- 28 มิ.ย. 2560
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
วันที่ 28 มิถุนายน 2560 ที่ร้าน I-Tim โบราณบุฟเฟ่ต์เครื่องเคียง อยู่เลขที่ 7/2 ถ.เจิมปัญญา ต.ทับเที่ยง อ.เมือง จ.ตรัง หนุ่มวัย 27 ปี อดีตพนักงานบริษัทส่งออกเครื่องประดับต่างประเทศ ผันตัวทำธุรกิจส่วนตัว เปิดร้าน I-Tim โบราณบุฟเฟ่ต์เครื่องเคียงมีมากกว่า 20 อย่าง อาทิ ข้าวโพด ขนมปัง วุ้นมะพร้าว ลูกจาก ข้าวเหนียว ฟักทอง ลูกเดือย ฯลฯเติมได้ไม่อั้น พร้อมกับไอศกรีมมีถึง 16 รสชาติให้เลือก อาทิเช่น รสกะทิ รสสตรอเบอร์รี่ รสเสาวรส รสมะนาว รสรวมมิตร รสทุเรียน ฯลฯ พร้อมกับภาชนะที่ใส่ไอติมทำจากกะลาเก๋หรู เป็นภาชนะที่ใช้วัสดุจากธรรมชาติ
ทั้งนี้ร้านไอติมดังกล่าวได้เปิดแค่เพียง 4 วันเท่านั้น แต่ผลตอบรับเกินคาด รายได้วันละไม่ต่ำกว่า 13,000 บาท ต่อวัน ไอศกรีมขายหมดทุกรสใช้ไอศกรีมต่อวันละ 120 กิโลกรัมไม่พอต่อจำนวนลูกค้าที่เข้าร้าน แถมยังต้องทำบัตรคิวรับจองโต๊ะทางสื่อโซเซียลเพื่อจะมานั่งทานไอติมโบราณกันเลยทีเดียว และทางร้านมีโปรโมชั่นลด 10% สำหรับลูกค้าที่เช็คอินและเจอเพจร้านแล้วตามมานั่งทานไอติมโบราณบุฟเฟ่ต์อีกด้วย
ด้านนายวีรธรรม อ่อนรู้ที่ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 134 ม.8 ต.ท่าสะบ้า อ.วังวิเศษ จ.ตรัง กล่าวว่า ตนเคยทำงานเป็นพนักงานบริษัทส่งออกเครื่องประดับต่างประเทศอยู่ที่กรุงเทพฯ ได้ตัดสินใจลาออกจากงานเพื่อกลับมาอยู่กับครอบครัวที่จังหวัดตรัง ไอศกรีมมีทั้งหมด 16 รสชาติ ท็อปปิ้งมี 25 อย่าง จุดเด่นของร้านรสชาติไอศกรีม จะมีรสกะทิ รสรวมมิตร รสวนิลลา รสสตรอเบอร์รี่ ที่มีรสชาติหวานหอมกลมกล่อม ยอดขายต่อวัน ไอศกรีม 150 กิโลกรัมจะหมดก่อนเวลาปิดร้าน เนื่องจากร้านจะเปิดตั้งแต่เวลา 10.00 น.- 20.00 น. แต่ 18.00 น.ของก็หมดร้านแล้ว ส่วนภาชนะที่ใส่ไอศกรีมจะเป็นกะลามะพร้าวที่ทำจากธรรมชาติ ซึ่งตอนนี้ภายในร้านจะมีทั้งหมด 9 โต๊ะ และคิดว่าจะมีการเพิ่มโต๊ะแต่กลัวลูกค้าอึดอัด เพราะลูกค้าบางท่านมารอคิวเป็นชั่วโมงก็ไม่ได้ทาน เพราะของสินค้าหมดก่อน หากพวกท็อปปิ้งเครื่องเคียงหมด ทางร้านก็จะไม่ขายหากมีแค่ 10 อย่างเมื่อท็อปปิ้งของขาด และท็อปปิ้งเราจะทำเองวันต่อวันและเป็นของสดหมดเลยและจะไม่มีไว้ค้างคืนเพราะอยากให้ลูกค้าทานของสด ส่วนรายได้ต่อวันประมาณ 13,000 บาท ซึ่งทางร้านเพิ่งเปิดได้ประมาณ 4 วัน แต่ได้ผลตอบรับดีมากจากสื่อโซเซียล ในตอนนี้ทางร้านมีโปรโมชั่นหากลูกค้าเช็คอินร้านและเจอร้านในเฟสบุ๊คก็จะลดให้ถึง 10% โดยกลุ่มลูกค้าที่มาทานส่วนใหญ่ก็จะมาจากสื่อโซเซียล มีทั้งกลุ่มนักศึกษา นักเรียน กลุ่มวัยคนทำงานแพทย์ หมอ พยาบาล และมาเป็นครอบครัวมานั่งทานไอติมโบราณอีกด้วย
ด้านลูกค้าที่มานั่งทานไอติมโบราณบุฟเฟ่ต์เครื่องเคียง กล่าวว่า ที่ตนได้มานั่งทานร้านนี้เพราะเห็นใน Facebook เลยตามมาทานดู และตอนนี้มาทานที่ร้านนี้เป็นครั้งที่สอง เมื่อวานคนแน่นร้านมากในช่วงบ่าย วันนี้เลยลองมาช่วงเช้าๆคนจะได้ไม่เยอะ สำหรับในเรื่องของรสชาติซึ่งตนกับเพื่อนเคยคิดว่าไอติมโบราณคงคล้ายกับรสชาติที่เป็นแบบรถเข็นที่เขามาขายทั่วไป ตอนแรกก็ไม่ได้อยากมากินเท่าไหร่ ส่วนใหญ่จะไปกินสเว่นเซ้นส์มากกว่า แต่พอได้ลองมากิน รสชาติไม่ได้ออกหวานเกินไป ออกกลิ่นผลไม้ กลมกล่อมหอมหวาน อร่อย เช่นรสมะม่วง รสสตรอเบอร์รี่บางร้านจะหวานมาก แต่ไอติมร้านนี้พอกินไปแล้วรู้สึกได้ถึงกลิ่นของสตรอเบอร์รี่ รสชาติแตกต่างกันออกไปและหลากหลายมาก ซึ่งตนเองจะชอบรสมะม่วงกับรสกีวี และในเรื่องของราคา 49 บาท ตนคิดว่าเหมือนเป็นราคาทั่วไปที่สามารถจับจ่ายได้ตั้งแต่ราคานักเรียน และเด็กก็สามารถมาทานได้ทุกวัน ราคาไม่ได้สูงมาก เพราะส่วนใหญ่ที่มานั่งกินสังเกตเห็นได้ว่าลูกค้าคนอื่นๆก็จะสั่งหลายๆถ้วย เพื่อที่จะลิ้มลองรสชาติใหม่ๆกัน
ภาพ/ข่าว สุนิภา หนองตรุด ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จ.ตรัง