- 13 ส.ค. 2560
ติดตามเรื่องราวดีๆ อีกมากมายได้ที่ http://www.tnews.co.th
.....ปี้สาว....คับ.....
เรื่องนี้ส่งเข้ามาจากคุณเจ ครับ โดยเรื่องมีอยู่ว่า.. เรื่องนี้เป็นประสบการณ์จริงที่ผมเคยเจอมาครับ สมัยที่ผมไปเรียนที่เชียงใหม่ ผมเรียนอยู่ ม.เชียงใหม่ ซึ่งกิจกรรมหลักของเด็ก มช. คือขี่มอไซค์เล่น ทุกๆ วันผมกับเพื่อนๆ มักจะร่อนจีบสาวไปทั่ว วันนั้นเพื่อนผมคนหนึ่งชื่อ ไอ้โจ มันบอกว่า มันเจอช้างเผือกแถวหางดง มันบอกวันนั้นยายให้มันไปเอาของแถวหางดง ระหว่างทางก็เห็นผู้หญิงสวยขี่มอเตอร์ไซค์นำหน้าอยู่ ดูจากข้างหลังแล้วสวยมากผมยาวถึงก้น เอวบางร่างน้อยเวลาลมพัดผมปลิวสยายไปทั้งแผ่นหลัง มันเลยพยายามขี่แซงหน้าให้ได้ และพอแซงได้มันก็รีบหันกลับไปมองทันที สวยมากๆ ตาคม ปากรูปกระจับ มันเลยชะลอรถเพื่อขี่ตามหลังเจ้าหล่อนไปเรื่อยๆ มันก็ขี่มอไซค์ตามเธอไปตลอด แต่พอเจอตึกร้างรถมันเกิดเสีย เครื่องดับเอาดื้อๆ มันก็เลยจอดขยับหัวเทียนไปมา รู้สึกจะมีอยู่ตัวหนึ่งหลวมๆ เลยดึงออกมาแล้วเสียบเข้าไปใหม่ขยับให้แน่นๆ พอลองสตาร์ทดูอีกทีเครื่องก็ติด แต่เธอผู้นั้นก็อันตรธานหายไปแล้ว มันบ่นเสียดายมาก ไอ้เชียรขาแว้นซ์เลยบอก
“ไม่ยากนี่วันนี้ก็ไปโฉบดูใหม่สิวะ “ ได้ผลเพื่อนทั้งกลุ่มรีบสนับสนุนความคิดของไอ้เชียรทันที ปฏิบัติการตามล่าหาช้างเผือกจึงเริ่มขึ้น คน 4 คน รถ 3 คัน ไอ้เชียรกับผมคนละคัน ส่วนอีกคันไอ้ฟักซ้อนหลังไอ้โจ
ไอ้โจขี่นำทุกคนไปที่หางดง และระหว่างทางที่จะไปยังโรงแรมร้าง ไอ้โจก็รีบชี้มือไปข้างหน้าผมกับไอ้เชียรเลยรีบเร่งเครื่องแซงขึ้นหน้าไปทันที เพื่อที่จะไปยลโฉมหน้าโฉมงามของไอ้โจสักหน่อย และเมื่อผมโฉบแซงหน้าเจ้าหล่อนเลยไปสักช่วงหนึ่งเพื่อจะวกรถกลับมาดูหน้าเธอชัดๆ ชิบหายแล้ว ! ผมรีบโฉบลงข้างทางทันทีเกือบคว่ำไม่เป็นท่า ส่วนไอ้เชียรกับไอ้โจหัวเราะเยาะในความอ่อนหัดของผม “ อะไรเห็นสาวงามแค่นี้รถจะคว่ำเลยหรือวะ ” จากนั้นพวกมันรีบเร่งเครื่อง ไล่กวดคุณเธอไปจนถึงโรงแรมร้าง ผมรีบตามไป ก็เห็นมอเตอร์ไซค์สามคันจอดอยู่หน้าโรงแรมแล้ว
