- 07 ก.ย. 2560
ติดตามเรื่องราวดีๆอีกมากมายได้ที่ http://www.tnews.co.th/
วันที่ 7 กันยายน 2560 ที่บ้านของนายกะหนี ซาชา อายุ 66 ปีเลขที่ 45 หมู่ที่ 7 ต.บางเป้า อ.กันตัง จ.ตรัง มีเพื่อนบ้านมาขอดูเจ้าเผือกเพชร ควายเผือกอายุประมาณ 3 ปี 7 เดือน มีรูปร่างสูงใหญ่ สีขาวอมชมพูตลอดทั้งตัว น้ำหนักกว่า 700 กิโลกรัม ซึ่งนายกะหนีหรือบังหนี ไปพบเข้าขณะที่เจ้าของเดิมกำลังนำเจ้าเผือกเพชรเข้าโรงฆ่าสัตว์ในอำเภอย่านตาขาว จ.ตรัง
โดยเห็นว่ารูปร่างสีสันแปลกตาและรู้สึกถูกชะตากับควายตัวนี้ จึงตัดสินใจไถ่ชีวิตมาในราคา 40,000 บาท น้ำหนักตอนนั้นประมาณ 300 กิโลกรัม และนำมาเลี้ยงไว้เมื่อ 7 เดือนที่แล้ว ตอนนี้น้ำหนักเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว โดยตั้งชื่อว่าเจ้าเผือกเพชร
ซึ่งหลังจากได้ควายตัวนี้มาแล้ว หน้าที่การงาน เงินทองและโชคลาภต่าง ๆ ก็ไหลมาเทมา ครอบครัวสุขสบายขึ้น ส่วนหนึ่งเชื่อว่าจากอานิสงส์ของการไถ่ชีวิตเจ้าเผือกเพชรเอาไว้ ซึ่งเจ้าเผือกเพชรเองก็กินอิ่มนอนหลับและอ้วนพี แถมยังเลี้ยงง่าย ชอบให้เกาบริเวณท้อง ก้นและอัณฑะ ซึ่งจะยกหางขึ้นทุกครั้งที่ถูกเกา และยังหลับตาพริ้มอย่างมีความสุข ซึ่งมีคนมาติดต่อขอซื้อแล้วในราคา 70,000 บาท โดยจะเอาไปเป็นพ่อพันธุ์ แต่เจ้าของไม่ขายเนื่องจากมีความรักและความผูกพันกันมากขึ้น จนกระทั่งรู้ว่าเจ้าเผือกเพชรมีน้องชายอีกตัวที่มีลักษณะเป็นควายเผือก เกิดคลอกที่ 2 อายุประมาณ 1 ปีครึ่ง จึงไปซื้อมาเลี้ยงไว้เมื่อ 20 กว่าวันที่ผ่านมา ในราคาตัวละ 35,000 บาท
และจากความผูกพันกับเจ้าเผือกเพชร บังหนีจึงคิดจะเลี้ยงควายอย่างจริงจัง และซื้อมาเพิ่มอีกหลายตัว ซึ่งในอนาคตอาจชักชวนลูกหลานให้หวนกลับมาทำนาโดยใช้ควายอีกครั้ง หลังจากเลิกราไปนานกว่า 20 ปี เพื่อให้เยาวชนคนรุ่นใหม่ได้เห็นคุณค่าของควายไทยและต้องการอนุรักษ์ไว้ เพื่อไม่ให้ควายไทยสูญพันธุ์ไปจากท้องทุ่งนา โดยยังคงเก็บคันไถและอุปกรณ์เกี่ยวกับการไถนาไว้เป็นอย่างดี
นายกะหนี ซาชา เจ้าของควายเผือก อ.กันตัง จ.ตรัง กล่าวว่า ปกติตนก็มีอาชีพเลี้ยงและเชือดวัวเชือดแพะขาย แต่พอเห็นเจ้าเผือกเพชรก็ถูกใจจึงไถ่ชีวิตมาในลักษณะผอมโซน้ำหนักประมาณ 300 กิโลกรัม โดยนำมาเลี้ยงแบบธรรมชาติ ซึ่งรู้สึกได้ว่าทำมาหากินคล่องขึ้นจึงไปซื้อน้อง ๆ ของมันมาอีก 3 ตัว เป็นควายเผือก 1 ตัว ซึ่งเจ้าเผือกเพชรชอบให้คลุกคลีให้เล่นและเกาให้ นิสัยไม่ดุร้ายและคุ้นกับคนได้ง่ายมาก
อ้างอิงข้อมูลจาก - news.mthai.com