- 28 ส.ค. 2559
ติดตามเรื่องราวดีๆ อีกมากมายได้ที่ http://panyayan.tnews.co.th
“หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ” นับเป็นพระโพธิสัตว์เจ้าที่มีบารมีเต็มอีกพระองค์หนึ่ง ท่านได้รับการยืนยันจากนักปฏิบัติหลายท่านว่า “เป็นหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืดกลับชาติมาเกิด” หรือ จะกล่าวว่าท่านเป็นภาคหนึ่งขององค์หลวงปู่ทวดก็ได้
หลวงปู่ดู่ท่านมีเมตตาจิตต่อทุกๆ คนที่ไปหาท่าน ตั้งแต่เช้าท่านจะคอยนั่งรับแขกคนโน้นคนนี้ อย่างไม่เห็นแก่ความเหน็ดเหนื่อยหรือความลำบากของสังขารแต่อย่างใด ท่านให้ความเมตตาต่อทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน ท่านไม่เคยรังเกียจว่าคนโน้นคนจนหรือยกย่องว่าคนนี้มีเงินท่านไม่มีการแบ่งชั้นวรรณะใดๆ ทั้งสิ้น
ว่ากันว่าเมตตาอันไม่มีประมาณของหลวงปู่ดู่นั้น แม้ลูกศิษย์ของท่านจะตกระกำลำบากพลาดพลั้งไปในนรกก็ดี ท่านก็จะยังคงมีเมตตาตามไปสงเคราะห์อยู่เสมอ นอกจากนี้ สมัยที่หลวงปู่ยังดำรงสังขาร ก็ยังเคยพาไปไหว้พระอรยะในแดนต่างๆ ด้วย ดังเช่นเรื่องที่ “คุณอุ๋ย” ศิษย์ใกล้ชิดท่านหนึ่งของหลวงปู่ดู่ ได้ถ่ายทอดไว้ดังนี้
สมัยที่หลวงปู่ยังดำรงสังขาร ก็เคยพาไปกราบ “พระอุปคุต” ใต้สะดือทะเล เวลาลงไปจะรู้สึกถึงน้ำหมุนเป็นเกลียวลงไปน่ากลัวมาก แล้วจะเห็นพญานาค เห็นปราสาทของพระอุปคุต ดูแล้วงดงามน่าอัศจรรย์ การนั่งสมาธิแต่ละครั้งที่มีหลวงปู่เป็นองค์นำ จะได้ผลดีเป็นที่ประหลาด
เคยคิดว่าตัวเราเองนั่งนึกนั่งคิดจินตนาการไปเองหรือเปล่าหนอ ก็น่าประหลาดที่วันต่อมา ไปทำบุญที่วัดสะแก ตอนนั้นหลวงปู่ละสังขารไปแล้ว จู่ๆก็เจอผู้ชายคนหนึ่งไม่เคยรู้จักมาก่อน เขาก็บอกกับเพื่อนเขาว่านี่ไงๆ ผู้หญิงคนนี้ไง แล้วก็มองตัวเราใหญ่เลย ก็เลยถามเขากลับไปว่า
“มีอะไรหรือเปล่าคะคุณ”
ผู้ชายท่านนี้ก็บอกว่าผมนั่งสมาธิ ถอดจิตไปวิมานพระ เห็นคุณเดินเข้าออกประจำ ตัวผมเองอยู่แค่บันไดเท่านั้น มันน่าแปลกที่เราเพียงแค่นึกว่าเราคิดไปเองหรือเปล่า พอวันรุ่งขึ้นก็เจอเรื่องเล่าของผู้ชายคนนี้ ที่เราไม่เคยรู้จักเหมือนกับว่าหลวงปู่ท่านจะส่งมายืนยันให้รู้ว่าที่เราทำสมาธิทุกวันนี้ ไม่ได้นั่งจินตนาการไปเอง