สำหรับโรงแรมร้างแห่งนี้ถ้าจำไม่ผิด มีคำร่ำลือต่างๆ นานาว่าผีดุ มีคนตายที่นี่เยอะมาก และเคยมีวัยรุ่นมาลองของกันเยอะพอสมควร บ้างก็ไม่เจออะไร บ้างก็ถึงกับเข้าโรงพยาบาลกันเลยทีเดียว แต่ที่ได้ยินเป็นเสียงเดียวกันมากที่สุด เห็นจะเป็นเรื่องที่คนมักจะฉุดผู้หญิงมาฆ่า ข่มขืน กันที่นี่เป็นจำนวนมาก ความที่มันเป็นโรงแรมร้างแล้วผีดุ เลยไม่มีใครกล้ากร้ำกรายมาแถวนี้ เลยกลายเป็นที่ส้องสุมของพวกอาชญากร แต่ที่แน่ๆ น้องคนสวยของไอ้โจที่ผมเห็นเมื่อสักครู่ เธอไม่ใช่มนุษย์แน่ๆ อาจจะเป็นหนึ่งในเหยื่อฆ่าข่มขืนก็ได้ เพราะที่ผมเห็นเมื่อสักครู่ ใบหน้าเธอไม่มีองคาพยบใดๆ มีแค่ใบหน้าเกลี้ยงๆ หูคอปากจมูกก็ไม่มี บรื๋ออออ .... ทำไมไอ้เชียรมันไม่เห็นวะเสือกกวดตามมาอีก
ผมค่อยๆ เดินตามเข้าไป ไฟฉายในมือค่อย ๆ กวาดไปทั่ว “ ไอ้โจ วู้ ” อากาศเย็นๆ วังเวงชวนขนลุกมาก เงียบไม่มีเสียงขานรับใดๆ “ ไอ้เชียรโว้ย ” ผมเดินมาด้านหน้าโรงแรมที่เป็นเหมือนประตูทางเข้า พอผมเดินมาถึงบริเวณหน้าประตู ก็ได้ยินเสียงเหมือนคนหัวเราะ และตามมาด้วยเสียงร้องไห้ ผมหยุดกึก.. และค่อยๆ ตั้งใจฟังเสียงนั้น พร้อมกับมองหาที่มาของเสียง ก็ได้ยินเสียงร้องไห้ซึ่งค่อยๆ ดังขึ้นเรื่อยๆ เสียงเหมือนดังมาจากด้านในโรงแรม ตอนนั้นผมเริ่มเหงื่อตกครับ มองหาไอ้เพื่อน 3 คน ก็เห็นแสงจากไฟฉายมันไกลๆ ผมเลยตะโกนเรียกมันทั้งสามคน พวกมันยังคงฉายไฟไปมา ระหว่างที่ผมตะโกนเรียกพวกมันซ้ำๆ ก็ได้ยินเสียงผู้หญิงตะโกนแบบสุดเสียงออกมาว่า ‘เงียบ เงียบ!’ คือเสียงดังมาก! จนผมนี่สะดุ้ง
