ที่เที่ยวโคราช จุดเช็กอิน 5 สถานที่ห้ามพลาด เหมาะกับทุกสายท่องเที่ยว

"โคราช" หรือ นครราชสีมา เปรียบเป็นประตูสู่ภาคอีสาน เพราะว่าผู้คนที่จะเดินทางไปยังภาคอีสาน ย่อมต้องผ่านเมืองโคราชก่อน ในที่นี่ เราจะมาแนะนำที่เที่ยวโคราช ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ สถานที่ท่องเที่ยวโคราช มีที่ไหนน่าสนใจบ้าง หากใครมาแล้วต้องไปเช็คอินห้ามพลาด โดยจังหวัดนครราชสีมาเป็นจังหวัดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศไทย ที่เที่ยวมีครบทุกรสชาติ เหมาะกับทั้ง สายธรรมชาติกับอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่สำรวจความอุดมสมบูรณ์ทั้งพันธุ์ไม้และสัตว์ป่า พร้อม กราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ หรือ วัดวาอาราม รวมทั้งโบราณสถาน อุทยานประวัติศาสตร์สำคัญ

1. อุทยานประวัติศาสตร์พิมาย

อุทยานประวัติศาสตร์พิมาย เป็นโบราณสถานสมัยขอมที่ยิ่งใหญ่งดงาม เริ่มสร้างขึ้นในปลายพุทธศตวรรษที่ 16 ในสมัยพระเจ้าสุริยวรมันที่ 1  สำหรับสิ่งที่น่าสนใจภายในอุทยานฯมีหลากหลายได้แก่

สะพานนาคราช ซุ้มประตูและกำแพงชั้นนอกของปราสาท ซุ้มประตูและกำแพงชั้นใน หรือระเบียงคด
ปรางค์ประธาน ตั้งอยู่กลางลานภายในระเบียงคด เป็นศูนย์กลางของศาสนสถานแห่งนี้ สร้างด้วยหินทรายสีขาวทั้งองค์ ต่างจากซุ้มประตู หรือ โคปุระ

ปรางค์พรหมทัต ตั้งอยู่ด้านหน้าปรางค์ประธาน เยื้องไปทางซ้าย สร้างด้วยศิลาแลงในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ภายในปรางค์พบประติมากรรมหินทรายจำหลักเป็นรูปประติมากรรมฉลององค์ของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 (องค์จำลอง องค์จริงเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พิมาย) ที่เรียกว่า ปรางค์พรหมทัต ก็เพื่อให้เข้ากับตำนานพื้นเมืองเรื่องท้าวพรหมทัตพระเจ้าแผ่นดิน

ปรางค์หินแดง ตั้งอยู่ทางด้านขวา เหนือกรอบประตูทางเข้าด้านทิศเหนือ มีทับหลังสลักเป็นภาพเล่าเรื่องในมหากาพย์ภารตะ ตอนกรรณะล่าหมูป่า บริเวณลานชั้นนอกทางด้านทิศตะวันตกล้อมรอบด้วยกำแพงชั้นนอกอีกชั้นหนึ่ง

2. พิพิธภัณฑ์หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่

พิพิธภัณฑ์นี้ อยู่ภายในวัดบ้านไร่ ตำบลกุดพิมาน ซึ่งเคยเป็นสถานที่จำพรรษาของหลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ หรือ พระเทพวิทยาคม ภายในพิพิธภัณฑ์ฯ นำเสนออัตชีวประวัติของหลวงพ่อคูณ ตั้งแต่เยาว์วัยจนอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ท่านเป็นพระอริยสงฆ์ที่มีคุณอเนกอนันต์ต่อพุทธศาสนาและประเทศชาติ เป็นที่เคารพศรัทธาของ พุทธศาสนิกชนจำนวนมาก หลวงพ่อคูณมรณภาพเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2558 สิริอายุ 92 ปี รวม 71 พรรษา

3. ฟาร์มโชคชัย

ถือเป็นฟาร์มโคนมและแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่ได้รับรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยว Tourism Awards รางวัลยอดเยี่ยม ถึง 4 ครั้ง ภายในฟาร์มนำเสนอการท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่หลากหลาย มีการให้ความรู้เรื่องฟาร์มโคนม การสาธิตวิธีการรีดนม การแสดงวิถีคาวบอย การโชว์ขี่ม้า ฯลฯ รวมทั้งยังมีผลิตภัณฑ์ของฟาร์ม และร้านโชคชัยสเต็กเฮ้าส์

