ทหารของพระราชาผู้ค้ำราชบัลลังก์...เมื่อ บิ๊กแดง ผงาดผบ.ทบ.!?! ย้อนวาทะ อย่ามายุ่งกับในหลวงของผม?!? กับสถานะ:นายทหารพิเศษ กรมทหารมหาดเล็กฯ

จากกรณีมีรายงานว่า ‪ในวันที่ 25 ก.ค.61 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะเป็นประธานการประชุมสภากลาโหม ร่วมกับผู้บัญชาการเหล่าทัพ ในการจัดทำบัญชีรายชื่อโยกย้ายนายทหารประจำปี 2561 ซึ่งในส่วนของกองทัพบกคาดว่า “บิ๊กแดง” พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์  ผู้ช่วยผบ.ทบ.(ตท.20) ได้ขึ้นเป็น ผู้บัญชาการทหารบกตามคาดนั้น

สำหรับพล.ท.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ บุตรชายบิ๊กจ๊อด พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ เมื่อปีที่แล้วจากแม่ทัพภาคที่1 ได้ขยับขึ้นเป็นผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก มีอายุราชการถึงตุลาคม2563 และในการจัดโผก่อนหน้านี้ก็คาดหมายกันอยู่แล้วว่านี่คือเต็งหนึ่งถึงเก้าอี้ ผบ.ทบ. ในปี2561 ทั้งนี้บทบาทและผลงานของพลเอก อภิรัชต์ มีความโดดเด่นตลอดมาหลายปี ไม่ว่าการออกมาปกป้องผู้บังคับบัญชา การเดินหน้าชนกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับภารกิจปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์

       ทั้งนี้เห็นได้จากการกล่าวถวายสัตย์ปฏิญาณตน และไม่เพียงคำกล่าวเท่านั้น หากแต่นายทหารรักษาพระองค์ผู้นี้ได้พูดจริงทำจริง ถึงขนาดกับที่มีเรื่องเล่ากันว่าเมื่อครั้งที่นายจักรภพ เพ็ญแข สมัยเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯเดินทางไปเปิดงานที่ราบ11 ซึ่งได้เจอกับคำพูดที่ว่า “ท่านรัฐมนตรีผมขอพูดดี ๆครั้งสุดท้ายนะครับ..อย่ายุ่งกับในหลวงของผม” มีการเล่าต่อมากันว่าเป็นคำพูดของ บิ๊กแดงในขณะเจอนายจักรภพ ที่เจอกันในค่ายทหารแห่งนั้น โดยกล่าวกันว่าเจ้าตัวถึงกับอึ้งได้แต่มองหน้าแต่ไม่ตอบโต้ใดๆ แต่ได้นำไปโจมตีกับเวทีคนเสื้อแดงขณะที่ถูกกดดันให้ลาออกจากตำแหน่ง

       ต่อมานายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีในรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช  ก็ได้แถลงที่ทำเนียบรัฐบาล กรณีคณะกรรมการสอบสวนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีมติเบื้องต้นว่าตัวเขาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ มีพฤติกรรมความผิด ตามกฎหมายอาญามาตรา 112 ผู้ใดหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายต่อพระมหากษัตริย์ พระราชินีรัชทายาท หรือ ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ต้องระวางจำคุก 3-15 ปี จากการที่นายจักรภพ ได้ไปบรรยายต่อหน้าผู้สื่อข่าวต่างประเทศ ที่สโมสรผู้สื่อข่าวต่างประเทศประจำประเทศไทย (FCCT) ก่อนที่นายจักรภพ จะไปร่วมชุมนุมกับกลุ่มนปช.ในปี2552 ที่เรียกกันว่า สงกรานต์เลือด และหลังการชุมนุมยุติลงที่ทำเนียบรัฐบาล แกนนำได้เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ พร้อมทั้งมีการออกหมายจับซึ่งนายจักรภพ เป็น1ในแกนนำที่ถูกออกหมายจับ จากนั้นจึงได้หลบหนีออกนอกประเทศ

       อย่างไรก็ตามเส้นทางพลเอก อภิรัชต์ จากแม่ทัพภาคที่1 ก่อนหน้านี้เคยดำรงตำแหน่งสำคัญๆคือ ฝ่ายเสนาธิการกองพลที่ 1 รักษาพระองค์ (พล.1 รอ.) และรองเสนาธิการกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ (รองเสธ.ร.11 รอ.), ผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ (ร.11 พัน 2 รอ.) ก่อนติดยศพันเอก (พ.อ.) ในตำแหน่งเสนาธิการกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ (เสธ.ร.11 รอ.) และเคยเป็นผู้นำทหารในสังกัดกองทัพบกหลายคน หลายเหล่า แถลงข่าวตำหนิพฤติกรรมของ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ซึ่งถือว่าเป็นนายทหารรุ่นพี่และเป็นอาจารย์มาก่อนที่โรงเรียนเสนาธิการทหารบก ที่ออกมากล่าววิพากษ์วิจารณ์ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก  และในต้นปีพ.ศ. 2551 พ.อ.อภิรัชต์ เป็นผู้ที่เข้าไปกระซิบกับนายจักรภพ เพ็ญแข รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลที่มีนายสมัคร สุนทรเวช ให้หยุดพฤติกรรมจาบจ้วงสถาบันจนเป็นที่กล่าวขานเล่าต่อกันมา

       ก่อนได้นี้ ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ ประกาศ แต่งตั้งนายทหารพิเศษ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร มีพระราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม แต่งตั้งนายทหารพิเศษอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 15 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ประกอบมาตรา 4 และมาตรา 9 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการในพระองค์ พ.ศ.2560 มาตรา 10 มาตรา 13 มาตรา 15 และมาตรา 18 แห่งพระราชกฤษฎีกาจัดระเบียบราชการ และการบริหารงานบุคคลของราชการในพระองค์ พ.ศ. 2560 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม แต่งตั้ง พลเอก อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก เป็นนายทหารพิเศษ ประจำกรมทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ กองบัญชาการทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ หน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์