เลยครับ ยืนนิ่งมองหาที่มาของเสียง พอไอ้เพื่อน 3 คนมาถึง มันก็ถามผมว่า ‘มีอะไร มึงเป็นอะไร ทำไมยืนนิ่งเชียววะ?’ ผมเลยถามพวกมันว่า ‘พวกมึงไม่ได้ยินเสียงเมื่อกี้เหรอวะ?’ มัน 3 คนมองหน้ากันแล้วถามผม ‘เสียงอะไร? ซึ่งตอนนั้นทำให้ผมมั่นใจเลยครับ ว่าผมคงได้ยินคนเดียว ทั้งที่เสียงออกจะเสียงดังขนาดนั้น และมันคงจะเป็นเสียงของอะไรสักอย่างที่ไม่ใช่มนุษย์แน่ๆ แต่ไหนๆ ก็มาถึงที่แล้ว ผมเลยถามไอ้เชียรว่าตะกี้มึงเห็นหน้าน้องคนสวยรึยัง ไอ้เชียรตอบ “ สวยมากกกก เฮ่ยงานนี้ใครดีใครได้นะโว้ย ”
ไอ้โจโวยขึ้นทันที “ เฮ่ย กูเห็นก่อนกูมีสิทธิ์ก่อนโว้ย ระหว่างที่มันทั้งสองเถียงกันอยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงผู้หญิงตะโกนแบบสุดเสียงออกมาว่า ‘เงียบ เงียบ!’ คือเสียงดังมาก! ได้ผลครับคราวนี้มันทั้งสามปิดปากเงียบสนิท หน้าซีดกันเป็นแถว “ พวกมึงได้ยินแล้วใช่มั้ย ” ทุกคนรีบพยักหน้ากันอย่างเร็ว “ กูว่าน้องช้างเผือกของมึงไม่ใช่คนว่ะไอ้โจ ” “ เฮ่ย อย่าป๊อดหน่อยเลยวะ “ ไอ้เชียรว่าผมทันที “ จริงๆ คือมึงจำตอนที่มอไซค์กูจะล้มได้ใช่มั้ย ” ทั้งสามพยักหน้ารับ “ นั้นแหละ ตอนที่กูวกกลับมาดูหน้า ของน้องคนสวยอ่ะ ใบหน้าเธอไม่มีปาก ไม่มีจมูก ไม่มีตาเลยว่ะ “ จู่ๆ ก็มีแจกันหรือถ้วยอะไรสักอย่างตกลงมาจากข้างบน เพล้งงงง!! ผมนี่สะดุ้งโหยงเลย! คือตกใจมาก พอตั้งสติได้เลยลองเอาไฟฉายส่องดูว่ามันคืออะไร? มันเป็นเหมือนกระถางธูปที่เขาไว้ปักธูปไหว้พระ ซึ่งยังมีข้าวสาร และทรายอยู่ แต่ด้วยความสงสัยว่ามันตกลงมาได้อย่างไร? เพราะจากลักษณะการตก มันเหมือนมีคนจงใจโยนลงมา! พวกเรา 4 คนมองหน้ากันแบบเจื่อนๆ ก่อนที่ผมจะเอ่ยปากถามไอ้เชียร ว่า ‘มึงเห็นไม่เหมือนกูเหรอวะ ?’ ไอ้เชียรก็ย้ำว่า “ เฮ่ย ! มึงตาฝาดแล้ว มึงอย่ามามุกไว้จีบคนเดียวสิวะ “ ทันใดก็มีกลิ่นเหม็นเน่าอบอวลไปทั้งบริเวณ ซึ่งผมแน่ใจว่าพวกมันก็ได้กลิ่นเหมือนกัน ถึงทำหน้าเจื่อนๆ อย่างนี้ “ ตกลงพวกมึงยังจะตามหาอีกมั้ยวะ ” พวกมัน 3 คนพยักหน้าด้วยสีหน้าไม่มั่นใจ พร้อมกับพูดว่า ‘เอาวะ ไปต่อก็ไปต่อ..’
