- 18 มิ.ย. 2562
เชื่อว่าหลายคนคงเคยประสบปัญหาใหญ่ นั่นคือ โทรศัพท์เปียกน้ำ และไม่รู้จะทำอย่างไรดี วันนี้เราเลยอยากนำวิธีเบื้องต้น หาคุณผู้อ่านพลาดทำโทรศัพท์เปียกน้ำ โดยมีด้วยกัน 10 วิธี ส่วนจะมีอะไรบ้างนั้น ลองไปอ่านกันดูดีกว่าครับ
เชื่อว่าหลายคนคงเคยประสบปัญหาใหญ่ นั่นคือ โทรศัพท์เปียกน้ำ และไม่รู้จะทำอย่างไรดี วันนี้เราเลยอยากนำวิธีเบื้องต้น หาคุณผู้อ่านพลาดทำโทรศัพท์เปียกน้ำ โดยมีด้วยกัน 10 วิธี ส่วนจะมีอะไรบ้างนั้น ลองไปอ่านกันดูดีกว่าครับ
1. หากโทรศัพท์ มือถือเปียกน้ำ หรือ ตกน้ำ ให้นำไปไว้ในที่แห้งก่อน โดยห้ามเด็ดขาดคือ กดปุ่นเปิด-ปิดเครื่อง หรือปุ่มใดๆเป็นอันขาด เนื่องจากอุปกรณ์ต่างๆ ยังเปียกน้ำ หรือยังมีความชื้น อาจทำให้เกิดการลัดวงจรและเสียหายหนัก หรือเสียหายถาวรได้
2. ถอดอุปกรณ์ต่างๆ ที่เราสามารถถอดเองได้โดยเร็ว ไม่ว่าจะเป็น ซิมการ์ด แบตเตอรี่ หน้ากาก และ ฝาหลัง
3. เมื่อถอดอุปกรณ์ต่างๆเรียบร้อยแล้ว ให้ทำการสลัดน้ำ และใช้ผ้าไม่มีขนซับน้ำที่เกาะอยุ่ออก และตากให้แห้ง
4. ห้ามเด็ดขาด คือ ไม่ควรใช้ไดร์เป่าผมเป่าแห้ง เพราะว่า ไดร์เป่าผมมีความร้อนสูง อาจจะทำให้เกิดความเสียหายต่อวงจรอิเล็กทรอนิกส์ภายในได้
5. ห้ามนำไปตากแดด เพราะ แดดมีความร้อนจนเกินไป ต่อวงจรอิเล็กทรอนิกส์ ของโทรศัพท์มือถือ
6. เมื่อสังเกตว่าโทรศัพท์ เริ่มแห้งแล้วพอประมาณ ให้นำโทรศัพท์ไปใส่ไว้ในถังข้าวสาร หรือในถุงพลาสติกที่มีซิลิก้าเจล เพื่อให้ดูดความชื้นภายใน โดยใส่ทิ้งไว้ประมาณ 2-3 วัน
7. เมื่อทำตามขั้นตอนต่างๆแล้ว และแน่ชัดว่าอุปกรณืมือถือ ทั้งหมดแห้งดีแล้ว ให้ทดลองใส่ ซิมการ์ด หรือแบตเตอรี่ ใส่เข้าที่เดิม
8. หลังจากที่ประกอบทุกอย่างเข้าด้วยกันเรียบร้อยแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ห้ามทำเด็ดขาดก็คือ "ไม่ควรชาร์จแบตเตอรี่ทันที" เพราะว่า วงจรภายใน อาจจะยังไม่พร้อมที่จะรับกระแสไฟฟ้าแรงสูง อาจจะทำให้เกิดการระเบิดได้
9. หลังจากประกอบทุกอย่างแล้วให้ลองกดเปิดเครื่องดู ว่ามีอะไรบ้างที่ผิดปกติ
10. หากทำทุกขั้นตอนแล้วเครื่องใช้งานได้ตามปกติก็ถือว่าโชคดีไม่ต้องนำไปซ่อมแต่อย่างใด แต่ถ้าหากเครื่องเกิดยังมีปัยหาอยู่ให้นำเครื่องไปไปให้ศูนย์ หรือช่างผู้ชำนาญ ช่วยจัดการให้อีกครั้งหนึ่ง