- 16 ก.ค. 2562
หากพูดถึงโลกของเรา หลายคนคงทราบกันดีว่า ถูกปกคลุมด้วยทะเลถึงประมาณ 70% แผ่นดินต่างๆที่เราว่าใหญ่โต เป็นเพียงส่วนเล็กๆ บนโลกใบนี้เท่านั้นเอง ทำให้เรื่องแปลกๆในทะเล ต่างถูกเล่าขานกันมาให้ได้ไขปริศนากัน แต่ก็ใช่ว่านักสำรวจจะเคยสำรวจทั้งทะเลบนโลก แต่แท้จริงแล้วในทะเลมีพื้นที่อีกมากมาย ที่ไม่เคยมีใครลงไปพิสูจน์ความจริงได้เลย โดยวันนี้เราจะมีเรื่องเล่า ปริศนาที่ยังหาข้อพิสูจน์ไม่ได้เกี่ยวกับทะเลที่ค้นพบ ส่วนจะมีอะไรบ้างลองไปดูกันดีกว่าครับ
หากพูดถึงโลกของเรา หลายคนคงทราบกันดีว่า ถูกปกคลุมด้วยทะเลถึงประมาณ 70% แผ่นดินต่างๆที่เราว่าใหญ่โต เป็นเพียงส่วนเล็กๆ บนโลกใบนี้เท่านั้นเอง ทำให้เรื่องแปลกๆในทะเล ต่างถูกเล่าขานกันมาให้ได้ไขปริศนากัน แต่ก็ใช่ว่านักสำรวจจะเคยสำรวจทั้งทะเลบนโลก แต่แท้จริงแล้วในทะเลมีพื้นที่อีกมากมาย ที่ไม่เคยมีใครลงไปพิสูจน์ความจริงได้เลย โดยวันนี้เราจะมีเรื่องเล่า ปริศนาที่ยังหาข้อพิสูจน์ไม่ได้เกี่ยวกับทะเลที่ค้นพบ ส่วนจะมีอะไรบ้างลองไปดูกันดีกว่าครับ
1. เรือผีสิง
ซึ่งเรื่องนี้ถือว่าโด่งดังมากและยังมีคนจำนวนมากพูดถึง และอยากที่จะหาคำตอบ โดยเมื่อปี 1872 เรือของ Dei Gratia ซึ่งเป็นหนึ่งในนักเดินเรือชื่อดัง ได้พบเห็นเรือเก่าๆเหมือนผ่านพายุทะเลมา ผลุบๆโผล่ๆ อยู่นอกชายฝั่ง จึงได้ออกเรือไปหาเพื่อที่จะได้ให้ความช่วยเหลือเรือลำนั้น
แต่เมื่อไปถึงเรือลำนั้น กลับไม่พบใครบนเรือเลยแม้แต่คนเดียว ทั้งที่บนเรือนั้นยังมีอาหาร และของมีค่าอยู่เป็นจำนวนมาก และบนโต๊ะมีสมุดจนบันทึก พร้อมกับอาหารที่ตั้งอยู่เหมือนพึ่งใส่จานเมื่อไม่นาน แล้วลูกเรือหายไปไหน
เรื่องนี้ได้ถูกบอกต่อจากสายตาหลาย 10 คู่ที่อยู่ในเหตุการณ์สุดแปลก จนคนทั่วไปต่างเรียกเรือลำนี้ว่า "เรือแมรีเซเลสต์" ที่โด่งดังไปทั่วโลก และยังคงเป็นปริศนาจนปัจจุบัน
2. อนุสาวรีย์โยนากุนิ
ถือว่าเป็นเรื่องราวสุดโด่งดังที่ยางจะหาคำตอบอีกเรื่องหนึ่งนั่นคือการค้นพบ พื้นที่ประหลาดใต้ทะเลที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับแผ่นหินยักษ์ และน่าจะมีอายุเก่าแก่มากๆ โดยเรียงตัวกันคล้ายกับหมู่บ้าน เหมือนพื้นที่ใต้น้ำนี้เคยเป็นอารยธรรมหนึ่ง
โดยทางด้านนักวิทยาศาสตร์ ได้สมมุติฐานหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นการเกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติ หรือ มนุษย์สร้างขึ้น โดยทางฝั่งที่มีน้ำหนักอาจจะเป็นการสร้างด้วยฝีมือมนุษย์ เพราะว่า หินเรียงตัวกันเป็นแบบแผนมากเกินกว่าที่จะเป็นธรรมชาติสร้างขึ้น