ไอ้เชียรเดินบันไดขึ้นชั้น 2 ทันที ซึ่งก็ไม่มีอะไรมาก พวกเราแยกย้ายมาสำรวจกันคนละฝั่ง ซึ่งผมแยกมาคนเดียว ผมยังคงได้กลิ่นเหม็นเน่าโชยมาเป็นระยะๆ แต่รู้สึกเหมือนยิ่งเดินลึกเข้าไปมากเท่าไร ก็ยิ่งได้กลิ่นแรงขึ้นๆ ผมเดินสำรวจตามห้องต่างๆ จนทั่วชั้น 2 ก็ไม่พบอะไร เลยเดินกลับมาทางเดิมตรงบันได เพื่อที่จะขึ้นไปชั้นต่อไป แล้วระหว่างทาง จู่ๆ ผมก็ได้ยินเสียงเหมือนผู้ชายเรียก และพูดว่า ‘อย่าไป อย่าไป..’ ผมขนลุกซู่ขึ้นมาอีกครั้ง รีบจ้ำอ้าวเดินเลยครับทีนี้ พอมาถึงตรงบันได ก็มาเจอไอ้เพื่อนทั้ง 3 ยืนรออยู่ก่อนแล้ว ไอ้ฟักมันก็ทักขึ้นมาว่า ‘เมื่อกี้มึงได้ยินเสียงอะไรเปล่าวะ?’ ไอ้เชียรรีบสวนขึ้นมาทันที ‘เออ กูได้ยิน!’ ผมเลยถามไปว่า ‘มึงได้ยินอะไร?’ มันก็บอกว่า ‘กูได้ยินเสียงผู้หญิงพูดว่า ช่วยด้วย ..ช่วยด้วย ....’ ส่วนไอ้โจก็บอกให้ฟังถึงสิ่งที่มันได้ยินว่า ‘เออ กูก็ได้ยินเหมือนกัน ’ แม่คุณเอ้ย! ผมนี่ขนลุกมากๆ รู้สึกหนาวมาถึงต้นคอเลยครับ พวกเรายืนนิ่งกันอยู่ตรงบันไดพักใหญ่ ก่อนที่ผมจะบอกว่า ‘เออ ! กูว่างานนี้มะมะมัน ’ ทั้งๆ ที่ในใจตอนนั้นเริ่มกลัวมากขึ้นๆ ทุกทีแล้ว และมีสังหรว่าจะต้องเจออะไรสักอย่างแน่ๆ คืนนี ทันใดนั้นก็มีเสียงผู้หญิงดังมาจากข้างบนอย่างโหยหวน “ ช่วยด้วย .... ช่วยด้วย .... ”
ไอ้เชียรรีบวิ่งขึ้นไปชั้น 3 ทันที ไอ้โจกับไอ้ฟักวิ่งตามขึ้นไปทันที ขณะที่ผมกำลังจะตามขึ้นไปอีกคน เสียงผู้ชายคนเดิมก็ทักขึ้นมาว่า “ อย่าไป ... อย่าไป .. ” ขาผมหยุดก้าวทันที ... “ เอาวะ ! ”
ด้วยความรักเพื่อน ผมรีบวิ่งตามขึ้นไปทันที เอาวะเป็นไงเป็นกัน ! พอขึ้นมาถึงชั้น 3 ระหว่างที่กำลังกวาดสายตามองหาพวกมัน จู่ๆ ผมก็รู้สึกเย็นวาบที่กลางแผ่นหลัง เมื่อเห็นไอ้ฟักนอนหมดสติอยู่ที่พื้นตรงหน้าบันไดขึ้นไปชั้นสี่ ผมรีบวิ่งเข้าไปหามัน เขย่าตัวปลุกไอ้ฟักใหญ่
“ ไอ้ฟัก ไอ้ห่ามานอนทำอะไรตรงนี้วะ ” ผมเขย่าตัวไอ้ฟักอย่างแรง จนมันค่อยๆ สลึมสลือตื่นขึนมามือชี้ไปที่ช่องลิฟท์ ผมเลยหันมอง ก็เห็นไอ้โจกำลังเดินตรงไปที่ช่องลิฟท์ผมเลยรีบพุ่งไปตะครุบตัวไอ้โจไม่ให้ตกลงไปในช่องลิฟท์ ตบหน้ามันไปสองสามที มันเลยมีสติขึ้นมา “ อ้าว! เฮ้ยนี่มึงมานอนทับกูทำไม ไอ้เจ ” “ ไอ้บ้า นี่มึงกำลังจะตกลงไปในช่องลิฟท์ไม่เห็นเหรอ “ ไอ้โจตกใจมาก รีบพูดว่า “ อ้าวก็กูเห็นน้องคนสวยกวักมือเรียกก็เลยเดินเข้าไปหา ชิบหายนี่กูถูกผีหลอกเหรอวะนี่ ”
