- 27 มิ.ย. 2562
กรณีเนื้อสัตว์ของร้านอาหารชื่อดังแห่งหนึ่ง ที่มีลักษณะประหลาด โดยมีตุ้มสีขาวขุ่น คล้ายเม็ดสาคู หรือก็คือพยาธินั้นเอง วันนี้เราจะมาแนะนำวิธีการสังเกตุอาหารประเภทเนื้อสัตว์ ว่าเนื้อสัตว์ที่เราจะทานกันนั้นแบบใดที่เสี่ยงมีพยาธิกันบ้าง
สืบเนื่องจากเมื่อไม่นานมานี้ ได้มีข่าวดัง กรณีเนื้อสัตว์ของร้านอาหารชื่อดังแห่งหนึ่ง ที่มีลักษณะประหลาด โดยมีตุ้มสีขาวขุ่น คล้ายเม็ดสาคู หรือก็คือพยาธินั้นเอง วันนี้เราจะมาแนะนำวิธีการสังเกตุอาหารประเภทเนื้อสัตว์ ว่าเนื้อสัตว์ที่เราจะทานกันนั้นแบบใดที่เสี่ยงมีพยาธิกันบ้าง
พยาธิในอาหาร ที่พบได้บ่อยสามารถแบ่งออกได้ 5 ชนิดหลักๆนั้นก็คือ
1. พยาธิตัวตืด (Tapeworms) สามารถพบในอาหารประเภท : เนื้อหมู วัว ที่ปรุงไม่สุก หรือผักสดที่ล้างไม่สะอาด และมีไข่พยาธิปนเปื้อน สามารถมองเห็นตัวอ่อนของพยาธิตัวตืดได้ด้วยตาเปล่า มีลักษณะเป็นเม็ดสาคู
อาการที่เกิดขึ้นหากได้รับพยาธิ : หากผู้ป่วยได้รับพยาธิตืดหมูเข้าสู่ร่างกาย ตัวอ่อนของพยาธิจะไชเข้าสู่กระแสเลือด และเติบโตเป็นถุงตัวตืด สามารถพบได้ตามกล้ามเนื้อทั่วร่างกาย แม้แต่กล้ามเนื้อหัวใจ และอวัยวะอื่น ๆ เช่น สมอง บางครั้งอาจคลำเจอเป็นเม็ด ๆ ใต้ผิวหนัง ส่วนพยาธิตืดวัว จะไม่ทำให้เกิดโรคในคน ทำให้ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย
2. พยาธิอะนิซาคิส (Anisakis) สามารถพบได้พบในอาหารประเภท : ปลาทะเลที่ไม่สุก หรือปลาดิบ
อาการที่เกิดขึ้นหากได้รับพยาธิ : มักปวดท้องบริเวณลิ้นปี่ คลื่นไส้ อาเจียน และท้องเสีย เมื่อเคลื่อนที่ไชไปในกระเพาะอาหาร และลําไส้ ซึ่งจะทําให้เกิดแผลขนาดเล็ก และอาจมีเลือดออกในกระเพาะอาหารได้ มักมีอาการ ปวดท้อง แน่นท้อง คลื่นไส้ ท้องอืด อาการคล้ายกับ โรคกระเพาะอาหาร อาจมีอาการท้องเสีย หรือถ่ายเป็นเลือด ถ้ามีแผลในกระเพาะอาหารขนาดใหญ่
3. พยาธิใบไม้ตับ (Liver Fluke) สามารถพบในอาหารประเภท : อาหารที่ทำจากปลา และสัตว์น้ำจืด ที่ไม่ผ่านการปรุงสุก เช่น ปลาร้าดิบ ส้มปลา
อาการที่เกิดขึ้นหากได้รับพยาธิ : มักไม่มีอาการในระยะแรก แต่เมื่อมีพยาธิสะสมอยู่เป็นเวลานาน จะทำให้เกิดอาการ ท้องอืด แน่นท้อง เจ็บบริเวณชายโครงขวา ร้อนบริเวณหน้าท้อง หากปล่อยทิ้งไว้ จะมีอาการอักเสบของท่อน้ำดี ดีซ่าน ตับโต มีไข้
