- 27 ก.พ. 2561
เปิดคดีตี๋ใหญ่ กับสาเหตุการตายที่หายไปไม่ถูกบันทึกไว้ในประวติศาสตร์ และคำบอกเล่าของผู้อยู่ในเหตุการณ์
ตี๋ใหญ่ มีชื่อจริงว่า กรประเสริฐ ช่างเขียน เป็นชาวไทยเชื้อสายจีน เกิดเมื่อปลายปีพ.ศ. 2495 ที่ตำบลดอนไผ่ อำเภอดำเนินสะดวก จังหวัดราชบุรี เดิมมีชื่อว่า "ไพโรจน์" ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น กรประเสริฐ เป็นลูกชายคนโตในจำนวนลูก ๆ ทั้ง 7 คนของครอบครัว เมื่อยังเด็ก ตี๋ใหญ่เป็นคนนิสัยสุภาพเรียบร้อย ไม่มีวี่แววว่าจะเป็นอาชญากรได้เลย จนกระทั่งเรียนจบ ป.4 แม่ได้ส่งเข้ามาทำงานที่กรุงเทพที่ตลาดมหานาค ณ ที่นั่นตี๋ใหญ่ถูกนักเลงเจ้าถิ่นรังแก เลยทำให้เป็นคนสู้คนขึ้นมา จนกระทั่งก่ออาชญากรรมได้ในที่สุด ซึ่งเมื่อพ่อของตี๋ใหญ่ทราบว่าลูกชายเป็นโจร ก็ประกาศตัดขาดความเป็นพ่อ-ลูกกันและไม่ยอมให้ตี๋ใหญ่กลับเข้าบ้านอีกเป็นอันขาด
ตี๋ใหญ่ โด่งดังจากการเป็นโจรปล้นฆ่าชื่อเสียงโด่งดัง ในราวก่อนปี พ.ศ. 2520 โดยจะปล้นฆ่าไปทั่วแถบบริเวณจังหวัดราชบุรีและหลายจังหวัดในพื้นที่ภาคกลาง และบางส่วนของพื้นที่กรุงเทพมหานคร นอกจากนี้แล้ว ตี๋ใหญ่ ยังถือเป็นโจรใจเด็ด เพราะเคยหนีตำรวจโดยกระโดดลงจากรถไฟมาแล้ว และสลัดกุญแจมือด้วยการซ่อนตัวอยู่ใต้สะพานให้รถไฟทับให้ขาด ในขณะที่ถูกควบคุมตัวบนขบวนรถไฟจากกรุงเทพไปขึ้นศาลที่เชียงใหม่จากคดีปล้นร้านทองที่เขตภาษีเจริญ เมื่อปี พ.ศ. 2518 และยังเคยบุกปล้นคุกเพื่อช่วยลูกน้อยที่ติดคุกอยู่อีกด้วย และนอกจากนี้ยังเชื่อว่ากัน ตี๋ใหญ่ เป็นโจรจอมขมังเวทย์ มีคาถาอาคมกำบังหายตัวได้ จึงทำให้หลุดรอดจากการจับกุมของทางการอยู่เสมอ ๆ โดยอาวุธคู่ใจของตี๋ใหญ่ คือ ปืนพกขนาด 11 มม. Colt M 1911 A1
นอกจากนี้แล้ว ตี๋ใหญ่ ยังเป็นโจรเจ้าชู้ กล่าวกันว่ามีภรรยาหลายคน เพราะเป็นชายหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่ง โดยตี๋ใหญ่โกหกชื่อตน ว่าชื่อแจ็คบ้าง ไพโรจน์บ้าง เป็นต้น โดยที่ภรรยาเหล่านี้บางคนยังไม่ทราบเสียด้วยซ้ำว่า สามีของตนนั้นเป็นโจร ปัจจุบันบุตรชายของตี๋ใหญ่มีเพียงคนเดียว
ตี๋ใหญ่มักจะอยู่ไม่เป็นที่ ต้องคอยหลบหนีตลอด โดยเวลานอนจะจุดธูปหนีบไว้ที่นิ้วเท้าเมื่อธูปหมดดอก ก็จะย้ายไปที่อื่น ตี๋ใหญ่มีเอกลักษณ์ประจำตัวคือ มักจะแต่งกายด้วยเสื้อเชิร์ตลายสก๊อต กางเกงยีนส์ลีวายส์ สวมแว่นตาดำเรย์แบนด์ และรองเท้าผ้าใบคอนเวิร์ส เวลาตี๋ใหญ่ออกปล้นมักจะฆ่าเจ้าทรัพย์ด้วยความโหดเหี้ยม โดยจะส่งเสียงขู่ด้วยน้ำเสียงที่น่าหวาดกลัว