"พระพยอม" เหน็บเจ็บ !!! "พระพรหมเมธี" ยิ่งหนีก็ยิ่งเปลืองตัว - "สุเทพ" เสียบเพื่อชาติ

พระพยอม กัลยาโณ ได้เขียนบทความ "การปกครองที่ดี" ในคอลัมน์ "สำนักข่าวพระพยอม" เนื้อหาว่า

ช่วงนี้ไม่มีข่าวอะไรที่ดราม่าเท่ากับ 2 ข่าวใหญ่คือ การจับพระพรหมเมธีที่เยอรมนี อีกข่าวคือ คุณสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำ กปปส. บีบน้ำตาเปิดพรรครวมพลังประชาชาติไทย อ้างว่าเสียสละเพื่อชาติ ทำเพื่อชาติ คำว่า "เสียบเพื่อชาติ" หรือ "ตระบัดสัตย์เพื่อชาติ" ใช้กันมาหลายยุคหลายสมัย เหมือนนิยายปรัมปราที่ไม่มีวันจบในโลกใบนี้

เรื่องพระพรหมเมธีหนีเพราะมีคนช่วย ศักดิ์ศรี “ลูกผู้ชายชาติพระ” ระหว่างหนีกับสู้ความจริง อันไหนจะมีมากกว่ากัน ยิ่งหนีก็ยิ่งเปลืองตัว ถูกจับในประเทศไทยกับถูกจับที่ต่างประเทศแล้วนำกลับมา มันเสียหาย ลำบากยากเข็ญกว่ากัน เสียเวลาตำรวจ เสียงบประมาณ แล้วความเสื่อมเสียก็ตามมาอีกเยอะแยะ ถ้าคิดตื้นๆ ไม่ทำเสียพระ ไม่ประพฤติตัวเสื่อมเสีย ก็ไม่ทุกข์

ก่อนหน้านี้บอกว่าการตรวจสอบของ พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ไม่ดี ไม่เป็นธรรม จับแต่พระ ไม่จับข้าราชการ ก็ว่ากันไป

ส่วนเรื่องการเมืองก็เชื่อกันยาก ครั้งหนึ่งสมัยคุณอานันท์ ปันยารชุน เป็นนายกรัฐมนตรี เคยเล่านิทานตอบโต้ในสภากับนักการเมืองว่า เรื่องไม่น่าเชื่อ รถชนกันและมีคนนอนเกลื่อนกลาด ปรากฏว่าคนกรูมาจะไปกระชากสร้อย ลักทรัพย์คนที่ประสบอุบัติเหตุที่นอนบาดเจ็บ นอนสลบอยู่ ถามว่าคุณเป็นใคร ผมเป็นนักการเมือง คนนั้นจะกระชากสร้อยแล้ว

รถที่ว่าเป็นนักการเมืองที่ไปเที่ยวกัน คนก็พูดว่านี่ตายแล้วๆ พวกเราเอาเลย นักการเมืองบอกว่ายังไม่ตาย แต่ชาวบ้านเขามองนักการเมืองว่าพูดคำไหนก็จะตรงกันข้าม ถ้าพูดว่าจริงก็คือไม่จริง ถ้าพูดว่าเล่นก็คือไม่เล่น ถ้าพูดว่าไม่เล่นก็จะเล่น เหมือนทหารบอกว่าไม่ปฏิวัติ ยิ่งพูดว่าไม่ปฏิวัติก็จะปฏิวัติ บ้านเมืองเราจึงมองทหารและนักการเมืองว่าพูดอะไรก็ให้คิดตรงกันข้าม พูดอะไรมักไม่ตรงกับความเป็นจริง จึงมารุมกระชากสร้อย กระชากทรัพย์สินกัน

คุณอานันท์เล่านิทานเรื่องนี้ไว้ตอนเป็นนายกรัฐมนตรี ถูกนักการเมืองอภิปราย แล้วก็สวนกลับเป็นเรื่องสนุกสนาน สะใจ โดนใจ ก็หวังว่าเราจะเรียนรู้และเข้าใจ หากทหารพูดว่าไม่มีปฏิวัติอีกแล้วก็คงจะต้องเกิดอีก ถ้านักการเมืองพูดว่าไม่เล่นการเมืองอีกก็มีโอกาสเล่นอีก สรุปว่าจะเชื่อถืออย่างไร จะเชื่อใคร จะชอบใคร ก็คิดกันให้ดีๆ

โดยเฉพาะการเมืองต่อไปนี้เป็นการเมืองแปลกๆ การเมืองสีเหลือง สีแดง นกหวีด การเมืองพรางตัว แล้วยังมีเด็กรุ่นใหม่ ไม่รู้ว่าบ้านเมืองจะไปทางไหน ต้องตามดูกันต่อไป ก็หวังว่าจะมีคนดีๆมากกว่าคนไม่ดี การเมืองไม่ว่าระบอบเผด็จการหรือประชาธิปไตย ถ้าคนดีหายไป คนไม่ดีมากขึ้น บ้านเมืองก็ยุ่งก็หายนะ

ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นระบอบอะไรขอให้มีคนดีมากขึ้น สร้างคนดีมากๆ เถอะ อาตมาเห็นป้ายที่วัดสวนโมกข์เขียนว่า การปกครองไม่ว่าจะเป็นระบอบอะไรขอให้มีคนดีเข้ามาก็แล้วกัน ต้องทำให้การเมืองสร้างคนดี เป็นประโยชน์ต่อบ้านเมือง ไม่ใช่เต็มไปด้วยคนไม่ดี สับปลับ ฉ้อฉล เหมือนเผด็จการถ้าไม่ใช้อำนาจเด็ดขาดจัดการกับคนไม่ดี ปล่อยให้คนไม่ดีกำเริบเสิบสาน เผด็จการก็ไม่มีประโยชน์ ต้องทำให้คนไม่ดีไม่มีที่ยืน คนชั่วไม่มีที่ยืน ยาเสพติดไม่มีที่ยืน

ถ้าทำอย่างนี้เมื่อไรการปกครองที่ดีก็จะเกิด เพราะเพิ่มคนดีขึ้นเรื่อยๆ กำจัดคนไม่ดีให้ลดลงเรื่อยๆ นั่นแหละคือการปกครองที่ดี.... เจริญพร