- 24 มิ.ย. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
จากกรณีเจ้าหน้าที่พบศพหญิงผมแดงอายุประมาณ 30-35ปี ถูกฆ่าหั่นศพอยู่ในถุงปุ๋ย โดยส่วนศีรษะถูกแยกอยู่ในกระเป๋าเป้สีดำ ห่ออยู่ในถุงดำและผ้าสีแดงอีกชั้นแยกต่างหาก โดยศพถูกทิ้งไว้ประมาณ 3-4 วัน จนมีคนสงสัยจึงได้เปิดดู แต่ก็ถึงกับผงะ รีบเรียกตำรวจมาตรวจสอบทันที โดยที่เกิดเหตุอยู่ในป่ารกชัฏทางเปลี่ยว ซอยสามวา แขวงบางขัน เขตคลองสามวา กรุงเทพฯ เหตุเกิดเมื่อช่วงดึกของวันที่ 22 มิ.ย. ที่ผ่านมา ในท้องที่สน.มีนบุรี โดยทราบชื่อผู้เสียชีวิตต่อมาคือ น.ส.ลักษณา กำลังเก่ง หรือเมย์ อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 140 บ้านดงหัวเรือ หมู่ที่ 8 ต.นาใหญ่ อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด
ซึ่งล่าสุดที่กก.บก.น.3 ฝ่ายสืบสวนสน.มีนบุรี ได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยซึ่งเป็นแฟนผู้เสียชีวิตมาสอบสวน โดยเจ้าหน้าที่สามารถติดตามตัวได้บริเวณถนนเลียบคลอง2 ซ.29 แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กทม. ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ในวันนี้ ( 24 มิ.ย. 2561 ) ผู้สื่อข่าวได้ไปติดตามบรรยากาศที่บ้านเลขที่ 140 บ้านดงหัวเรือ หมู่ที่ 8 ต.นาใหญ่ อ.สุวรรณภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ซึ่งเป็นบ้านเกิดของน้องเมย์ผู้ที่ถูกฆ่าหั่นศพ ซึ่งมีบรรดาญาติๆและชาวบ้าน ได้มาช่วยกันจัดเตรียมสถานที่ภายในบ้าน เพื่อคอยรับศพของน้องเมย์ โดยได้พบกับคุณแม่ของน้องเมย์ คือนางพัชรา กำลังเก่ง อายุ 48 ปี กำลังนั่งกอดหลาน ซึ่งเป็นลูกชายของน้องเมย์วัย 5 ขวบเศษ และกำลังร้องให้อยู่ตลอดเวลา ตั้งแต่ทราบข่าวว่าน้องเมย์ถูกฆ่า โดยมีญาติๆ และเพื่อนบ้านคอยปลอบโยน จากการพูดคุยกับแม่น้องเมย์ ได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่าตนมีบุตรสาว 2 คน ซึ่งน้องเมย์เป็นบุตรสาวคนโต เป็นคนไม่ค่อยพูด และมีภาระต้องคอยหาเงินส่งให้น้องอีกคนเรียนอยู่ในระดับ ปวส. อยู่ในขณะนี้ ซึ่งการเสียชีวิตของลูกสาวในครั้งนี้ ส่งผลให้ครอบครัวซึ่งทุกเดือนจะได้รับเงินจากน้องเมย์ที่ส่งมาให้ เพื่อเป็นใช้จ่ายในบ้าน และค่าขนมลูกชายของน้องเมย์ที่เกิดกับสามีคนเก่า ต้องได้รับผลกระทบไปด้วย
นางพัชรา แม่ของน้องเมย์ กล่าวกับผู้สื่อข่าวต่อว่า ได้พบกับน้องเมย์ครั้งสุดท้ายเมื่อช่วงเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งน้องเมย์ได้พูดกับตนว่าอยากจะกลับมาอยู่บ้านเพราะคิดถึงลูก แต่ก็มาเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นมาก่อน ซึ่งตนและครอบครัวเสียใจมาก และอยากให้ลงโทษฆาตกรที่ฆ่าหันศพลูกสาวด้วยการประหารชีวิตให้ตายตกไปตามกัน
ซึ่งในเรื่องนี้ ทางด้านนางเยาวดี พันธ์หินกอง ยุติธรรมจังหวัดร้อยเอ็ดก็ได้มอบหมายให้ น.ส.กัลยา ศรีหลา นักวิชาการยุติธรรมได้ลงพื้นที่แจ้งสิทธิ์แก่ผู้เสียหาย ในกรณีได้รับค่าเยี่ยวยาจากรัฐตาม พรบ.ค่าตอบแทนผู้เสียหายในคดีอาญา ในครั้งนี้ด้วย
ภาพ / ข่าว สุเทพ ลอยแก้ว ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จ.ร้อยเอ็ด
เรียบเรียง / ชูชัย ดำรงสันติสุข สำนักข่าวทีนิวส์