- 14 ก.ค. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
เวลา 19.30 น. ของวันที่ 13 กรกฎาคม 2561 ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง ซึ่งนำโดยนายมานะ สินมา ผู้อำนวยการส่วนการสอบสวนคดีอาญา พร้อมด้วยนายรณสิทธิ์ พฤกษยาชีวะ ผู้อำนวยการฝ่ายสืบสวนกรมการปกครอง และเจ้าหน้าที่จากองค์กรต่อต้านการค้ามนุษย์ Life Internationl บุกเข้าตรวจสอบร้านต้นปาล์มคาราโอเกะ อำเภอแปลงยาว จังหวัดฉะเชิงเทรา หลังได้รับการประสานงานจาก facebook เพจ "ล่า" ว่ามีประชาชนมาร้องเรียนว่าร้านคาราโอเกะดังกล่าวมีการนำเด็กหญิงชาวต่างด้าวมาค้าประเวณี ทางเพจ "ล่า" จึงได้ประสานองค์กรต่อต้านการค้ามนุษย์ Life Internationl ว่าร้านดังกล่าวมีการลักลอบนำหญิงต่างด้าวอายุต่ำกว่า 18 ปี มาค้าประเวณีซึ่งเข้าค่ายการค้ามนุษย์
จึงได้ส่งสายลับแฝงตัวเพื่อทำการสืบทราบภายในพื้นที่ และร้านคาราโอเกะดังกล่าวจนได้ข้อมูลที่แน่ชัดว่ามีการลักลอบให้พนักงานหญิงของร้านทำการค้าประเวณีจริง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบพบจำนวน 6 คน ในราคาชั่วคราวครั้งละ 1,200 บาท ค้างคืน 2,500 บาท โดยทางร้านจะใช้คูปองแทนเงินสดแก่พนักงานหญิงของทางร้าน เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกจับกุม และทางร้านจะหักเงินครึ่งหนึ่งของเงินที่พนักงานได้รับ ที่สำคัญพนักงานจะต้องเก็บรักษาคูปองนั้นไว้เพื่อรอจนกว่าจะถึงสิ้นเดือน จึงจะได้รับเงินค่าตัวที่ขึ้นนอนกับแขกที่มาใช้บริการในแต่ละวัน ซึ่งจาการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าพนักงานหญิงเหล่านี้เป็นชาวต่างด้าวสัญชาติเมียนมา และมีพาสปอร์ต 1 คน อายุ 17 ปี ซึ่งทางเจ้าหน้าที่เชื่อว่าน่าจะเข้าข่ายเป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์
ด้านนายมานะ สินมา ผู้อำนวยการส่วนการสอบสวนคดีอาญา เปิดเผยว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้แจ้งข้อกล่าวหาแก่เจ้าของร้านต้นปาล์มคาราโอเกะ ว่าตั้งสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาตและเป็นธุระจัดหาให้มีการค้าประเวณี โดยนำตัวผู้ต้องหาและพนักงานหญิงทั้งหมดของทางร้านมาทำการสอบสวนเพิ่มเติมยังที่ว่าการอำเภอแปลงยาว ก่อนประสานเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดฉะเชิงเทรา และพนักงานสอบสวนร่วมทำการสัมภาษณ์เพื่อคัดแยกผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ในครั้งนี้ นอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ยังตรวจพบสมุดบัญชีรายการจ่ายส่วยให้กับเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งหลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่จะได้เร่งสืบสวนความเกี่ยวข้องในประเด็นดังกล่าวอ่างละเอียดอีกครั้ง หากพบเจ้าหน้าที่ของรัฐมีส่วนเกี่ยวข้องในการเรียกรับผลประโยชน์จากการกระทำความผิด จะต้องถูกดำเนินการทางวินัยและกฎหมายอย่างจริงจัง ในขณะที่ชาวบ้านเผยว่าในจังหวัดแะเชิงเทรา ยังพบเห็นการกระทำความผิดอีกมากมาย ที่หน่วยงานและองค์กรที่เกี่ยวข้องกับเพิกเฉย ทั้งสถานประกอบการที่เปิดให้บริการเกินเวลาที่กฎหมายกำหนด มีเด็กและเยาวชนเข้าใช้บริการในสถานประกอบการและสถานบริการ บ่อนการพนัน แรงงานเถื่อนที่เข้ามาประกอบธุรกิจผิดกฎหมาย จนเป็นเรื่องชินตาของคนในสังคม เพราะไม่มีใครกล้าพอที่จะกวดขันอย่างจริงจัง ต้องรอความหวังจากส่วนกลางลงมาดำเนินการเพียงอย่างเดียว.
ภาพ / ข่าว ก้องเกียรติ พุทธิรังสิมาภรณ์ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวีนิวส์ จ.ฉะเชิงเทรา