- 21 มิ.ย. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
มะม่วงหาว มะนาวโห่ นับว่าเป็นผลไม้ยอดนิยมในการปลูกไว้เพื่อประดับบ้านเนื่องจากผลนั้นมีสีสันสวยงาม แต่ใครจะรู้บ้างไหมว่าแท้จริงแล้ว นอกจากสีสันที่สวยงามก็ยังมีประโยชน์และสรรพคุณทางยามากมาย มะม่วงหาว มะนาวโห่ มีชื่อเรียกเต็มๆ ว่า "มะม่วงไม่รู้หาว มะนาวไม่รู้โห่" ซึ่งถ้าเรียกสั้นๆ ก็น่าจะเข้าปากมากกว่า ผลไม้ชนิดนี้ได้รับความสนใจจากผู้ที่รักสุขภาพเป็นอย่างมาก เพราะในวงการแพทย์ก็ได้วิจัยออกมาพบว่ามีสรรพคุณทางยามากมาย ครั้นจะนำไปใช้รักษาโรค หรือรับประทานควบคู่กับยาแผนปัจจุบันก็จะได้ผลที่ดียิ่งขึ้น
“มะม่วงหาวมะนาวโห่” จัดเป็นผลไม้สมุนไพรชนิดหนึ่ง ลักษณะของผลจะมีสีแดงเรียวเล็กคล้ายกับมะเขือเทศราชินี สำหรับรสชาติของผลสุกจะออกหวานนุ่มลิ้น แต่ถ้ายังไม่สุกจะมีรสเปรี้ยวจี๊ดเข็ดฟัน มีธาตุเหล็กและวิตามินซีสูง เมื่อกัดไปแล้วจะมียางเหนียว ๆ ฝาดคอ เป็นผลไม้ในวรรณคดีเรื่องพระรถเมรี (นางสิบสอง) ใครเคยอ่านคงทราบกันดี
สิ่งที่น่าสนใจคือ เป็นสมุนไพรที่ช่วยซ่อมร่างกาย แค่กินสด-ต้องเลือกลูกที่สีดำ กินวันละ 5-7 ลูก แต่ให้ระวังยางสักหน่อย ไม่แนะนำสำหรับสตรีตั้งครรภ์ ส่วนคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับหัวใจ อาจเกิดอาการแน่นหน้าอก หายใจไม่ออก ให้เริ่มจากกินวันละ 1 ลูกก่อนเพื่อปรับสภาพร่างกาย สักพักถึงเพิ่มปริมาณ ไม่ควรเกิน 10 ลูกต่อวัน กินติดต่อกันจะรู้สึกว่าเลือดลมหมุนเวียนดี สุขภาพแข็งแรงขึ้น
อีกสูตรที่ใช้บำรุงสุขภาพคือ ทำเป็นน้ำหมักสมุนไพร โดยเก็บชนิดผลสีแดง เด็ดขั้ว ทิ้งให้ยางจนแห้งก่อนจะล้างน้ำให้สะอาด
วิธีการหมัก ใช้ผล 3 กิโลกรัม ต่อน้ำตาล 1 กิโลกรัม น้ำผึ้ง 350 ซีซี หมักในโหลแก้วไว้ 1 เดือน จึงเติมน้ำ 5 ลิตร แล้วหมักต่อจนครบ 3 เดือน เป็นอย่างน้อย ดื่มวันละ 1 ช็อต ร่างกายจะปรับสภาพจนสมดุลและแข็งแรงขึ้น
ประโยชน์ของมะนาวโห่ส่วนต่างๆ ที่ดีต่อร่างกาย
สรรพคุณส่วนผล
– เนื่องจากมีวิตามินซีสูง จึงสามารถรักษาโรคเลือดออกตามไรฟันได้
– มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ สามารถช่วยชะลอความแก่ชรา
– ป้องกันการเกิดโรคมะเร็ง โรคหัวใจ เบาหวาน โรคเกาต์ โรคปอด โรคถุงลม โรคไต โรคโลหิตจาง เป็นต้น
– มีส่วนช่วยรักษาโรคต่างๆ ได้ อาทิ เบาหวาน โรคเกาต์ โรคปอด โรคถุงลมโป่งพองจากการสูบบุหรี่ โรคไต โรค
สรรพคุณส่วนใบและยอดอ่อน
– แก้เจ็บคอ ท้องเสีย ไข้ ถอนพิษ
– ช่วยรักษาอาการคันตามผิวหนัง
– โรคริดสีดวงทวาร (ยอดอ่อน)
สรรพคุณส่วนเปลือก
– ขับน้ำเหลืองเสีย แก้ท้องเสีย
– แก้ปวดฟัน พอกดับพิษ
– รักษาโรคผิวหนังเรื้อรัง
สรรพคุณส่วนราก
– ช่วยให้เจริญอาหาร ดับพิษร้อน
– บำรุงธาตุ บำรุงกระเพาะอาหาร
– มีประโยชน์รักษาแผลเบาหวาน
สรรพคุณส่วนลำต้นและเนื้อไม้
– ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง กระปรีกระเปร่า
– แก้อาการอ่อนเพลียและเมื่อยล้า
– ใช้รักษาโรคผิวหนังเรื้อรัง
สรรพคุณส่วนน้ำยาง
– แก้กลากเกลื้อน ใช้สมานแผล
– รักษาแผลเนื้องอก รักษาหูด รักษาตาปลา
หมายเหตุ
หญิงมีครรภ์ห้ามรับประทานเด็ดขาด ส่วนคนที่เป็นโรคหัวใจโตไม่ควรรับประทานมากเกินไป เพราะเมื่อรับประทานผลเข้าไปแล้วประมาณ 10 นาที จะทำให้รู้สึกแน่นหน้าอก หายใจไม่ออก ควรรับประทานวันละ 1 ผลเพื่อให้ร่างกายปรับสภาพจนชินก่อน เมื่อไม่มีอาการแล้วค่อยเพิ่มปริมาณเป็น 10 ผล รับประทานประมาณ 3 เดือนจะทำให้เลือดลมไหลเวียนดี
ขอบคุณข้อมูลจาก : sanook , postsod