- 23 พ.ค. 2563
เผยประโยชน์ของปลาทูไทย โอเมก้า 3 สูงมาก ปรุงเป็นอาหารได้มากมายหลายเมนู
ปลาทูนับเป็นปลาที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในอาหารไทย มีการนำปลาทูมาปรุงเป็นอาหารมาช้านานแล้ว ทั้งนึ่ง, ทอด, ต้มยำ หรือทำน้ำพริกปลาทูซึ่งใช้เนื้อปลาทูโขลกผสมรวมกับกะปิ ในตลาดสดของไทยจะมีขายทั้งปลาทูนึ่งใส่เข่งและปลาทูสด เนื้อปลาทูมีคุณค่าทางอาหารมากมาย ทั้งกรดไลโนเลอิก ซึ่งเป็นตัวควบคุมระดับคอเลสเทอรอล และไตรกลีเซอไรด์ในกระแสเลือด และกรดโคโคซาเฮ็กชิโนอิก (ดีเอชเอ) ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของเซลล์สมอง
ขณะที่เรา ๆ นั้นเอะอะ อะไรก็ปลาแซลมอน กันไปหมด จนลืม ปลาทูไทย ที่โด่งดังอยู่ในอ่าวไทย อร่อยที่สุด โดยเฉพาะหน้างอคอหักแถวแม่กลอง ราคาก็ถูกกว่าแซลมอนหลายบาท โอเมก้า 3 ก็เยอะมาก โดยเนื้อปลาทู 100 กรัม จะให้โอเมก้า 3 ประมาณ 2-3 กรัม ซึ่งเพียงพอที่ร่างกายต้องการ
เราเอาปลาทูราคาถูกมากคุณค่านี้มาทำปลาทูนึ่งทอดรับประทานกับน้ำพริก ต้มยำปลาทู เมี่ยงปลาทู ปลาทูทอดขมิ้น ฉู่ฉี่ปลาทู เยอะแยะได้อีกหลายเมนู แล้วยังมากมายด้วยคุณค่าอีกด้วย เพียงแต่บางเมนูจะทำลายโอเมก้า 3 ไปมากด้วยความร้อนสูง เราจึงต้องเลือกกันหน่อยว่าจะนำปลาทูมาทำเมนูอะไรรับประทานกันดีเพื่อให้ได้โอเมก้า 3 กันเต็ม ๆ
เมนูอาหารที่ไม่ทำลายโอเมก้า 3
1. ปลาทูทอด
การทอดปลาทูในน้ำมันจะทำให้โอเมก้า 3 ถูกทำลาย ละลายหายไปอยู่ในน้ำมัน ดังนั้นจึงอาจทอดปลาทูด้วยไฟกลางในน้ำมันแบบแค่พอเปื้อนกะทะเพื่อให้น้ำมันร้อน ๆ ทำให้หนังปลาทูพองเหลืองน่ารับประทาน
2.ต้มยำปลาทูสด
เป็นเมนูที่นอกจากจะได้คุณค่าของปลาทูแล้ว ยังได้ซดน้ำที่อุดมไปด้วยคุณค่าจากสมุนไพร เช่นตะไคร้ ข่า หอมแดง ใบมะกรูด ผักชีฝรั่ง น้ำมะขามเปียก น้ำมะนาว และพริกขี้หนู แบบนี้คุณค่าเต็มเปี่ยมไม่ไปไหนแน่
3. เมี่ยงปลาทู
เป็นเมนูโอเมก้า+สมุนไพร ที่อร่อยเต็มคำ เต็มคุณค่า
4. ยำปลาทู-ขนมจีน
เป็นเมนูแนะนำ ที่อิ่มแบบไม่ต้องมีข้าวสวย แล้วโอเมก้า 3 ยังไม่ถูกทำลายด้วยความร้อนสูงอีกด้วย เพราะเราจะใช้ปลาทูนึ่ง มาแกะเนื้อยำกับสารพัดสมุนไพรอย่างตะไคร้ ผักชีฝรั่ง หอมแดง บีบมะนาว น้ำปลา แล้วคลุกเข้ากับขนมจีน เติมน้ำปลาและมะนาว พริกขี้หนูซอยเพิ่มให้ได้รสยิ่งขึ้น
สารอาหารในปลาทู
1. วิตามินดี
ช่วยในการดูดซึมแคลเซียมและฟอสฟอรัส เพื่อไปซ่อมแซมกระดูกและฟัน รักษาระบบประสาท การทำงานของหัวใจ
2. ไอโอดีน
ส่วนประกอบสำคัญของฮอร์โมน ทำควบคุมการทำงานของร่างกายให้เจริญเติบโตอย่างปกติ
3. กรดอะมิโนโปรตีน
ที่จำเป็นต่อร่างกายสูงกว่าปลาชนิดอื่น โดยเฉพาะ”ไลซีน” ที่ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ กระดูก เส้นเอ็น และข้อ ส่วน “ทรีโอนิน” ซึ่งจำเป็นต่อความเจริญเติบโตในวัยเด็ก
4. โอเมก้า 3
พระเอกของเรื่องตามเคย เพราะประโยชน์จาก โอเมก้า 3 ต่อร่างกายนั้นมากมาย เช่นช่วยป้องกันโรคอัลไซเมอร์ เนื่องจาก ช่วยป้องกันการเกิดก้อนไขมันในสมอง ช่วยลดภาวะการอักเสบของร่างกาย ช่วยเพิ่มศักยภาพการเรียนรู้ เพิ่มสมาธิ ความจำ และปรับสมดุลอารมณ์
ข้อควรระวัง
" หญิงมีครรภ์ไม่ควรรับประทานปลาทู รวมถึงปลาและสัตว์น้ำประเภทอื่นมากจนเกินไป เพราะเป็นอันตรายต่อพัฒนาการสมองของเด็กในครรภ์ โดยสาร เมธิลเมอคิวรี่ ซึ่งเกิดจากน้ำเสียที่ถูกปล่อยจากโรงงานอาจปนเปื้อนในตัวปลา "
ใกล้จะเข้าสู่หน้าหนาวในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าแล้ว หลาย ๆ คนคงจะทราบกันดีว่า ปลาทูอร่อยต้องเป็นปลาทูในช่วงเดือน 8-11 โดยเฉพาะปลาทูแม่กลอง เพราะเป็นช่วงน้ำหลาก ทำให้ระบบนิเวศน์สามน้ำนำความสมบูรณ์มาเป็นอาหารของปลา จึงทำให้ปลาทูที่จับได้ในช่วงเดือนนี้มีเนื้ออร่อยที่สุด แต่ถึงยังไง เราก็ยังควรรับประทานปลาทูกันตลอดทั้งปีด้วย ไม่จำเป็นต้องรอรับประทานเฉพาะช่วงอร่อยเท่านั้น เพื่อสุขภาพร่างกายและสุขภาพสมองด้วย