- 11 ก.พ. 2559
ติดตามข่าวสารที่ www.tnews.co.th
ย้อนเกล็ดด้วยข้อกฎหมายแบบตรง ๆ...และจำเป็นอย่างยิ่งที่เจ้าคุณผู้สูงศักดิ์ทั้งหลายควรสำเหนียก เมื่ออดีตผู้พิพากษาฯ โพสต์เฟซบุ๊กตั้งคำถามเปรียบ"ธัมมชโย" เทียบพระข่มขืนผู้หญิงแต่เหยื่อยอมความก่อน-ศาลจึงจำหน่ายคดีไม่ตัดสิน แต่ความชั่วช้าเกิดขึ้นจริง แบบนี้ในทางธรรมพระรูปนั้นปาราชิกขาดจากความเป็นพระหรือไม่ ??
วันนี้ (11 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในโลกออนไลน์ นายชูชาติ ศรีแสง อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว "Chuchart Srisaeng" โดยระบุรายละเอียด ดังนี้
"พระภิกษุรูปหนึ่งข่มขืนกระทำชำเราผู้หญิงคนหนึ่งอันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 276 วรรคแรก ซึ่งมีโทษจำคุกตั้งแต่ 4 ปี ถึง 10 ปี มาตรา 281 บัญญัติว่า ความผิดตามมาตรา 276 วรรคแรก ถ้ามิได้เกิดต่อหน้าธารกำนัล ไม่เป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำได้รับอันตรายสาหัสหรือถึงแก่ความตาย หรือมิได้เป็นการต่อกระทำแก่บุคคลดังที่ระบุไว้ในมาตรา 285 เป็นความผิดอันยอมความได้ การข่มขืนกระทำชำเราที่เกิดขึ้นเข้าข่ายตามมาตรา 281 จึงเป็นความผิดอันยอมความได้
ภิกษุรูปนั้นถูกฟ้องเป็นจำเลยต่อศาลในข้อหาข่มขืนกระทำชำเราดังกล่าว ในระหว่างการพิจารณาคดีของศาล ผู้หญิงที่ถูกข่มขืนซึ่งเป็นผู้เสียหายแถลงต่อศาลว่า ไม่ติดใจให้ดำเนินคดีแก่พระภิกษุรูปนั้นอีกต่อไปและขอถอนคำร้องทุกข์ เนื่องจากเป็นความผิดอันยอมความได้ เมื่อผู้เสียหายได้ขอถอนคำร้องทุกข์ สิทธินำคดีอาญามาฟ้องย่อมระงับไป ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39 (2) ศาลต้องจำหน่ายคดีดังกล่าวออกจากสารบบความ พระภิกษุจำเลยจึงไม่ถูกศาลลงโทษ แต่ไม่ได้หมายความจำเลยหรือพระภิกษุรูปนั้น ไม่มีความผิดฐานข่มขืนกระทำชำเราที่เป็นการร่วมประเวณีกับหญิงผู้เสียหาย
กรณีเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายที่เอาที่ดินของวัดมาใส่ชื่อตนเองในโฉนดที่ดินเป็นผลให้ที่ดินก็ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของตนเองอันเป็นความผิดฐานยักยอกตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 252 ซึ่งเป็นความผิดอันยอมความได้ และได้ถูกฟ้องเป็นจำเลยต่อศาลในข้อหายักยอก แม้ต่อมาได้โอนคืนที่ดินให้แก่วัดและพนักงานอัยการโจทก์ขอถอนฟ้องคดีไปจากศาล แต่ความผิดฐานยักยอกทรัพย์ที่ครบองค์ประกอบความผิดโดยสมบูรณ์แล้ว ก็ยังคงเป็นความผิดอยู่
ขอถามผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายว่า การที่พระภิกษุได้ร่วมประเวณีกับผู้หญิงแม้ไม่ถูกศาลลงโทษในข้อหาข่มขืนกระทำชำเรา พระภิกษุรูปนั้นต้องอาบัติปราชิกและต้องขาดจากความเป็นพระภิกษุหรือไม่ ถ้าพระภิกษุรูปดังกล่าวต้องอาบัติปราชิกและต้องขาดจากความเป็นพระภิกษุ เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายก็ต้องอาบัติปราชิกและต้องขาดความเป็นพระภิกษุเช่นเดียวกัน ครับ"
ภาพจาก : เฟซบุ๊ก "Chuchart Srisaeng" , ไทยโพสต์