แต่ก็เสียงเล่าลือกันอีกว่า ในบางครั้งตี๋ใหญ่ก็ปล้นแต่เฉพาะคนรวย และใครเคยช่วยเหลือก็ไม่เคยลืมบุญคุณและจะนำทรัพย์สินที่ปล้นได้มาแบ่งให้ โดยวางทิ้งไว้ที่หน้าบ้าน อีกเรื่องหนึ่งที่เป็นที่เล่าลือของตี๋ใหญ่คือ เมื่อหลบหนีตำรวจ จะใช้วิธีดำน้ำโดยการใช้ปากดูดอากาศจากก้านบัวเหมือนหลอด ซึ่งตี๋ใหญ่เคยทำแบบนี้มาตั้งแต่สมัยยังเด็ก ๆ เพราะสภาพแวดล้อมแถวบ้านเป็นเรือกสวนไร่นาและลำคลอง
ตี๋ใหญ่ได้เสียชีวิตในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2524 โดยตำรวจโดยการนำของ พล.ต.ท.สมเกียรติ พ่วงทรัพย์ (ยศในปัจจุบัน-อดีตผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล) เล่ากันว่าที่ตี๋ใหญ่เสียชีวิตนั้น เพราะกำลังหลบหนี ก่อนหน้านั้นหนึ่งวันได้ให้ลูกน้องขับรถกระบะไปรับเพื่อไปหาพระเกจิอาจารย์รูปหนึ่ง คือ พระครูสมุทรธรรมสุนทร (สุด สิริธโร) หรือหลวงพ่อสุด วัดกาหลง ที่จังหวัดสมุทรสาคร เพื่อไปขอพระจากท่านเพราะของเดิมถูกเพื่อนขโมยไปทั้งตะกรุดและพระ แต่ไม่พบ ขณะที่เดินทางกลับ ได้ถูกเพื่อนร่วมเดินทางซึ่งเป็นลูกน้องหักหลังยิงตี๋ใหญ่จนตาย แล้วรีบออกจากรถ หลังจากตำรวจมาถึงรถที่ตี๋ใหญ่ตายอยู่ในรถก็ได้ระดมยิงถล่มรถอีกครั้งโดยไม่รู้ว่าตี๋ใหญ่ได้ตายอยู่ในรถก่อนหน้านี้แล้ว แต่ทว่าจากคำบอกกล่าวของลูกน้องคนนึงของตี๋ใหญ่ กล่าวว่า ตี๋ใหญ่ถูกลูกน้องคนนี้หักหลัง ด้วยถูกตำรวจจ้างด้วยเงิน 200,000 บาท พร้อมให้สัญญาจะช่วยในคดีฆ่าคนตาย 2 คดีให้หลุดพ้น ซึ่งตี๋ใหญ่ไม่ได้ถูกตำรวจฆ่าตายเลย
ภายหลังจากการเสียชีวิตแล้ว ยังมีเสียงเล่าลือกันว่า ตี๋ใหญ่แท้จริงยังไม่ตาย บ้างก็ลือกันว่าตี๋ใหญ่ได้หนีไปอยู่สหรัฐอเมริกา บ้างก็เชื่อว่าที่ตี๋ใหญ่เสียท่าแก่ตำรวจ เพราะได้หลบไปซ่อนอยู่ใต้ผ้าถุง อาคมในตัวจึงเสื่อม เป็นต้น เรื่องราวของตี๋ใหญ่ยังถูกเล่าขานต่อ ๆ กันมา
อ่านประวัติอย่างละเอียดได้ที่ - เปิดประวัติ มหาดาวโจร กับหลายสิ่งที่คุณอาจไม่รู้เกี่ยวกับเขา...ตี๋ใหญ่ ศิษย์เอกหลวงพ่อสุด !!! อาชญากร ที่ค่าหัวแพงที่สุดในประเทศไทย !!!
การเสียชีวิตของตี๋ใหญ่ กับความจริงที่หายไป !!!
แต่แล้วได้มี บล๊อกเกอร์ท่านหนึ่งที่ใช้ชื่อว่า kan kondee ได้โพสต์เรื่องราวที่ทำให้หลายคนต้องตกใจยิ่ง เมื่อประวัติศาสตร์ความจริงการตายของตี๋ใหญ่กลับหายไป โดยที่ kan kondee ได้พูดคุยกับบุคคลท่านหนึ่งที่ได้อยู่ในเหตุการณ์ การเสียชีวิตของตี๋ใหญ่โดยตรง เมื่อ วันที่ 8 มีนาคม 2554 โดยในบทสัมภาษณ์มีดังต่อไปนี้...