3. คราเคน
เชื่อว่าหลายคนคงคุ้นชื่อนี้กันเป็นอย่างดี เพราะมีหนังหลายเรื่องนำชื่อนี้ไปใช้ แต่รู้หรือไม่ว่าประวัติของ คราเคน นั้น ในช่วงศตวรรษที่ 12 คือความหน้ากลัวและสยองที่สุดของนักเดินเรือ ไม่กล้าแม้แต่จะพูดชื่อในในเวลาที่แล่นเรือ
โดย คราเคน ถูกเรียกว่าเป็นปีศาจหมึกยักษ์แห่งท้องทะเล มีอายุหลายร้อยปี ตัวมันใหญ่กว่าเรือรบ หรือเรือสินค้าทั้งลำ มันสามารถดึงเรือให้จมน้ำได้ในพริบตา
เรื่องนี้ถูกกระจายความน่ากลัวเป็นครั้งแรกในปี ค.ศ.1555 ซึ่งเป็นบันทึกจากนักเดินเรือทำแผนที่ชาวสวีเดนผู้โด่งดัง เขาได้เล่าว่า คราเคน คือปลาหมึกตัวใหญ่ยักษ์ซึ่งไม่เคยพบเห็นที่ไหนมาก่อน พร้อมทั้งบรรยายรูปร่างของมันอย่างละเอียด จนกลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่าสยองที่สุดในท้องทะเลที่นักเดินเรือต่างหวาดกลัว และกลายเป็นตำนานตลอดจนปัจจุบัน
แต่ในยุคปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์หลายๆกลุ่มต่างเชื่อเหมือนกันว่า คราเคน มีอยู่จริง แต่เป็นเพียงหมึกยักษ์สายพันธุ์ Architeuthis dux หรือไม่ก็ Mesonychoteuthis hamiltoni ซึ่งมีขนาดใหญ่มากๆ แต่เนื่องว่าคนสมัยก่อนอาจจะไม่เคยศึกษาจนทำให้หมึกยักษ์เหล่านี้กลายเป็นปีศาจที่เสริมเติมแต่งขึ้นจนดูน่ากลัวเกินจริงไปไกล
4. ขุมทรัพย์ใต้ทะเล
เรื่องนี้ถือว่าเป็นอีกเรื่องที่โด่งดังมากๆในระดับโลก เรื่องเกิดขึ้นเมื่อปี 1641 เรือสินค้าชื่อ Merchant Royalที่ ขนทองคำหนักกว่า 45,000 กิโลกรัม และแท่งเงินแท้อีก 400 แท่ง ได้จมลงสู่ก้นทะเล หลังจากเจอพายุโหมหนักระหว่างเดินทางกลับจากอังกฤษ ไปประเทศเม็กซิโก
เรือ Merchant Royal ถือว่าเป็นเรือที่มีมูลค่ามหาศาลมากๆ ที่จมสู่ก้นทะเล ทำให้มีคนจำนวนมาก พยายามไปจุดที่เกิดเหตุผลกู้เรือลำนี้ขึ้นมาให้ได้ เพราะถ้าใครทำได้บอกเลยว่าสบายไปทั้งชาติแน่นอน แต่ปัญหาคือ ไม่เคยมีใครทราบจุดเกิดเหตุของ Merchant Royal ที่แน่นอน
ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ก็จะมีแค่แต่ทีมนักล่าสมบัติจากศูนย์โบราณคดีการเดินเรือคอร์นวอลล์ ที่ใกล้เคียงความจริงมากที่สุด เพราะเขาได้อ้างว่าเจอกับ สมอเรือที่คาดว่าจะเป็นของเรือ Merchant Royal ทำให้เกิดการตามหาเรือสมบัติลำนี้อีกครั้ง โดยพึ่งเริ่มต้นหาอย่างจริงจังอีกครั้งเมื่อต้นปี 2019 ที่ผ่านมานี้เอง