- 22 ก.ย. 2563
ข้าวเหนียวถือว่าเป็นที่นิยมในทั่วทุกภาค ไม่เพียงแต่ประเทศไทยเท่านั้นที่นิยมทานข้าวเหนียว ต่างประเทศเองในแถบประเทศเพื่อนบ้านเราก็นิยมทานเช่นเดียวกัน แต่ใครจะรู้ว่าวิธีการนึ่งข้าวเหนียวนั้นยุ่งยากกว่าการหุงข้าวทั่วไปซะอีก เพราะว่าหากทำอย่างไม่พิถีพิถันแล้วละก็เดาได้เลยว่า ไม่แข็งเกินไป ก็แฉะเกินไป แถมโดนลมนิดหน่อยก็ปาหัวแตกได้แล้ว
ข้าวเหนียวถือว่าเป็นที่นิยมในทั่วทุกภาค ไม่เพียงแต่ประเทศไทยเท่านั้นที่นิยมทานข้าวเหนียว ต่างประเทศเองในแถบประเทศเพื่อนบ้านเราก็นิยมทานเช่นเดียวกัน แต่ใครจะรู้ว่าวิธีการนึ่งข้าวเหนียวนั้นยุ่งยากกว่าการหุงข้าวทั่วไปซะอีก เพราะว่าหากทำอย่างไม่พิถีพิถันแล้วละก็เดาได้เลยว่า ไม่แข็งเกินไป ก็แฉะเกินไป แถมโดนลมนิดหน่อยก็ปาหัวแตกได้แล้ว
เทคนิคง่ายๆ ที่จะเปลี่ยนข้าวเหนียวแข็งๆ มาเป็นข้าวเหนียวนุ่มๆ กินกี่ทีก็ยังคงความอร่อย ถ้าได้หมูฝอย หรือไก่ทอดสักชิ้น พร้อมส้มตำนี่ ไม่ต้องพูดถึงกันเลยทีเดียว ว่าจะมีความอร่อยมากแค่ไหน จะมีวิธีทำอย่างไรบ้าง ลองมาดูกันเลย
ขั้นตอนที่ 1. นำข้าวเหนียวเก่า แช่น้ำนาน ประมาณ 6 ชม. ส่วนข้าวเหนียวใหม่แช่น้ำนาน 3 ชม.
ขั้นตอนที่ 2. แช่เสร็จแล้วอย่าเอาน้ำแช่ข้าวทิ้งเด็ดขาดสำคัญมาก น้ำแช่ข้านี้เรียกว่า “น้ำหม่า” เก็บใส่ชามแช่ตู้เย็นไว้ ( น้ำหม่า อันนี้เรียกว่าหัวเชื้อเอาไว้แช่ข้าวในวันต่อไป บางเคล็ดลับโบราณที่ว่า คือจะนำเอาน้ำหม่าที่ว่าเป็นหัวเชื้อ เทเติมตอนแช่ข้าวในวันต่อๆไป 1 ถ้วย และอีก 1 ถ้วย เอามาพรมข้าวเหนียวที่กำลังนึ่งในหวดที่ใกล้จะสุกนั่นเอง )
ขั้นตอนที่ 3. หลังจากแช่ข้าวเหนียวเสร็จแล้วก็นำมาใส่หวดนึ่งปกติ
ขั้นตอนที่ 4. พอข้าวใกล้จะสุกแล้วนำน้ำหม่าที่เก็บไว้ในตู้เย็นมาพรมๆปริมาณ 1/3 ถ้วย แล้วใช้ไม้พายคนจากด้านล่างขึ้นบนทั่วๆ เบาๆ หรือจะทำวิธีแบบโบราณก็ได้คือกระดกหวดสัก 2-3 ครั้ง ให้ข้าวเหนียวในหวดผสมกันให้หมดและนึ่งต่อ
ขั้นตอนที่ 5. ทำแบบข้อที่ 4 ไปทั้งหมด 3 ครั้ง โดยกะปริมาณน้ำหม่าให้พอสำหรับ 3 ครั้ง และรอข้าวเหนียวสุกได้ที่
ขั้นตอนที่ 6. หลังจากสุกแล้ว ยกลงจากเตาห้ามเปิดฝาอย่างน้อย 15 นาที หลังจากนั้นก็จัดเก็บข้าวเหนียวตามปกติ