2013 รายการ พีอีเอ จูเนียร์แชมป์เปียนชิพ  "ผู้ทำคะแนนสูงสุด" และ "เสิร์ฟยอดเยี่ยม"
2013-14 รายการ ไทยแลนด์ลีก  "ตัวตบหัวเสายอดเยี่ยม"
ปี 2014  รายการ วีทีวีอินเตอร์เนชันแนลคัพ  "ตัวตบหัวเสายอดเยี่ยม"
ปี 2014-15 รายการ ไทยแลนด์ลีก  "ตัวตบหัวเสายอดเยี่ยม"
ปี 2015 รายการ วีทีวีอินเตอร์เนชันแนลคัพ  "ตัวตบหัวเสายอดเยี่ยม"
ปี 2016 รายการ มงเทรอวอลลีย์แมสเตอส์ "ตัวตบหัวเสายอดเยี่ยม"
ปี 2016 รายการ เอวีซีคัพ  "ตัวตบหัวเสายอดเยี่ยม"
ปี 2016-17 รายการ ไทยแลนด์ลีก "ตัวตบหัวเสายอดเยี่ยม" และ "ผู้เล่นทรงคุณค่า"
ปี 2018 รายการ ไทยเดนมาร์คซูเปอร์ลีก  "ผู้เล่นทรงคุณค่า"
ปี 2018 รายการ เอวีซีคัพ  "ตัวตบหัวเสายอดเยี่ยม"
ปี 2018 รายการ สโมสรหญิงชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย  "ตัวตบหัวเสายอดเยี่ยม" และ "ผู้เล่นทรงคุณค่า"
ปี 2019 รายการ สโมสรหญิงชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย  "ตัวตบหัวเสายอดเยี่ยม"

 

เปิดประวัติ เพียว อัจฉราพร ฉายาตบสนั่นลั่นทุ่ง รับใช้ทีมชาติมาเกินทศวรรษ

 

ผลงานกับ ทีมชาติไทย ชุดใหญ่  คือ เอวีซีคัพ เหรียญทอง ปี 2012 , เหรียญทอง ชิงแชมป์เอเชีย ปี 2013 , อันดับ 17 ชิงแชมป์โลก 2014 , เหรียญทองแดง ชิงแชมป์เอเชีย ปี 2015 , คว้าอันดับ 13 วอลเลย์บอลชิงแชมป์โลก 2018 , เหรียญทอง อาเซียนกรังด์ปรีซ์ 2019 , วอลเลย์บอลหญิงในโอลิมปิกฤดูร้อน 2020 และ เหรียญทอง ซีเกมส์ ปี 2021 , รอบ 8 ทีมสุดท้ายวอลเลย์บอลหญิงเนชั่นส์ลีก 2022