ไม่สนยางพารา-ปาล์มตกต่ำ!!ชาวสวนยางพารา ได้เฮ เลี้ยงกบเนื้อเสริม หลังราคายางพารา-ปาล์มตกต่ำ แต่สร้างรายได้ดีจับเงินล้านมาแล้ว

ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

วันที่ 8 ส.ค.60 ผู้สื่อข่าวได้ติดตามทำข่าว เกษตรกรหนีปัญหาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ หันมาเลี้ยงกบเนื้อ สร้างรายได้อย่างงาม โดยนายสนอง แก้วประภาค นายกองค์การบริหารส่วนตำบลนาพรุ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ชาวบ้านในตำบลนาพรุ ซึ่งส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทำการเกษตร สวนยางพารา สวนปาล์ม สวนผลไม้ แต่ประสบปัญหาเรื่องผลผลิตราคาตกต่ำ ดังนั้นแก้ปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้าน ทาง อบต.นาพรุ อ.พรพรหม จ.นครศรีธรรมราช จึงจัดโครงการส่งเสริมอาชีพสร้างรายได้เสริมให้กับชาวบ้าน โดยส่งเสริมการเลี้ยงกบเนื้อ

 

ไม่สนยางพารา-ปาล์มตกต่ำ!!ชาวสวนยางพารา ได้เฮ เลี้ยงกบเนื้อเสริม หลังราคายางพารา-ปาล์มตกต่ำ แต่สร้างรายได้ดีจับเงินล้านมาแล้ว

โดยทาง อบต.นาพรุ สนับสนุนพันธุ์กบ อาหารและฝึกอบรมการเลี้ยงกบ ส่วนกบที่นำมาให้ชาวบ้านเลี้ยง ทาง อบต.นำพันธ์กบนา เป็นกบพันธุ์พื้นบ้าน ต.นาพรุ มาผสมพันธุ์กับกบพันธ์เนื้อต่างประเทศ เพื่อให้มีขนาดใหญ่ เจริญเติบโตดี แข็งแรง และทนต่อโรค ที่สำคัญเป็นที่ต้องการของตลาด พร้อมมีการตั้งชื่อว่า “ กบนา นาพรุ “ จากนั้นนำแจกจ่ายให้ชาวบ้านที่ต้องการเลี้ยงกบเนื้อ เป็นอาชีพเสริม ในช่วงแรกมีชาวบ้านไม่กี่หลังคาเรือนสนใจนำกบไปเลี้ยง แต่ปัจจุบันได้มีชาวบ้านให้ความสนใจเลี้ยงกบเนื้อเพิ่มขึ้นเกือบ 100 ครัวเรือน ประกอบด้วยชาวบ้านหมู่ 4 และ หมู่ 7 รวมพื้นที่เลี้ยง 94 ฟาร์ม ผลผลิตเฉลี่ยแต่ละปี 1000 ตัน หรือ1 ล้านกิโลกรัม ที่ผ่านมาสร้างรายได้ให้ชาวบ้านตำบลนาพรุ เฉลี่ยปีละ 40 – 50 ล้านบาท หรือครัวเรือนละประมาณ  500,000 -  1 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับปริมาณการเลี้ยงกบของชาวบ้านแต่ละครัวเรือน โดยกบที่ชาวบ้านเลี้ยงจะมีพ่อค้ามารับซื้อถึงบ้านกิโลกรัมละ 50 – 55 บาท เพื่อส่งขายต่างประเทศ เช่น ประเทศมาเลเซีย อินโดนิเซีย จีน ไต้หวัน สิงค์โปร์ และญี่ปุ่น ทำให้ปัจจุบันอาชีพเสริมการเลี้ยงกบเนื้อส่งออก ถือเป็นทางออกในการแก้ปัญหาความยากจนให้ชาวบ้านในพื้นที่อย่างยั่งยืน

ไม่สนยางพารา-ปาล์มตกต่ำ!!ชาวสวนยางพารา ได้เฮ เลี้ยงกบเนื้อเสริม หลังราคายางพารา-ปาล์มตกต่ำ แต่สร้างรายได้ดีจับเงินล้านมาแล้ว

ด้านนายโสภณ จันทรสุวรรณ อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 23 หมู่ 4 ต.นาพรุ อ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช กล่าว่า ตนมีอาชีพหลักทำสวนผลไม้ตามฤดูกาล เช่น มังคุด ทุเรียน เงาะ แต่จากปัญหาราคาผลผลิตตกต่ำ ตนจึงหันมาเลี้ยงกบเนื้อขายเป็นอาชีพเสริมสร้างรายได้ให้ครอบครัว โดยสร้างบ่อเลี้ยงกบบริเวณหลังบ้านจำนวน 18 บ่อ เลี้ยงจำนวน 2 รุ่น ปริมาณกบที่จับขายแต่ละรุ่นเฉลี่ย 11- 12 ตัน และใช้เวลาเลี้ยงประมาณ 3 – 4 เดือนต่อรุ่นกบ เมื่อถึงกำหนดจับกบขายจะมีพ่อค้ามารับซื้อถึงบ้าน เฉลี่ยกิโลกรัมละ 50 – 55 บาท ต่อกิโลกรัม หรือขายได้เฉลี่ยรุ่นละประมาณ 500,000 – 600,000 บาท  จนปัจจุบันนี้ตนหันมาเลี้ยงกบเป็นอาชีพหลักเลี้ยงดูครอบครัว     

 

ไม่สนยางพารา-ปาล์มตกต่ำ!!ชาวสวนยางพารา ได้เฮ เลี้ยงกบเนื้อเสริม หลังราคายางพารา-ปาล์มตกต่ำ แต่สร้างรายได้ดีจับเงินล้านมาแล้ว ไม่สนยางพารา-ปาล์มตกต่ำ!!ชาวสวนยางพารา ได้เฮ เลี้ยงกบเนื้อเสริม หลังราคายางพารา-ปาล์มตกต่ำ แต่สร้างรายได้ดีจับเงินล้านมาแล้ว ไม่สนยางพารา-ปาล์มตกต่ำ!!ชาวสวนยางพารา ได้เฮ เลี้ยงกบเนื้อเสริม หลังราคายางพารา-ปาล์มตกต่ำ แต่สร้างรายได้ดีจับเงินล้านมาแล้ว

ข่าว/ภาพ  ชชาดล เจริญพงศ์ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จังหวัดนครศรีธรรมราช