วันหนึ่งลองนั่งภาวนาว่า “นะมะพะธะ” ดู รู้สึกว่าจิตตัวเองถอดออกมาอย่างเร็วและแรงจนตกใจ พอตกใจสมาธิก็ถอนกลับมาสู่ร่างเดิม พอรุ่งขึ้นไปกราบหลวงปู่ดู่ท่านก็ทักเอาว่า “พุทธัง ของเราก็ไปได้ทั้งสามโลกนะ” ท่านทักอย่างนี้เลยรีบขอขมาหลวงปู่ และแต่นั้นมาก็ภาวนาเพียง “พุทธัง ธัมมัง สังฆัง สรณังคัจฉามิ” มาโดยตลอด
คุณอุ๋ย เคยผ่านช่วงวิกฤตทางสุขภาพมาถึงสองครั้งและรอดพ้นมาได้ด้วยบารมีของหลวงปู่ดู่ทั้งสองครั้งเช่นกัน ครั้งแรกเป็นเรื่องอุบัติเหตุตอนที่เธอตั้งครรภ์แก่จวนคลอด อุบัติเหตุครั้งนั้นเป็นผลให้ลูกในท้องเสียชีวิต และท้องก็มีสภาพบวมจนน่ากลัว เธอมีอาการปวดท้องเป็นอย่างมาก สามีได้รีบขับรถไปเรียนอาการของเธอให้หลวงปู่ทราบ เมื่อหลวงปู่รับฟังจนเสร็จท่านได้เมตตาทำน้ำมนต์ให้ และกำชับว่าให้รีบขับไปให้ภรรยาดื่มโดยห้ามแวะที่ไหนเป็นอันขาด และเมื่อเธอได้ดื่มน้ำมนต์หลวงปู่ดู่สิ่งที่น่าอัศจรรย์ก็เกิดขึ้นคือ ลูกที่อยู่ในท้องซึ่งไม่ดิ้นมาแล้วเป็นเวลาสองวันกลับมามีชีวิตอีกครั้ง อาการปวดท้องและอาการท้องบวมก็ลดลงจนเป็นปกติ ในที่สุดเธอก็สามารถคลอดลูกน้อยผู้นี้ออกมาได้อย่างปลอดภัยมีสุขภาพแข็งแรงทั้งคุณแม่คุณลูกมาจนทุกวันนี้
อีกครั้งหนึ่งคือเธอตรวจพบเชื้อมะเร็งที่ลำคอ ได้กราบเรียนให้หลวงปู่ทราบ หลวงปู่ท่านก็บอกว่าไม่เป็นอะไรหรอกคนอื่นเขาเป็นมะเร็งที่ท้อง เขาภาวนาพุทธัง ธัมมัง สังฆัง ยังหายได้เลย เมื่อเธอฟังดังนั้นก็ตั้งใจภาวนา คุณอุ๋ยเล่าว่าเมื่อใจปลงตกในสังขารแล้วก็เกิดความสบายใจขึ้น การภาวนาก็เป็นไปได้ด้วยดี แล้วสิ่งมหัศจรรย์ก็เกิดขึ้นคือ เชื้อมะเร็งที่มีอยู่บริเวณลำคอได้หายไปอย่างไม่น่าเชื่อ เป็นการรอดพ้นวิกฤตของสุขภาพของตนเองอีกครั้งหนึ่งด้วยบารมีของหลวงปู่ดู่
ทุกวันนี้ได้ภาวนาพุทธัง สรณัง คัจฉามิ ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ สังฆัง สรณัง คัจฉามิ อยู่เสมอนยึดเป็นคำภาวนามิได้ขาด จิตใจสงบและระลึกถึงหลวงปู่ดู่อยู่เสมอ เชื่อมั่นว่าท่านยังคงคุ้มครองดูแลเรา อยู่ใกล้ๆเราเสมอสมดั่งที่ท่านกล่าวไว้ว่า "แกคิดถึงข้า ข้าก็คิดถึงแก แกไม่คิดถึงข้าข้าก็ยังคิดถึงแก"