- 12 ก.ค. 2562
ปัจจุบันการดูแลรักษาสุขภาพเป็นเรื่องที่หลายๆคนให้ความสนใจกันเป็นอย่างมาก เพราะเราไม่รู้เลยว่าโรคภัยไข้เจ็บจะเกิดขึ้นเมื่อใดกับใคร และไม่รู้ว่าในแต่ละวันนั้นมีสิ่งใดที่ทำลายสุขภาพไปแล้วบ้าง ดังนั้นในวันนี้เรามีวิธีการดูแลสุขภาพด้วยการกินอาหารเพื่อสุขภาพมาฝาก
ปัจจุบันการดูแลรักษาสุขภาพเป็นเรื่องที่หลายๆคนให้ความสนใจกันเป็นอย่างมาก เพราะเราไม่รู้เลยว่าโรคภัยไข้เจ็บจะเกิดขึ้นเมื่อใดกับใคร และไม่รู้ว่าในแต่ละวันนั้นมีสิ่งใดที่ทำลายสุขภาพไปแล้วบ้าง ดังนั้นในวันนี้เรามีวิธีการดูแลสุขภาพด้วยการกินอาหารเพื่อสุขภาพมาฝาก
1. ปลา ปลาเป็นสัตว์ที่ให้คุณค่าทางโภชนาการสูงและเป็นหนึ่งในอาหารทะเลยอดนิยม เนื่องจากมีโปรตีนที่ดีและอุดมด้วยไขมัน คนที่กำลังลดน้ำหนักหรือไม่อยากเพิ่มไขมันไม่ต้องกังวลใจไป เพราะไขมันในปลานั้นน้อยกว่าไขมันจากสัตว์ชนิดอื่น และปลาบางชนิดยังมีโอเมก้า ทรี (Omega 3) เป็นกรดไขมันมีประโยชน์ช่วยเพิ่มสุขภาพหัวใจและหลอดเลือ
2. ไข่ไก่ ไข่มีครบทั้งโปรตีน สังกะสี วิตามิน A, D, E และ B12 อีกทั้งยังให้พลังงานน้อยนิดเพียง 85 กิโลแคลอรีต่อฟองเท่านั้น เมื่อกินเมนูไข่จึงอิ่มนาน ทำให้ให้กินอาหารได้น้อยในมื้อต่อไป จึงทำให้สาวๆที่นิยมลดความอ้วนมักกินไข่ต้มในตอนเช้านั่นเอง
3. ส้ม เป็นผลไม้ยอดฮิตตลอดกาลมีรสชาติอร่อย และมีประโยชน์มากมาย ส้มเป็นผลไม้ลูกกลมๆสีส้ม มีรสหวานอมเปรี้ยว เป็นผลไม้ตระกูล Citrus และมีหลายสายพันธุ์ เช่น ส้มสายน้ำผึ้ง ส้มเขียวหวาน ส้มจีน ส้มซันคิสต์ เป็นต้น ซึ่งส้มแต่ละสายพันธุ์ก็จะมีรสชาติแตกต่างกันออกไป ส้มมีแร่ธาตุและมีวิตามินสูง ประกอบไปด้วย วิตามินซี วิตามินเอ วิตามินบี วิตามินดี แคลเซียม เกลือแร่ โซเดียม โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก ใยอาหาร เบตาแคโรทีน และคอลลาเจน ส้มนั้นหาซื้อทานได้ง่ายมีให้ทานตลอดทั้งปีและมีราคาไม่แพงอีกด้วย ส้มนั้นมีวิตามินซีสูงซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยต้านโรคภายในร่างกายได้
4. ชา ใบชาทุกประเภทจึงมีส่วนประกอบของโปรตีน วิตามินซี วิตามินบี โพแทสเซียม กรดแอมโมเนีย สารแทนนิน (Tennin) กาเฟอีน สารคาเทชิน โพลีฟีนอล (Catechin polyphenols) และแร่ธาตุอีกหลายชนิดที่ทำให้ร่างกายสดชื่นกระปรี้กระเปร่า และน่าจะลดความเครียด ความดันโลหิต ป้องกันหลอดเลือดตีบตัน ทำให้การไหลเวียนของโรคดีขึ้น ช่วยละลายไขมัน ป้องกันการสะสมไขมันส่วนเกินในร่างกาย ช่วยต้านอนุมูลอิสระ รวมถึงชะลอความแก่ ฯลฯ
5. บร็อคโคลี่ เป็นผักที่มีประโยชน์ มีคุณค่าทางอาหารสูง อุดมไปด้วยเบต้าแคโรทีน (betacarotene) เส้นใยอาหาร วิตามินซี รวมไปถึงสารอาหารต่างๆ อีกหลากหลายชนิด มีสารซัลโฟราเฟน (sulforaphane) ซึ่งเป็นตัวช่วยทำให้ตับขับสารพิษ ส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกัน และยับยั้งการเจริญของเนื้องอก อีกทั้งยังมีคุณสมบัติพิเศษในการต่อต้านมะเร็ง
6. คะน้า มีสารเบต้าแคโรทีนสูง ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งต่างๆ ได้ดี มีวิตามินที่ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อและแคลเซียมที่ดูแลกระดูกให้แข็งแรงด้วย
7. มันเทศ อุดมไปด้วยแหล่งอาหารสำคัญ เช่น คาร์โบไฮเดรต เส้นใยอาหาร วิตามิน เอ วิตามิน ซี แคลเซียม โพแทสเซียม และสารต้านอนุมูลอิสระเบต้าแคโรทีน ทำให้มีความเชื่อว่า มันเทศอาจมีประโยชน์ต่อสุขภาพ และอาจรักษาหรือป้องกันโรคบางชนิดได้
8. ถั่วทุกชนิด จะให้โปรตีนที่สูงและยังเป็นแหล่งของธาตุเหล็ก ซึ่งในถั่ว 1 ถ้วย จะให้ธาตุเหล็กที่สูงถึง 16 มิลลิกรัม และยังมีไฟเบอร์ช่วยระบบขับถ่ายทำงานได้ดีอีกด้วย
9. โยเกิร์ต จะมีสารที่มีประโยชน์เยอะมากไม่ว่าจะเป็น โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส สังกะสี วิตามินบี 12 และโปรตีน ซึ่งเราควรทานโยเกิร์ตให้ได้วันละ 1 ถ้วย ระบบต่างๆในร่างกายจะทำงานได้ดีขึ้น
ในอาหารจะมีสารอาหารหลายประเภทที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย แต่ละประเภทมีประโยชน์แตกต่างกัน หากรับเข้าสู่ร่างกายน้อยหรือมากเกินไป ก็อาจเป็นสาเหตุให้เกิดโรคได้ อย่าลืมว่าหัวใจสำคัญของการกินคือสมดุลของสารอาหาร การกินให้ตรงเวลา และกินในปริมาณที่เหมาะสม ดังนั้น การรับสารอาหารเข้าสู่ร่างกายและคงให้อยู่ในสภาพสมดุลจึงเป็นหนทางที่ดีที่สุดในการทำให้ร่างกายแข็งแรง และเมื่อเรายอมรับว่าอาหารมีอิทธิพลต่อสุขภาพ เราจึงควรเรียนรู้วิธีกินที่เหมาะสมกับเรามากที่สุด
ขอบคุณข้อมูลจาก : www.share-si.com