- 05 ก.ค. 2560
เจ้าพนักงานในระดับพื้นที่และเป็นผู้บริหารในสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ซึ่งได้เร่งรัดให้สอบสวนอยู่ตลอด เพราะเป็นคดีที่สังคมให้ความสนใจ ขณะที่ใน จ.สมุ
จากกรณีจากวัด 12 แห่ง ที่มีชื่อถูกพาดพิงเรื่องทุจริตเงินทอนแล้ว วัดในภาคใต้อีกหลายแห่ง ก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เช่นกัน เริ่มกันที่วัดยูปาราม หรือ วัดยุโป ตำบลยุโป อำเภอเมืองยะลา ที่เมื่อปี 2558 มีโครงการสร้างหอระฆัง และได้ขอ-งบประมาณจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ หรือ พศ.จังหวัดสงขลา จำนวน 3 ล้านบาท เป็นทุนก่อสร้าง
แต่พบว่ามีเงินถูกโอนเข้ามา 4 ล้านบาท ซึ่งต่อมา ผู้อำนวยการ พศ.จังหวัดสงขลา ถูกดำเนินคดี ข้อหาเรียกรับเงินตอบแทนเพื่อผลประโยชน์วัด จากนั้น พศ.จึงเรียกเงินคืนทั้งหมด เช่นเดียวกับวัดคงคาสวัสดิ์ อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา ที่ได้รับเงินอุดหนุนงบประมาณบูรณะและปฏิสังขรณ์วัด จาก พศ.เพื่อสร้างโรงทาน เมื่อปี 2558 จำนวน 2 ครั้ง โดยครั้งแรก ได้รับเงินอุดหนุน 8 แสนบาท และถูก พศ.เรียกคืน 6 แสนบาท ส่วนครั้งที่ 2 ได้รับเงินอุดหนุน 3 ล้านบาท และถูกเรียกคืน 2 ล้าน 2 แสนบาท
ด้านนายศรชัย ชูวิเชียร ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ จังหวัดสงขลา เผยว่า เตรียมสรุปสำนวนคดี สั่งฟ้องนายเสถียร ดำรงคดีราษฎร์ อดีตผู้อำนวยการ พศ.จังหวัดสงขลา คดีเรียกรับเงิน 3 ล้าน 2 แสนบาท จากวัดในจังหวัดนราธิวาส เมื่อปี 2558 อีกครั้ง หลังอัยการสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหา โดยอ้างว่าพยานหลักฐานไม่เพียงพอ และขณะนี้ สำนวนใกล้สมบูณณ์ หลังสอบพยานเพิ่มเติมกว่า 50 ปาก
ล่าสุด วันที่ (5 ก.ค.60) พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานป.ป.ช.กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบทุจริตเงินทอนวัดใน จ.สงขลาว่า มีการแจ้งข้อกล่าวหาไปแล้ว โดยเป็นเจ้าพนักงานในระดับพื้นที่และเป็นผู้บริหารในสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ซึ่งได้เร่งรัดให้สอบสวนอยู่ตลอด เพราะเป็นคดีที่สังคมให้ความสนใจ ขณะที่ใน จ.สมุทรปราการยังมีประเด็นที่ยังไม่ชัดเจน 7-8 เรื่อง จึงอยู่ระหว่างการพิจารณา
ชมคลิป กรุณารอสักครู่