สุดเหงาจับหัวใจ น้องหมาจร แอบยืนดูหมาอีกตัว เล่นกับเจ้าของในบ้าน

สุดเหงาจับหัวใจ น้องหมาจร แอบยืนดูหมาอีกตัว เล่นกับเจ้าของในบ้าน เรียกได้ว่าเป็นภาพที่สื่อความหมายได้สุดเหงา กับภาพของน้องหมาตัวหนึ่งที่ยืนอยู่นอกรั่วประตูบ้าน มองเข้ามาดูหมาอีกตัวเล่นกับเจ้าของบ้าน อย่างสนุกสนาน สายตาน้องที่มองนั้นเหมือนนึกถึงใครที่เขาเคยได้เล่นด้วย หรือ สื่อว่า เขาอยากมีเพื่อนเล่นเหมือน เจ้าหมาตัวที่อยู่ข้างในนั้น ชาวเน็ตเห็นแล้วต่างพากันสงสาร

สุดเหงาจับหัวใจ น้องหมาจร แอบยืนดูหมาอีกตัว เล่นกับเจ้าของในบ้าน เรียกได้ว่าเป็นภาพที่สื่อความหมายได้สุดเหงา กับภาพของน้องหมาตัวหนึ่งที่ยืนอยู่นอกรั่วประตูบ้าน มองเข้ามาดูหมาอีกตัวเล่นกับเจ้าของบ้าน อย่างสนุกสนาน สายตาน้องที่มองนั้นเหมือนนึกถึงใครที่เขาเคยได้เล่นด้วย หรือ สื่อว่า เขาอยากมีเพื่อนเล่นเหมือน เจ้าหมาตัวที่อยู่ข้างในนั้น ชาวเน็ตเห็นแล้วต่างพากันสงสาร
 

สุดเหงาจับหัวใจ น้องหมาจร แอบยืนดูหมาอีกตัว เล่นกับเจ้าของในบ้าน

เป็นอีกหนึ่งภาพที่เป็นภาพที่สื่อความรู้สึกของคนที่เลี้ยงหมา หรือคนที่เห็นได้เป็นอย่างมาก น้องอาจจะคิดถึงเจ้าของที่เคยอยู่ด้วย ก่อนที่จะมาเป็นหมาจร หรือ น้องอาจจะอยากได้ความรักความอบอุ่น เพื่อนหมาตัวที่อยู่ในนั้น.

 

สุดเหงาจับหัวใจ น้องหมาจร แอบยืนดูหมาอีกตัว เล่นกับเจ้าของในบ้าน

 

ต้องบอกเลยว่าความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับหมานั้นถูกฝังลึกในด้านโบราณคดีและหลักฐานที่ตรงกันชี้ให้เห็นช่วงเวลาของการทำให้หมาเชื่องในยุคหินใหม่ ใกล้ ๆ กับขอบเขตของช่วงเพลสโตซีนและโฮโลซีน ในระหว่าง 17,000 - 14,000 ปีมาแล้ว 
 

สุดเหงาจับหัวใจ น้องหมาจร แอบยืนดูหมาอีกตัว เล่นกับเจ้าของในบ้าน

ซากกระดูกฟอสซิลและการวิเคราะห์ยีนของหมาในยุคอดีตกับปัจจุบัน และประชากรหมาป่ายังไม่ถูกค้นพบ หมาทั้งหมดสืบอายุอาจเกิดจากเหตุการณ์ที่ทำให้เชื่องด้วยตัวเองหรือไม่ก็ได้ถูกทำให้เชื่องด้วยตัวมันเองในพื้นที่มากกว่าหนึ่งพื้นที่ หมาที่ถูกเลี้ยงให้เชื่องแล้วอาจจะผสมข้ามพันธุ์กับประชากรหมาป่าที่อยู่ในถิ่นนั้น ๆ ในหลาย ๆ โอกาส กระบวนการนี้รู้จักในทางทางพันธุศาสตร์ว่า อินโทรเกรสชัน (Introgression)
 

สุดเหงาจับหัวใจ น้องหมาจร แอบยืนดูหมาอีกตัว เล่นกับเจ้าของในบ้าน