“ ฮิๆๆๆๆๆ ไหนบอกจะมาจีบหนูไงคะ ฮิๆๆๆๆๆๆๆ ” พวกผมตาโตกับภาพตรงหน้าขนลุกเกลียวไปทั้งตัว จะไม่ให้กลัวได้ไงเพราะเสียงที่พูดขึ้นมานี้เป็นเสียงผู้หญิงแต่ไอ้เชียรเป็นคนพูด สักพักไอ้เชียรก็ตรงเข้ามาบีบคอไอ้โจอย่างเร็วผมกับไอ้ฟักช่วยกันกระชากมือไอ้เชียรออกจากลำคอไอ้โจ แต่แรงมันเยอะมากสะบัดผมกับไอ้ฟักกระเด็นกันไปคนละทาง
“ ฮิๆๆๆๆๆ พี่โจอยากเป็นแฟนหนูไม่ใช่เหรอคะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ ” ผีสาวในร่างของไอ้เชียรหัวเราะอย่างบ้าคลั่งแต่ยังไม่ยอมปล่อยมือจากลำคอของไอ้โจ ผมรีบเอาพระไปคล้องคอไอ้เชียรมันทันที
“ กรี๊ด ๆๆๆ ” ไอ้เชียรกรีดเสียงร้องอย่างโหยหวนจนสิ้นสติไป ผมกับไอ้ฟักรีบแยกกันไปช่วยไอ้โจกับไอ้เชียรทันที ผมหิ้วปีกไอ้โจ ไอ้ฟักหิ้วปีกไอ้เชียรวิ่งลงไปข้างล่างทันที เสียงกรีดร้องของผู้หญิงดังลั่นโรงแรมร้างอย่างโหยหวน น่าขนลุกมากๆ
พอมาถึงหน้าโรงแรม ไอ้โจกับไอ้เชียรรีบตรงไปที่รถขี่ออกไปทันที ร้อนถึงไอ้ฟักต้องซ้อนผมกลับบ้าน นี่ตกลงมันสองคนรู้สึกตัวตลอดนี่หว่าไอ้เปรตหลอกให้หิ้วปีกอยู่ได้ ....
รุ่งเช้าผมกับเพื่อนก็ไปให้หลวงพ่อรดน้ำมนต์เป็นการใหญ่ ท่านก็ยังเตือนอีกว่าเอาเครื่องเซ่นไปขอขมาดวงวิญญาณที่นั้นด้วยนะ ... พวกโยมไปรบกวนเค้าเองนะ เขาก็อยู่ของเขาดีๆ
หลังจากวันนั้นผมก็ถามไอ้ฟัก ทำไมมันถึงหลับอยู่บนชั้น 3 มันเล่าให้ฟังว่าพอขึ้นมาถึงชั้น 3 มันก็เห็นไอ้โจเดินตรงไปที่ช่องลิฟท์ มันก็เดินตามไปว่าไอ้โจเดินเข้าไปทำไม แต่พอมันมองเข้าไปที่ช่องลิฟท์ก็เห็นมีผู้หญิงผมยาวผูกคอตายห้อยลงมาในลิฟท์ อย่างที่ผมบอกใบหน้าของเธอไม่มีองคาพยบใดๆ หู ตา ปาก จมูกไม่มีสักอย่าง สยองมากแล้วสติก็ดับวูบมาตื่นก็ตอนถูกผมปลุกนี่ล่ะ ส่วนไอ้เชียรก็เห็นมันแยกไปอีกห้อง ส่วนไอ้เชียร ก็สารภาพว่ามันได้ยินเสียงผู้หญิงร้องช่วยด้วยเลยตามไปดู แล้วจู่ๆ สติก็ดับวูบไปเลยหลังจากนั้นแก๊งของเราก็เลิกขี่รถร่อนจีบสาวไปอีกนาน ถุย นี่นะช้างเผือกของมึงไอ้โจ ....
ขอขอบคุณ ข้อมูลและภาพ : RABBIT DAILY ,mthai , Tsuru – Exteen, SIMON A RUDD, American-horror-story gallery primacy, postjung.com ,
The shock Story ,Bloggang.com,ghost9 , Wallpaper Safari,The shock,The house, Horror Wallpaper,display–wallpapers blogspot, ภาพประกอบจากผีคนเป็น