- 21 ก.พ. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2561 ในเฟซบุ๊กเพจ รวมพลฅนสมุย ผู้ใช้รายหนึ่งได้โพสต์คลิปวีดีโอเหตุการณ์ที่มีชายชาวต่างชาติล็อคคอคนร้ายที่เป็นหนุ่มไทยแบบดิ้นไม่หลุด พร้อมเขียนข้อความว่า “เตือนภัยชาวสมุย สดๆร้อนๆ น่าจะติดยา ขโมยโทรศัพท์ร้่านนวด แล้วหนีฝรั่งกับสาวไทยเจ้าของโทรศัพท์ขับตามฝรั่งเกือบโดนแทง โชคดีจับล็อคคอได้ ผมไปเจอเหตุการณ์พอดี และทางกู้ภัยก็มาพอดี ช่วยกันดูแลลูกหลานด้วยครับ ดูจากรูปการณ์น่าจะติดยาเสพติด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องรอเชคข่าวว่าอะไรเป็นอะไร”
หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ได้เข้ามาควบคุมเหตุการณ์พร้อมกับควบคุมตัวคนร้ายไปทำการสอบสวนดำเนินคดี ขณะที่ผู้เสียได้ไปพบกับพนักงานสอบสวนเพื่อแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับคนร้ายรายนี้
ทางด้าน ร.ต.อ.บุญนำ ศรีนะรัตร์ รองสารวัตรสอบสวน เปิดเผยว่า น.ส.พิมพรรณ สาทอง อายุ 29 ปี และนายจอห์น(นามสมมุติ) อายุ 66 ปี สัญชาติอังกฤษ ผู้เสียหายทั้งสอง ได้เข้ามาแจ้งความดำเนินคดีกับนายสุทธิพงษ์ ชุมเกตุ อายุ 25 ปี ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุลักทรัพย์แล้ว และจะทำการตรวจสอบประวัติว่ามีคดีติดตัว หรือเคยก่อเหตุอาชญากรรมมาหรือไม่
ขณะที่ น.ส.พิมพรรณ ผู้เสียหาย เล่าว่า ระหว่างที่นั่งเล่นโทรศัพท์รอแฟนนวดตัวอยู่นั้น ได้มีชายไทยเข้ามาสอบถามบริการนวดตัว 2 ชั่วโมง แต่ตนเองตอบกลับไปว่าไม่ใช่หมอนวด จึงได้ลุกไปตามหมอนวดในร้านมาพูดคุย ระหว่างนั้นตนเองได้วางโทรศัพท์ไอโฟน 10 ไว้ที่โต๊ะ ซึ่งตอนนั้นก็ไม่ได้เอะใจว่าโทรศัพท์ได้หายไปแล้ว เพราะตนเองมีโทรศัพท์อยู่ 2 เครื่อง แล้วกลับมาบอกคนร้ายว่าหมอนวดที่อยู่อีกร้านหนึ่งกำลังมา ขณะที่คนร้ายก็ชะล่าใจไม่ลุกหนีไปทันทีทำทีเป็นนั่งรอ ผ่านไป 10 นาทีคนร้ายลุกออกจากร้านไปพร้อมบอกว่าจะไปกินข้าวที่บ้านที่อยู่ใกล้ๆนี้ ผ่านไป 5 นาทีตนเองก็นึกขึ้นได้ว่าโทรศัพท์มือถืออีกเครื่องหายไปไหน ลองโทรเข้าก็ถูกปิดเครื่องไปแล้ว ส่วนแฟนตนเองรู้เรื่องก็ขี่รถจักรยานยนต์ไล่ตามชายไทยคนดังกล่าว ก็ไปพบเดินห่างจากร้านนวดประมาณ 100 เมตร สังเกตุที่กระเป๋ากางเกงเห็นโทรศัพท์ของแฟนสาวอยู่จึงหยิบออกมา คนร้ายก็พยายามจะวิ่งหนีแฟนก็พยายามจะจับตัวจะเกิดการต่อสู้ และคนร้ายจะใช้มีดปลายแหลมแทงแฟน แต่แฟนจึงเอามือปัดจนถูกบาด ก่อนจะล็อคตัวคนร้ายได้ตามคลิปที่ปรากฎ
“ตั้งแต่อยู่เกาะสมุยมา 4-5 ปี ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้เลย เคยเห็นแต่ในทีวีไม่คิดว่าจะเจอกับตัวเอง เจอครั้งนี้รู้สึกกลัว ถ้าไปข้างนอกจะไม่ไปคนเดียว ทรัพย์สินและของมีค่าเช่นทองก็จะไม่ใส่ มือถือไอโฟน x ก็จะไม่โชว์ให้เห็น” น.ส.พิมพรรณ์ ผู้เสียหายกล่าว
เบื้องต้น ทางพนักงานสอบสวนจึงได้แจ้งข้อกล่าวหา ลักทรัพย์ และพกอาวุธไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุสมควร ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
*** ขอบคุณภาพจาก Ake O Sea
ภาพ/ข่าว อัญชลีพร โย่งโต ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักช่าวทีนิวส์ จ.สุราษฎร์ธานี