ผู้สัมภาษณ์ ; ตอนนี้พี่อายุเท่าไรแล้ว?
แหล่งข้อมูล ; ปีหน้าผมก็เกษียณแล้ว ปีนี้อายุ 59(สัมภาษณ์วันที่ 8 มีนาคม 2554)
ผู้สัมภาษณ์ ; พี่เห็นตอนตี๋ใหญ่ถูกยิงเลยเหรอ?
แหล่งข้อมูล ; ผมไม่เห็นหรอกครับ ได้ยินแต่เสียงปืนดังขึ้น 3 นัด มีผมกับลูกพี่ 2 คนเท่านั้นที่อยู่ใกล้เหตุการณ์ที่สุด
ผู้สัมภาษณ์ ; ตอนนั้นพี่ทำอะไรอยู่
แหล่งข้อมูล ; ผมกับจ่าวิชัย หัวหน้าผมจอดรถมอเตอร์ไซด์รออยู่ เพราะก่อนหน้านั้นได้รับแจ้งจากลูกน้องตี๋ใหญ่มาก่อนแล้วว่า ตี๋ใหญ่จะเข้ามามหาชัย พอรถกระบะสีขาวตามที่ได้รับแจ้งผ่านมา ก็ ว.แจ้งสายตรวจรถยนต์ให้มาช่วย แล้วตามไปเลย ตามไปก็เห็นรถจอดอยู่ ก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นสามนัด ลูกน้องตี๋ใหญ่ก็วิ่งเข้าป่าไป
ผู้สัมภาษณ์ ; กระโดดมาจากไหน
แหล่งข้อมูล ; วิ่งมาจากรถตึ๋ใหญ่
ผู้สัมภาษณ์ ; เปิดประตูออกมาหรือ กระโดดลงมาจากกระบะหลัง
แหล่งข้อมูล ; ไม่ทันเห็นหรอกครับ เห็นแต่ว่าวิ่งมาจากรถหนีเข้าป่าไป
ผู้สัมภาษณ์ ; วิ่งออกมาจากรถด้านไหน
แหล่งข้อมูล ; ด้านซ้ายครับ
ผู้สัมภาษณ์ ; ตี๋ใหญ่มาทำอะไรที่มหาชัย
แหล่งข้อมูล ; ตอนนั้นผมยศแค่พลตำรวจไม่รู้อะไรมากหรอก ลูกพี่บอกตี๋ใหญ่จะเข้ามามหาชัย แล้วชวนผมไปด้วย ผมก็ไป แต่ตอนหลังเห็นว่า..จะมาหาหลวงพ่อสุด(วัดกาหลง)
ผู้สัมภาษณ์ ; แล้วเหตุการณ์หลังจากนั้น
แหล่งข้อมูล ; ก็เข้าไปดูที่เกิดเหตุกับสายตรวจรถยนต์
ผู้สัมภาษณ์ ; เข้าไปดูกันกี่คน
แหล่งข้อมูล ; ทั้งหมด 5 คน ไม่มีใครเลย แต่พอแจ้ง ว.ไป สักพักทั้งนาย(นายตำรวจระดับสูง) ทั้งชาวบ้านมากันมืดฟ้ามัวดินไปหมด เชื่อมั้ย ผมเป็นคนตรวจศพตี๋ใหญ่เองกับมือเลย เค้าหน้าตาดีนะไว้ผมยาว ใส่เสื้อเชิ้ตลาย
ผู้สัมภาษณ์ ; ตอนเข้าไปไม่กลัวว่าตี๋ใหญ่จะยังไม่ตาย แล้วยิงสวนเอาเหรอ ?
แหล่งข้อมูล ; มันเห็นเลยครับ นอนคอพับอยู่ในรถ ลูกพี่ผมยังกราดเอ็ม 16 เข้าไปอีกชุดหนึ่ง
ผู้สัมภาษณ์ ; ยิงซ้ำไปที่ตี๋ใหญ่?
แหล่งข้อมูล ; ไม่ใช่นะครับ ยิงไปที่ตัวรถ ไม่โดนตัวตี๋ใหญ่หรอก
ผู้สัมภาษณ์ ; เจอตะกรุดตี๋ใหญ่มั้ย?
แหล่งข้อมูล ; ไม่เจอหรอกครับ เจอแต่พระผงของขวัญวัดปากน้ำรุ่นหนึ่ง ผ้ายันต์สีแดง ไม่ได้ดูว่าของหลวงพ่อวัดไหน และ ท่อนหวาย 3 ชิ้นมัดรวมกันไว้ด้วยสายสิญจน์
ผู้สัมภาษณ์ ; เคยอ่านหนังสือ เค้าเขียนว่าตำรวจเป็นคนยิงตี๋ใหญ่?