เมื่ออาการร้ายแรงขึ้น ผู้ป่วยจะผอมซีด บวม บางรายเป็นโรคตับแข็ง มีน้ำในช่องท้อง หรือท้องมาน และอาจกลายเป็นมะเร็งท่อน้ำดีในตับ จนถึงขั้นเสียชีวิตได้
4. พยาธิตัวจี๊ด (Gnathostoma Spinigerum) สามารถพบได้ในอาหารประเภท : เนื้อสัตว์ที่ปรุงไม่สุก เช่น ปลา ไก่ กบ เป็นต้น
อาการที่เกิดขึ้นหากได้รับพยาธิ : ผู้ป่วยโรคพยาธิตัวจี๊ดมักไม่มีอาการรุนแรง โดยอาการที่พบได้บ่อย คือ บวมตามผิวหนังเป็นก้อน บวม ๆ ยุบ ๆ และเคลื่อนที่ได้ อาการรุนแรงที่พบได้คือ พยาธิไชเข้าไปในอวัยวะสำคัญ เช่น สมอง ตา ทำให้เกิดอาการอักเสบ ซึ่งอาจทำให้ผู้ป่วยทุพพลภาพได้ แต่พบได้ไม่บ่อยนัก
5. พยาธิไส้เดือน (Ascariasis) สามารถพบในอาหารประเภท : ผักผลไม้ที่ล้างไม่สะอาด อาหารไม่สะอาด มีไข่พยาธิปนเปื้อน มีแมลงวันตอม หรือหยิบของที่ตกบนพื้นดินเข้าปาก
อาการที่เกิดขึ้นหากได้รับพยาธิ : ผู้ป่วยจะมีอาการไม่ชัดเจน หรืออาจไม่มีอาการเลย และมักเป็นการตรวจพบโดยบังเอิญ อาการที่เกิดขึ้นมีได้หลายแบบ เช่น ซีด อ่อนเพลีย ปวดบวมตามผิวหนังแบบย้ายตำแหน่งไปเรื่อย ๆ ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเดิน หากมีพยาธิจำนวน อาจเกาะรวมกันเป็นกลุ่มก้อนจนอุดตันอวัยวะต่าง ๆ เช่น โพรงลำไส้ ทางเดินหายใจ ซึ่งอาจมีอันตรายถึงแก่ชีวิตได้
วิธีหลีกเลี่ยงพยาธิจากอาหาร
-หากต้องการกินผักสดแบบดิบ ๆ ควรล้างด้วยน้ำสะอาดหลายๆ ครั้ง หรือแช่ด้วยด่างทับทิมหรือน้ำส้มสายชู
-ล้างมือให้สะอาดก่อนทำอาหาร และเมื่อกินอาหาร
-หลีกเลี่ยงการกินอาหารดิบ ๆ หรือทำให้สุกด้วยความร้อนที่ไม่เพียงพอ
-การบีบมะนาวไม่มีผลในการฆ่าตัวอ่อนพยาธิ เพียงแค่ทำให้เนื้อสัตว์เปลี่ยนสีเท่านั้น
-เลือกซื้ออาหารที่สดใหม่สะอาด หากเป็นเนื้อสัตว์ต้องสังเกตดูว่ามีตัวอ่อนพยาธิ ซึ่งจะมีลักษณะเป็นเม็ดสาคูปนเปื้อนอยู่หรือไม่ และไม่หยิบอาหารที่ตกบนพื้นแล้วเข้าปากเด็ดขาด
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :
- ดูชัดๆ "ปล้องพยาธิตัวตืด" หลุดจากก้น คลานให้เห็นแบบจะๆ
- แทบอ้วก สาวซื้อไส้หมูจากตลาด กลับได้ของเเถมเป็นพยาธิ
- สาวโพสต์อ้วกแทบพุ่ง เจอพยาธิตัวเป็นๆในไส้หมูเกือบ 10 ตัว (คลิป)
- อย.เตือนพยาธิในน้ำแข็ง อันตราย ที่ไม่ควรมองข้าม ควรเลือกที่มีมาตรฐานก่อนซื้อ