- 16 ม.ค. 2561
ติดตามเรื่องราวดีๆอีกมากมายได้ที่ http://www.tnews.co.th
เมื่อ 25 ปีที่แล้วคุณ Eric Lawes แพทย์ชาวอังกฤษท่านหนึ่งได้เริ่มสร้างบ้านของเขาบนที่ดินผืนหนึ่งในหมู่บ้าน Hoxne ของประเทศอังกฤษ
เรื่องราวดังกล่าวเริ่มต้นขึ้นหลังจากที่วันหนึ่งคุณ Lawes ได้ออกมาหาค้อนที่หายไปของเขา หลังจากที่เริ่มการตามหา คุณหมอของเรากลับพบสัญญาณของบางสิ่งบางอย่างที่ซ่อนอยู่ใต้ดิน และเมื่อเริ่มลงมือขุดเขาก็ได้พบกับสมบัติโบราณที่ละชิ้น
หลังจากที่เริ่มพบกับเหรียญโบราณ และข้าวของเครื่องใช้จากยุคก่อนคริสตกาล ด้วยความตกใจคุณหมอ Lawes ของเราจึงได้โทรแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้พวกเขามาตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าว
หลังจากที่นักโบราณคดีมาถึง พวกเขาเริ่มลงมือสำรวจพื้นที่ดังกล่าวทันที ทีมสำรวจแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองเมื่อพบว่าสิ่งที่ซ่อนอยู่ใต้ดินนั้นคือคลังสมบัติอันมหาศาลในยุคโบราณ
สมบัติใต้ดินนี้ประกอบไปด้วยทองคำและเครื่องเงินหนักกว่า 27 กิโลกรัม เหรียญโรมันอีกกว่า 15,234 เหรียญ รวมถึงช้อนเงินและทองคำอีกมากกว่า 200 ชิ้น
คุณหมอ Lawes ได้รับเงินจากรัฐบาลอังกฤษมากถึง 1.75 ล้านปอนด์สำหรับสมบัติที่ถูกค้นพบในที่ดินของเขา ส่วนสมบัติที่ถูกค้นพบบางชิ้นถูกนำไปเก็บไว้ที่พิพิธภัณฑ์อังกฤษ “นี่เป็นการค้นพบครั้งสำคัญในประเทศอังกฤษเลยทีเดียว” Rachel Wilkinson เจ้าหน้าที่จากพิพิธภัณฑ์กล่าว
สมบัติอันล้ำค่าที่ถูกค้นพบครั้งนี้ทำให้นักโบราณคดีได้เรียนรู้เรื่องราวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของจักวรรดิโรมันเมื่อประมาณคริสต์ศตวรรษที่ 410
“ในช่วงเวลาดังกล่าว เป็นยุคที่อังกฤษนั้นถูกรุกรานโดยกลุ่มชนเจอร์แมนิกและชาวฮัน” ข้อความจากหนังสือ The Late Roman Gold and Silver coins from the Hoxne Treasure ที่เขียนเล่าถึงประวัติศาสตร์ในยุคนั้นโดยนักโบราณคดีชาวโรมัน คุณ Peter Guest
การเข้ามารุกรานของจักวรรดิโรมันในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 418 ทำให้อังกฤษถูกครอบครองโดยจักวรรดิโรมัน และในปีเดียวกันนั้นเองพวกเขาก็ได้ใช้ที่นี่ซ่อนสมบัติอันล้ำค่า
แต่อย่างไรก็ตามทางด้านคุณ Peter Guest ก็ได้ตั้งสมมติฐานเกี่ยวกับสมบัติเหล่านี้ว่ามันอาจจะถูกซ่อนเอาไว้ในช่วงการล่มสลายของจักวรรดิโรมัน หรือหลังจากการล่มสลายของจักวรรดิโรมันก็ได้
“รายละเอียดของโบราณวัตถุนั้นจะช่วยเล่าถึงลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และบอกเราเกี่ยวกับบางอย่างที่เกิดขึ้นในประวัติศาสตร์” Peter Guest กล่าว
ภาพและข้อมูลจาก smithsonianmag / www.catdumb.com