รวมทั้งกิจกรรมต่างๆที่น่าสนใจ เช่น การขี่ ATV การให้อาหารแกะ และถ่ายรูปกับแปลงดอกไม้ที่จะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนตลอดทั้งปี โดยนักท่องเที่ยวสามารถใช้บริการรถรางแทร็กเตอร์ชมฟาร์ม หรือขับรถส่วนตัวเข้าไปชมและแวะยังโซนกิจกรรมต่าง ๆ ภายในฟาร์มได้ 

4. อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่

อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ครอบคลุมพื้นที่ 4 จังหวัด คือ  จังหวัดนครราชสีมา ปราจีนบุรี นครนายก และสระบุรี เป็นป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์ทั้งพันธุ์ไม้และสัตว์ป่า ได้รับการประกาศให้เป็นอุทยานแห่งชาติแห่งแรกของประเทศไทย เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2505 และได้รับสมญานามว่าเป็น อุทยานมรดกของกลุ่มประเทศอาเซียน อีกทั้งได้รับการประกาศจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกเมื่อปี พ.ศ. 2548

• สถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจของเขาใหญ่

ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ ตั้งอยู่บนเส้นทางขึ้นเขาใหญ่ฝั่งอำเภอปากช่อง สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2505 เพื่อระลึกถึงคุณงามความดีของเจ้าพ่อเขาใหญ่ ที่มีต่อการอนุรักษ์พื้นที่ป่าและสัตว์ป่าในเขาใหญ่ จนเป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้านในพื้นที่และประชาชนทั่วไป

หอดูสัตว์หนองผักชี (เส้นทางศึกษาธรรมชาติ กม.33) บนหอดูสัตว์หนองผักชีจะมองเห็นทัศนียภาพของผืนป่าและทุ่งหญ้าได้รอบทิศ รวมทั้งหนองผักชีซึ่งเป็นแหล่งน้ำสำคัญของสัตว์ป่าในบริเวณนั้น จากหอดูสัตว์เดินตามถนนลูกรังออกสู่ถนนธนะรัชต์ กิโลเมตรที่ 35 รวมระยะทางเดินประมาณ 3.5 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินราว 2-3 ชั่วโมง

น้ำตกเหวสุวัต เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ สายน้ำไหลตกลงมาจากหน้าผาสูงราว 20 เมตร บริเวณด้านล่างน้ำตกเป็นแอ่งน้ำและลำธาร และยังมีจุดชมน้ำตกจากระยะไกลซึ่งอยู่ในมุมสูง จึงมองเห็นความสวยงามของตัวน้ำตกได้ทั้งหมด

น้ำตกเหวนรก เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ มี 3 ชั้น ความสูงของน้ำตกประมาณ 150 เมตร ลักษณะการไหลตกของน้ำจากหน้าผาเป็นแนวดิ่งลงสู่หุบเหวเบื้องล่าง สายน้ำแรงเป็นอันตรายมาก ไม่ควรลงเล่นน้ำอย่างเด็ดขาด โดยเฉพาะฤดูฝน

5. อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี

อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี ถือเป็นอนุสรณ์ในวีรกรรมอันกล้าหาญในการปกป้องบ้านเมืองของ ย่าโม หรือ ท้าวสุรนารีตั้งอยู่ระหว่างถนนราชดำเนินและถนนชุมพล  ไฮไลต์สำคัญ บริเวณด้านหลังอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี เป็นที่ตั้งของประตูชุมพล ลักษณะเป็นประตูเชิงเทินก่อด้วยหินก้อนใหญ่และอิฐ ฉาบด้วยปูน ส่วนบนเป็นหอรบสร้างด้วยไม้แก่นหลังคามุงกระเบื้อง ประดับด้วยช่อฟ้า กระจัง และนาคสะดุ้ง กำแพงต่อจากประตูทั้งสองข้างก่อด้วยอิฐ ส่วนบนสุดทำเป็นรูปใบเสมา ซึ่งเดิมมีประตูเมืองทั้งหมด 4 ประตู ได้แก่ ประตูพลแสน (ด้านทิศเหนือ) ประตูพลล้าน (ด้านทิศตะวันออก) ประตูไชยณรงค์ (ด้านทิศใต้) และประตูชุมพล (ด้านทิศตะวันตก) ปัจจุบันเหลือเพียงประตูชุมพลเท่านั้นที่เป็นประตูเมืองเก่า