- 16 ก.พ. 2560
รู้จริง... รู้แจ้ง... ทุกเรื่องราวพระอริยสงฆ์ http://panyayan.tnews.co.th
“แม้พรหมก็ยังมีสังขาร” คำเทศน์สอนครั้งสุดท้ายของ หลวงปู่บุญฤทธิ์!!!
“ร้านอาหารสวนทิพย์”เป็นชื่อสถานที่ที่เป็นสวนอาหารมีระดับ แต่อีกพื้นที่หนึ่งในบริเวณเดียวกัน กลับเป็นที่ที่ ร่มรื่น สัปปายะ เหมาะแก่การปฏิบัติภาวนายิ่งนัก ด้วยในพื้นที่ส่วนใกล้ๆกันคือที่พำนักของ “หลวงปู่บุญฤทธิ์ ปัณฑิโต” ซึ่งเจ้าของได้ถวายให้เป็นที่พักสงฆ์ของท่านมานานนับ ๑๐ ปีแล้ว
“หลวงปู่บุญฤทธิ์ ปัณฑิโต” ท่านเป็นพระอริยะในสายกรรมฐานของพระอาจารย์มั่น ซึ่งเป็นพระสุปฏิปันโนที่ทันในสมัยพระอาจารย์มั่นและยังไม่มรณภาพ และในวันที่ ๑๘ ก.พ. ที่จะถึงนี้ท่านจะมีอายุครบ ๑๐๓ ปี ด้วยกายสังขารของท่าน แต่ด้วยจิตของท่านนั้นคงมิอาจนับอายุได้ เพราะแม้จะมีอายุถึง๑๐๓ ปี ไม่อาจออกเสียงพูดได้อีกต่อไป และต้องนอนอยู่บนเตียงพยาบาลในห้องปลอดเชื้อเป็นส่วนใหญ่(อันเนื่องมาจากอุบัติเหตุหกล้มเมื่อหลายปีก่อน) แต่ท่านก็ยังนำศิษยานุศิษย์และสาธุชนผู้สนใจในธรรมปฏิบัติภาวนาอยู่ตลอด โดยเฉพาะในวันสุดสัปดาห์ โดยจัดให้มีการปฏิบัตินั้นจะเริ่มตั้งแต่ ๑๑:๓๐ถึง ๑๒:๐๐ น. เป็นเวลาครึ่งชั่วโมง เป็นครึ่งชั่วโมง ที่เราจะได้สงบจิตภาวนา โดยมีกระแสจิตและความเมตตาของหลวงปู่ท่านเป็นสิ่งที่นำทางพวกเราไป อันเป็นสิ่งที่น่าอัศจรรย์!! นั่นคือ การภาวนาในห้วงขณะนั้นมีความสงบ สติตั้งมั่น ราวกับว่าหลวงปู่มาเทศน์สอนเหมือนครั้งที่ท่านมีกำลังวังชาและยังทำเช่นนั้นได้อยู่
นี่กระมัง! ที่อาจเป็น การหยั่งลงในสติ การหยั่งลงในธรรม แบบจิตสู่จิต ที่มีผู้กล่าวถึงไว้ว่าพระอริยเจ้าหลายรูปทำเช่นนั้นได้ หรือแม้เหมือนเมื่อครั้งพุทธกาลที่พระพุทธเจ้าทรงทำให้ผู้คนได้ลิ้มรส ธรรมะ โดยที่ท่านมิได้เอ่ยปากสอนอะไรมากมาย
เนื่องจากหลวงปู่มิอาจเทศน์ได้อีกต่อไป ทางลูกศิษย์จึงได้เปิดเทปบันทึกคำสอนของท่านเมื่อปี 2552 ซึ่งท่านได้สอนภาวนาครั้งสุดท้าย ซึ่งท่านได้พูดเรื่อง “สังขาร” ไว้อย่างน่าสนใจยิ่ง
หลวงปู่บอกว่า ตอนที่พระเทศน์ สอน และนำปฏิบัติภาวนานั้น เทวดา ทั้งหลายก็จะลงมาฟังและร่วมปฏิบัติภาวนาด้วยเช่นกัน เทวดานั้นมี “สังขาร” เช่นเดียวกับ มนุษย์ ทั้ง อสุรกาย สัตว์ ยักษ์ มนุษย์ เทวดา ไปจนถึง พรหม สรรพสิ่งที่เวียนวนอยู่ในวัฏสงสาร ก็ล้วนแต่มี “สังขาร” ทั้งสิ้น
“สังขาร” หรือในอีกแง่หนึ่งก็คือ “การปรุงแต่งของจิต” คำเทศน์ของหลวงปู่ชี้ชัดว่าในสังสารวัฏตั้งแต่ชั้นล่างสุดถึงชั้นบนสุด ทุกระดับชั้น ระดับจิต ก็ล้วนแล้วแต่มีการปรุงแต่งในจิตทั้งสิ้น จะปรุงแต่งแบบหยาบ(เป็นกาย เป็นธาตุขันธ์) หรือปรุงแต่งแบบละเอียด(เป็นอรูป) จะปรุงแต่งไปโดยอกุศล(นรก เดรัจฉาน) หรือ ปรุงแต่งไปโดยกุศล (สวรรค์) ก็ยังเป็นการปรุงแต่ทั้งสิ้น
พูดง่ายคือ “ไม่มีสภาวะจิตใดที่ไม่ปรุงแต่ง เว้นจากจิตแห่งอริยะบุคคล”
หลวงปู่บอกว่า การทำให้เราเท่าทันและพ้นไปจากอำนาจการปรุงแต่งของจิต ตัดวงจรแห่งความทุกข์ และการเกิด แก่ เจ็บ ตาย นั้นมีเพียงการภาวนาเท่านั้น จะเป็น ๑ ชม. จะได้ครึ่งชั่วโมง หรือทำได้แค่ ๑๐-๑๕ นาทีก็ต้องเพียรพยายามที่จะทำให้ได้ นั่นคือความเมตตามากล้นของหลวงปู่บุญฤทธิ์ต่อศิษยานุศิษย์ ซึ่งแม้กายสังขารท่านจะเป็นไปตามปัจจัยของความชรา แต่จิตท่านยังตั้งมั่น มีกำลังมั่นคงและเปี่ยมด้วยธรรมบารมี
ที่มาข้อมูล : เพจเปาบุ้นจุ้น
ข่าวโดย : กิตติ ทีนิวส์ / สำนักพิมพ์ กรีนปัญญาญาณ/ ทีมข่าวปัญญาญาณ – ทีนิวส์