- 30 ก.ค. 2562
เนื่องจากหลายคชอบและกำลังสนใจที่จะหาต้นไม้มาเลี้ยงสักตัน แต่มีสถานที่ไม่มาก แคตตัส อาจจะเป็นตัวเลือกที่ดีก๋ว่าได้ แต่บางคนไม่ชอบหนามของต้นไม้ชนิดนี้เลยไม่รู้จะเลี้ยงสายพันธุ์ไหนดี วันนี้เราจึงจะมานำเสนอต้นไม้น่าเลี้ยง ตระกูลแคตตัส แต่ไม่มีหนาม สามารถเลี้ยงในประเทศไทยได้ มีความคงทนสูงมาก และเป็นต้นไม้ที่มีอายุยืนยาว สามารถเพราะพันธุ์ได้ไม่อยาก!!! จะทำให้คุณหลงรักในความน่ารักของต้นไม้ตระกูลนี้!! เพราะเจ้าพวกนี้มีหลากหลายสีสันต์
เนื่องจากหลายคชอบและกำลังสนใจที่จะหาต้นไม้มาเลี้ยงสักตัน แต่มีสถานที่ไม่มาก แคตตัส อาจจะเป็นตัวเลือกที่ดีก๋ว่าได้ แต่บางคนไม่ชอบหนามของต้นไม้ชนิดนี้เลยไม่รู้จะเลี้ยงสายพันธุ์ไหนดี วันนี้เราจึงจะมานำเสนอต้นไม้น่าเลี้ยง ตระกูลแคตตัส แต่ไม่มีหนาม สามารถเลี้ยงในประเทศไทยได้ มีความคงทนสูงมาก และเป็นต้นไม้ที่มีอายุยืนยาว สามารถเพราะพันธุ์ได้ไม่อยาก!!! จะทำให้คุณหลงรักในความน่ารักของต้นไม้ตระกูลนี้!! เพราะเจ้าพวกนี้มีหลากหลายสีสันต์
1.อิชิเวเรีย
ไม้ล้มลุก อายุยาวหลายปี ใบอวบๆมีสีเขียวอมฟ้า ปลายใบจะแหลมๆหน่อย สีแดง ต้องการแสงไม่มาก สามารถขยายพันธุ์ด้วยการปักกิ่ง แยกหน่อ
2.อิชิเวเรียคัลเลอราตา
เป็นพืชที่มีการเจรอญเติกขยายพันธุ์ เพาะเมล็ด ปักชำกิ่งหรือใบ แยกหน่อ ชอบแดดปลานกลาง
3.อิชิเวเรีย 1
ใบแหลม สีเขียวเข้มเจือสีชมพู โคนใบสอบเรียว แผ่นใบสีเขียวเข้มขลิบสีม่วงอมชมพูบนขอบใบเป็นชนิดที่คควรปลูกในกระถางตกแต่งสวน
4.ไลท็อปส์
เจ้าเห็ดน้อย ใบอวบน้ำ โคนใบเชื่อมติดกันคล้ายรูปทรงกระบอกมีเพียง 2 ใบ หน้าตัดด้านบนเป็นรูปไตหรือรูปรี และมีลวดลายริ้วแตกต่างกัน ดูคล้ายก้อนหินเล็ก ๆ ส่วนโคนฝังลึกอยู่ใต้ดิน มีลักษณะคล้ายเห็ด ชอบแสงจัด ขยายพันธุ์ด้วยการแตกหน่อ
การเลี้ยงต้องระวังเรื่อง ชอบอากาศเย็น ไม่ควรรดน้ำให้โดนผิวใบจะทำให้ต้นเน่าตาย โดยเฉพาะเมื่อเริ่มแตกหน่อควรงดให้น้ำเด็ดขาด
5.พอร์ทูลาคาเรียอะฟราด่าง
ใบรูปไข่กลับป้อม ออกตรงข้ามสลับตั้งฉาก ขนาดประมาณ 7 มิลลิเมตร ไม่มีก้านใบ ปลายใบมน โคนใบสอบ แผ่นใบอวบหนา มีสีเขียวที่กึ่งกลางใบ ขอบใบสีขาว
6.ซีดัมรูโบรทิงตั
ใบคล้ายรูปไข่รี ออกตรงข้ามกัน เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 3 มิลลิเมตร ยาว 7 – 8 มิลลิเมตร ไม่มีก้านใบ ปลายใบมน มีสีแดงเรื่อ
7.ฮาเวอร์เทียซิมบิฟอร์มิส
ลำต้นสั้น เจริญเป็นพุ่มกลม เส้นผ่านศูนย์กลาง 4 – 7 เซนติเมตร ใบคล้ายรูปไข่ ออกเวียนรอบต้นเป็นกระจุกแน่น กว้าง 1 – 1.2 เซนติเมตร ยาว 2 – 2.5 เซนติเมตร ปลายใบแหลม แผ่นใบหนาแผ่กางออก สีเขียว มีลายริ้วสีเขียวเข้มพาดราง ๆ ช่อดอกเป็นช่อกระจะ ออกตามซอกใบใกล้ปลายยอด ชูสูง ก้านช่อดอกเรียวเล็ก ดอกสีขาว กลีบดอกเชื่อมติดกันเป็นหลอดเล็ก ๆ
8.ฮาเวอร์เทียคูเพอริทรังคาตา
ลำต้นสั้น เจริญเป็นพุ่มกลม เส้นผ่านศูนย์กลาง 3 – 4 เซนติเมตร ใบรูปช้อน ออกเวียนรอบต้นเป็นกระจุกแน่น กว้าง 5 – 7 มิลลิเมตร ยาว 1 – 1.2 เซนติเมตร แผ่นใบหนาห่องุ้มเข้าหากึ่งกลางใบ สีเขียวเข้ม ปลายใบมนใส มีลายริ้วสีเขียวเข้มพาดตามความยาวใบ ช่อดอกเป็นช่อกระจะ ออกตามซอกใบใกล้ปลายยอด ชูสูง ก้านช่อดอกเรียวเล็ก ดอกสีขาว กลีบดอกเชื่อมติดกันเป็นหลอดเล็ก ๆ
9.คอร์พุสคูลาเรียเลห์มานนิอาย
ลำต้นทอดเลื้อยสีแดง ใบรูปไข่ แผ่นใบหนา ออกตรงข้ามสลับตั้งฉาก กว้าง 1.5 เซนติเมตร ยาว 1.2 – 2.5 เซนติเมตร หนา 1.5 – 2 เซนติเมตร ข้อใบห่างกันยาวประมาณ 2.5 เซนติเมตร ผิวใบเรียบสีเทาถึงสีเขียวอมเทา
10. เจ้า ต้นหูกระต่าย (Monilaria obconica)
ที่มีรูปลักษณ์ฉีกแนวออกไปจากพืชบวมน้ำสายพันธุ์อื่นๆ เพราะเมื่อมันแตกหน่อเป็นต้นกล้า จะมีหน้าตาเหมือนหูกระต่ายสุดคิ้วท์ และเมื่อโตขึ้น ยอดใบอ่อนก็จะแตกตัวยาวขึ้นไปเรื่อยๆ จนแยกออกจากกัน คล้ายหูยาวๆ ของกระต่ายตัวการ์ตูน บั๊ก บันนี่ นั่นเองค่ะ ซึ่งเมื่อส่องกระทบกับแสงแดดมันจะกลายเป็นสีแดง
ขอบคุณแหล่งข้อมูลจาก : baanlaesuan