แหล่งข้อมูล ; ไม่ใช่หรอกครับ ไม่มีใครเลย คือ..เรา(ตำรวจ)รู้กันกับลูกน้องตี๋ใหญ่ เค้าจะหลอกมายิงทิ้งให้ แล้วให้เราเข้าไปจัดการต่อ ถ้าตี๋ใหญ่เป็นๆ ไม่มีใครกล้าหรอกครับ ก็ตอนตี๋ใหญ่มาเที่ยวซ่องที่มหาชัย ลูกพี่ผมยังแกล้งชวนผมบอก มึงจะไปจับตี๋ใหญ่กับกูมั้ยมันอยู่ในซ่อง ผมก็บอกพี่ไปผมก็ไป เค้ายังไม่กล้าเลย บอก..มึงจะไปยุ่งอะไรกับไอ้คนพรรค์นั้น
ผู้สัมภาษณ์ ; แล้วไม่แจ้งให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จะได้ระดมกำลังมาล้อมจับ?
แหล่งข้อมูล ; ไม่อ่ะ... ?????
ผู้สัมภาษณ์ ; ทำไมลูกน้องตี๋ใหญ่หักหลังลูกพี่เสียล่ะ?
แหล่งข้อมูล ; ผมก็ไม่รู้นะ...น่าจะเรื่องส่วนแบ่งของที่ปล้นมาไม่ลงตัวน่ะครับ
ผู้สัมภาษณ์ ; แล้วทำไมเค้าไม่ไปยิงที่อื่นล่ะ ทำไมต้องมาบอกตำรวจ?
แหล่งข้อมูล ; อันนี้ก็ไม่ทราบนะครับ... ตอนหมอผ่าศพเจอหัวกระสุน 11 ม.ม.ยังต้องหมอบอกอันนี้ไม่ใช่ เอาทิ้งๆ
(คาดว่าน่าจะการแลกเปลี่ยนเกี่ยวกับคดี หรือ ต้องการปกปิดไม่ให้ใครรู้ว่าตนเองเป็นผู้ยิง เพราะกลัวว่าจะถูกลูกน้อง หรือ ญาติๆ ตี๋ใหญ่แก้แค้น – ผู้สัมภาษณ์)
ผู้สัมภาษณ์ ; แล้วเมียกับญาติๆ ของตี๋ใหญ่เข้าใจว่าใครยิง?
แหล่งข้อมูล ; เค้าก็เข้าใจว่าตำรวจยิง ยังเข้ามาต่อว่าผมใหญ่เลย ว่า..ไปยิงเค้าทำไม เค้าเป็นคนดี..
ผู้สัมภาษณ์ ; แล้วพี่ว่ายังไง?
แหล่งข้อมูล ; ผมก็ไม่พูดอะไร
ผู้สัมภาษณ์ ; งานนี้ พล.ต.อ.ณรงค์ มหานนท์ อ.ตร. ประกาศให้รางวัลนำจับ 50,000 บาท แล้วพวกพี่ได้กันเท่าไหร่?
แหล่งข้อมูล ; ได้แค่ 4,500.- บาท
ผู้สัมภาษณ์ ; สรุปก็คือตี๋ใหญ่ไม่ได้ถูกตำรวจยิงตาย
แหล่งข้อมูล ; ก็..ผมเห็นมาอย่างนั้น ผมเป็นหนึ่งในสองคนที่อยู่ในที่เกิดเหตุ หมอที่มาตรวจศพเจอหัวกระสุน 11 มม.ยังบอกให้หมอเอาทิ้งไป (สันนิษฐานว่าในทางคดีตั้งรูปคดีว่า วิสามัญฆาตกรรมโดยปืน เอ็ม 16)
-เปรียบเทียบข้อมูลกับคำสัมภาษณ์-
ผลการชันสูตรศพตี๋ใหญ่ส่วนใหญ่กระสุนเข้าทางด้านซ้าย /คำสัมภาษณ์ให้การว่า ลูกน้องตี๋ใหญ่กระโดดลงมาจากรถด้านซ้าย
“สภาพศพตี๋ใหญ่โดนกระสุนทะลุทะลวงเข้าที่โหนกแก้มซ้าย 2 นัด กกหูขวา 1 นัด ไหล่ซ้ายและราวนมซ้ายอย่างละ 1
นัดรวมทั้งที่รักแร้ซ้าย และต้นคอ เขาเสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
อ้างอิงข้อมูลจาก - http://kankondee.blogspot.com/2012/02/blog-post.html , th.wikipedia.org