"เข่งปลาทู" ทนทาน สวยงาม ใช้งานได้นาน ไม่มีเชื้อรา คัดสรรจนได้รับประกาศนียบัตรสินค้าโอทอประดับ 5 ดาว ผลิตไม่ทันต่อความต้องการของตลาด (คลิป)

ที่บ้านทนง หมู่6 ต.นอกเมือง อ.เมืองสุรินทร์ เป็นหมู่บ้านสานเข่งปลาทู สินค้าโอทอประดับ5ดาว ฝีมือการทำที่ละเอียด ไม้ไผ่ที่สานเข่งไม่ขึ้นรา หรือหลุดออกจากกัน ลูกค้าซื้อแล้วใช้งานได้นานกว่า1ปี ฝีมือเป็นที่ยอมรับของลูกค้าจนได้รับคัดสรรรับประกาศนียบัตรสินค้าโอทอประดับ5ดาวเมือปี47 จุดเด่นของเข่ง อยู่ที่ความทนทาน สวยงาม ใช้งานได้นาน ไม่มีเชื้อรา ไม่มีสารพิษ และขนาดพอเหมาะตรงต่อความต้องการของลูกค้า บางรายก็ซื้อไปใส่ปลาทู บางรายก็ซื้อไปใส่นึ่งขนมจีบซาลาเปา การสานเข่งปลาทูที่นี่ใช้ไม้ไผ่ตงที่มีอายุ1ปีขึ้นไป นำไม้ไผ่มาผ่าตามขนาดของเข่งที่ลูกค้ากำหนด นำไปแช่น้ำเกลือ และตากให้แห้งโดยไม้ทุกชิ้นต้องใช้ความละเอียดอ่อนด้วยการนำมาขัดเกลาลบเสี้ยนทุกชิ้น แล้วจึงนำส่วนประกอบต่างๆมาสานเป็นเข่งให้เรียบร้อย

 

 

 

 

กลุ่มสานเข่งปลาทูบ้านทนง รวมตัวกันขึ้นโดยกลุ่มแม่บ้านเมื่อประมาณปี41 จำนวน 50คน แต่ปัจจุบันเหลือผู้ที่สานเข่งประมาณ 4-5หลังคาเรือนเท่านั้น เนื่องจากวัตถุดิบไม้ไผ่ตงหายากมากขึ้น ไม่มีวัตถุดิบที่จะใช้ทำจึงลดกำลังการผลิตลง และเข่งที่สานได้ก็ไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด ป้าพุท ระเมียดดี อายุ66ปี บ้านเลขที่3/7 หมู่6 บ้านทนง นั่งสานเข่งปลาทูวันนี้ เล่าว่าตนเองทำเข่งปลาทูเป็นรายได้เสริม ว่างเว้นจากการทำนา และสานเข่งปลาทูบางวันก็ได้ 150-200ใบ เข่งใบละ 2-3บาทก็ตกประมาณ 350-600บาทต่อวัน เวลาถึงฤดูทำนาก็ไปทำนาอาชีพหลัก กลับมาบ้านตอนเย็นว่างๆก็นั่งสานเข่งปลาทูเป็นรายได้เสริมได้ และช่วงยังไม่ลงนาว่างงานก็นั่งสานเข่งปลาทูทั้งวัน ก็ทำให้มีรายได้ไม่ว่างงาน

 

 

 

 

นายฉัตรพล วงศ์เจียก ประธานวิสาหกิจชุมชนหมู่6 บ้านทนง เล่าว่า หมู่บ้านได้จัดให้มีการสานเข่งปลาทูเพื่อให้ชาวบ้านในหมู่บ้านมีรายได้เสริม ชาวบ้านทนงมีอาชีพเกษตรกรรมทำนาเป็นหลัก เมื่อว่างเว้นจากฤดูการทำนาก็จะได้มีงานมีรายได้เสริมกัน โดยชาวบ้านได้ไปเรียนรู้การทำเข่งที่จ.สระแก้ว และนำความรู้ในการทำเข่งมาพัฒนาฝีมือขึ้นเรื่อยๆจนได้รับคัดสรรเป็นสินค้าโอทอประดับ5ดาวเมื่อปี 47 และเข่งที่นี่จะมี3ขนาดคือขนาด เล็ก กลาง ใหญ่ โดยปัจจุบันจะทำขายที่ราคาเช่งเล็กใบละ2.20สตางค์ เข่งใบกลางใบละ2.40สตางค์ และเข่งใบใหญ่ใบละ3บาท ส่วนตลาดรองรับมีมาก แต่ไม่สามารถผลิตได้ตามความต้องการของตลาด ตอนนี้มีอยู่ประมาณ 4-5ครัวเรือนเท่านั้นที่ยังสานเข่งอยู่ ที่ต้องลดการผลิตลงเพราะมีปัญหาเรื่องหาวัตถุดิบไม้ไผ่ตงมาทำเข่งปลาทูนั้นหาลำบากมากขึ้นไม่สามารถหาวัตถุดิบกันได้จึงหยุดไปหลายคน

 

 

 

 

 

รมิตา สิงหเสรี ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จังหวัดสุรินทร์